มูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน Reading Culture Promotion Program ได้รับการสนับสนุนจาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (ส ส ส.)
ค้นหา
เกี่ยวกับเรา
โครงสร้างมูลนิธิ
เว็บไซต์ www.happyreading.in.th
เกิดขึ้นเพื่อเป็นพื้นที่กลางของการส่งผ่านข้อมูลความรู้เกี่ยวกับการอ่าน รวมถึงการสื่อสารกับทุกภาคส่วนที่มีความสนใจในด้านการอ่านเพื่อการสร้างเสริมให้เกิดวัฒนธรรมการอ่านสู่สังคมสุขภาวะร่วมกันในสังคมไทย
วิสัยทัศน์
เป็นแผนงานที่มีบทบาทในการกระตุ้น สนับสนุน และสร้างเสริมวัฒนธรรมสังคมการอ่าน สู่การพัฒนาสังคมสุขภาวะ
พันธกิจ
เป็นแผนงานฯ ที่มีบทบาทเป็นองค์กรประสานความร่วมมือในการกระตุ้น สนับสนุน สานพลัง และสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่านสู่สังคมสุขภาวะ
ปรัชญา
สร้างสังคมแห่งการอ่าน คือการลงทุนเพื่ออนาคตที่สร้างสรรค์และยั่งยืน
รู้จักแผนงาน
มูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน ดำเนินงานเป็นแผนงานเชิงรุกสอดคล้องกับยุทธศาสตร์งานของสำนักส่งเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ (สำนัก 5) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มีบทบาทในการสนับสนุน สร้างเสริมและขับเคลื่อนกระบวนการ กลไก มาตรการและนโยบายต่างๆ ทั้งภาครัฐและสังคม ที่เน้นการทำงานในเชิงโครงสร้างและสร้างพื้นที่ระบบนิเวศการอ่านที่นำไปสู่วิถีวัฒนธรรมเพื่อสังคมสุขภาวะ
ความสำคัญ
การอ่าน เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างความเพลิดเพลิน ความสุข การแสวงหาความรู้บ่มเพาะอุดมคติ สามารถเปลี่ยนแปลงความคิด พฤติกรรม และวิถีการดำรงชีวิตปฐมวัยของเด็ก (๐-๖ ปี) เป็นช่วงพื้นฐานสำคัญที่สุดของชีวิต มีการสัมผัส รับรู้และเรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว เพราะโครงสร้างต่างๆ ที่เกียวกับสมองกำลังพัฒนาสูงสุดถึง ๘๐% หากมีการสร้างเสริมพัฒนาการและสิ่งแวดล้อมที่กระตุ้นที่ดีก็จะสามารถสร้างคนดีที่สร้างสรรค์สังคมเป็นสุขได้
การอ่าน มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาสมองของวัยเด็ก สร้างความสุขความเพลิดเพลิน สามารถปลูกฝัง สร้างเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในวัยเด็กและเยาวชน และการสร้างเสริมคุณภาพชีวิตในวัยผู้ใหญ่
การสร้างเสริมให้เกิดวัฒนธรรมและสังคมการอ่าน จึงเป็นฐานทางภูมิปัญญาทั้งภายในและภายนอกอันสำคัญที่จะนำมาสู่การสร้างสังคมสุขภาวะที่ยั่งยืน
วัตถุประสงค์
- ๑. เพื่อพัฒนาศักยภาพเครือข่ายนักส่งเสริมการอ่าน (นักสื่อสารสุขภาวะ) และสร้างเสริมความเข้มแข็งของกลไกส่งเสริมการอ่านให้เกิดความเชี่ยวชาญในการพัฒนาเด็กและครอบครัวด้วยหนังสือและการอ่าน
- ๒. เพื่อพัฒนาองค์ความรู้ และสื่ออ่านสร้างสรรค์ สอดคล้องกับการพัฒนาสุขภาวะเด็ก และครอบครัว รวมถึงเด็กด้อยโอกาส เด็กที่มีความต้องการพิเศษในพื้นที่เปราะบางทางสังคม หนุนเสริมการทำงานของภาคีเครือข่ายให้มีศักยภาพมากขึ้น
- ๓. เพื่อสร้าง หนุนเสริม สนับสนุนการพัฒนานโยบายสาธารณะ และสื่อสารรณรงค์สังคมเพื่อสร้างเสริมระบบนิเวศการอ่านให้เอื้อต่อกระบวนการเรียนรู้สู่วิถีสุขภาวะ ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ
ยุทธศาสตร์สร้างระบบอ่านเพื่อวิถีสุขภาวะ
จากแนวทางการดำเนินงานระยะ 3 ปี ที่สอดคล้องกับตัวชี้วัดแผน 10 (แผนระบบสื่อและวิถีสุขภาวะทางปัญญา) สำนัก 5 สสส. ในปี พ.ศ. 2562 แผนงานฯ มุ่งความสำคัญในการขับเคลื่อนงานระยะสั้นที่ต่อยอดผลสำเร็จจากการขับเคลื่อนนโยบายระดับชาติ คือ มติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติครั้งที่ 9 : การสร้างเสริมสุขภาวะเด็กปฐมวัย ด้วยการบูรณาการอย่างมีส่วนร่วม และ แผนแม่บทส่งเสริมวัฒนธรรมการอ่านสู่สังคมแห่งการเรียนรู้ของไทย พ.ศ. 2560 - 2564 เพื่อให้เกิดแนวทาง เกิดผลปฏิบัติในชุมชนท้องถิ่นที่เป็นพื้นที่ดำเนินงาน อันจะนำไปสู่การสร้างระบบนิเวศการอ่านนำร่อง ที่สามารถเชื่อมต่อกับระบบต่างๆ ทั้งระบบการสาธารณสุข การศึกษา ระบบสวัสดิการสังคม และระบบสื่อสร้างสรรค์ ด้วยยุทธศาสตร์งาน ดังนี้
- ๑. ยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะและพัฒนาพื้นที่ระบบนิเวศการอ่าน :
เพื่อพัฒนา สร้างนโยบาย กลไกการทำงาน และพื้นที่ที่มีระบบนิเวศการอ่านเหมาะสมกับการพัฒนาเด็ก มีกลวิธีในการดำเนินงาน เช่น
- พัฒนาการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายต่างๆ ในการขับเคลื่อนนโยบายระดับชาติและท้องถิ่นที่เอื้ออำนวยให้เกิดวัฒนธรรมการอ่าน เช่น การใช้กองทุนสุขภาพระดับพื้นที่เพื่อการพัฒนาเด็กด้วยการอ่าน การผลักดันให้มีแผนงานนโยบายประจำปี เทศบัญญัติ ธรรมนูญชุมชน ฯลฯ ด้านการส่งเสริมการอ่าน
- พัฒนา สนับสนุน ขยายให้เกิดระบบนิเวศการอ่านที่เหมาะสมกับบริบทพื้นที่ และหรือสามารถเชื่อมโยงระบบ/ โครงสร้างหลัก อาทิ ในโรงพยาบาล ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ชุมชน โรงเรียน ฯลฯ เพื่อสร้างโอกาสในการเข้าถึงการอ่านของกลุ่มเป้าหมาย
- พัฒนาพื้นที่ต้นแบบระบบนิเวศการอ่านเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลง ให้เป็นแหล่งเรียนรู้และเกิดการถ่ายทอด ขยายผลสู่พื้นที่อื่นๆ
- ฯลฯ
- ๒. ยุทธศาสตร์พัฒนาองค์ความรู้และงานสื่อสารสังคม :
เพื่อให้เกิดความรู้ความเชี่ยวชาญในการขับเคลื่อนงาน มีกลไก มีสื่อต้นแบบและงานสื่อสารรณรงค์ที่สร้างความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการอ่านเพื่อสร้างเสริมสุขภาวะ มีกลวิธีในการดำเนินงาน เช่น
- พัฒนาองค์ความรู้ (งานวิจัย/ หลักสูตร /เครื่องมือ /กระบวนการ ) สื่อและนวัตกรรมการส่งเสริมการอ่าน ฯลฯ จากการจัดการความรู้ที่มีองค์กรนำไปยกระดับและขยายผลการทำงาน
- พัฒนากิจกรรม งานเผยแพร่ และสื่อสารรณรงค์สร้างวิถีวัฒนธรรมการอ่านที่สร้างสรรค์ มีชีวิตชีวา โดยเฉพาะการสร้างค่านิยมเลี้ยงลูกด้วยหนังสือเพื่อสร้างสุขภาวะอย่างต่อเนื่อง
- พัฒนาแกนนำ นักส่งเสริมการอ่าน และกลไกขับเคลื่อนงานให้มีศักยภาพในการสื่อสาร และปฏิบัติการขับเคลื่อนระบบนิเวศการอ่านที่สอดคล้องเหมาะสมบริบทท้องถิ่น
- ฯลฯ
- ๓. เชื่อม ประสานกลไกและพัฒนาภาคีเครือข่ายในระดับต่างๆ เพื่อผลักดันกระบวนการสร้างนโยบายสาธารณะ และพัฒนาระบบอ่านที่เหมาะสมต่อการสร้างสุขภาวะของเด็ก เยาวชน ครอบครัว และสังคมไทย
นิยามศัพท์การดำเนินงาน
ระบบนิเวศการสื่อสารเพื่อสุขภาวะกระบวนการสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องด้วยสื่อกิจกรรม และพื้นที่สร้างสรรค์โดยนักสื่อสารสุขภาวะผ่านชุมชนนักปฏิบัติ (Community of Practice – CoP) ที่เชื่อมโยงกับปัจจัยแวดล้อมในบริบทชุมชนทางกายภาพ ชุมชนออนไลน์และปัจจัยแวดล้อมเชิงมหภาคที่สนับสนุนให้เกิดวิถีชีวิตสุขภาวะ ซึ่งครอบคลุมทั้ง 4 มิติ ได้แก่ กาย จิตใจ สังคม และปัญญา
ระบบนิเวศการอ่านคือ ห่วงโซ่และกลไกที่หนุนเสริมให้ผู้อ่านสามารถเข้าถึงการอ่านได้ง่าย และมีการอ่านอยู่ในวิถีชีวิต มีองค์ประกอบสำคัญ 4 ส่วน คือ
- 1. มีการผลิตหนังสือและสื่ออ่านที่สร้างสรรค์ มีเสรีภาพในการผลิต และมีความเป็นธรรมในการจัดจำหน่าย
- 2. มีการจัดบริการหนังสือ สื่ออ่าน และกิจกรรมส่งเสริมการอ่านอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม(ครอบครัว, ระบบสาธารณสุข , ระบบการศึกษา , ชุมชนท้องถิ่น ฯลฯ)
- 3. มีการรณรงค์ สร้างเสริมให้เกิดพฤติกรรมการอ่าน ทั้งในระดับปัจเจก ครอบครัว โรงเรียน ชุมชน และสังคม
- 4. มีนโยบายและงบประมาณระดับชุมชนท้องถิ่น ระดับชาติ ฯลฯ ที่ส่งเสริม สนับสนุนอย่างต่อเนื่อง จนเกิดวิถีวัฒนธรรมการอ่าน
พฤติกรรมการอ่านอย่างต่อเนื่องจนเป็นนิสัยของบุคคล ในทุกพื้นที่ของวิถีการดำเนินชีวิต โดยผู้อ่านรู้สึกเห็นคุณค่า และเห็นคุณประโยชน์จากการอ่าน จนเกิดการถ่ายทอด และสร้างเสริม สนับสนุนการอ่านไปสู่ผู้อื่น
การอ่านเพื่อวิถีสุขภาวะการอ่านที่นำไปสู่การพัฒนาความสามารถด้านต่างๆ ของผู้อ่าน อาทิ จินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ การคิดวิเคราะห์ วิพากษ์ ตีความ ฯลฯ โดยมีความสุขเป็นฐาน เพื่อสร้างความฉลาดรู้ด้านสุขภาพ และการตื่นรู้ทางปัญญา*
ทุกคนทุกคนที่อยู่บนผืนแผ่นดินไทย โดยไม่มีการแบ่งแยกตามฐานะทางเศรษฐกิจ สังคม สภาพทางกาย ความพิการเพศ อายุ ถิ่นที่อยู่ เชื้อชาติ สัญชาติ ศาสนา วัฒนธรรม ความเชื่อ และอุดมการณ์ทางการเมือง
สุขภาพหรือสุขภาวะภาวะของมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งทางกาย ทางจิต ทางปัญญา และทางสังคม เชื่อมโยงกันเป็นองค์รวมอย่างสมดุล (พระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2550 มาตรา3) ประกอบด้วย 4 มิติ ได้แก่ สุขภาวะทางกาย ทางจิต ทางปัญญา และทางสังคม
ปฐมวัยเด็กแรกเกิดถึงก่อนอายุครบ 6 ปีบริบูรณ์ และหมายรวมถึงทารกในครรภ์มารดา (รอการสรุปจาก พรบ.ปฐมวัยฯ ที่จะขยายถึงอายุ 8 ปี)
พื้นที่ต้นแบบระบบนิเวศการอ่านเพื่อสุขภาวะพื้นที่ๆ ที่สามารถเป็นแหล่งเรียนรู้กระบวนการพัฒนาระบบนิเวศการอ่านที่มี องค์ประกอบ ดังนี้
- 1) มีการถอดบทเรียน การพัฒนาให้เห็นองค์ประกอบและลักษณะของระบบ ขั้นตอนการพัฒนาองค์ประกอบ กระบวนการพัฒนาประชาชนในพื้นที่ ตลอดจนปัจจัยและเงื่อนไขของกระบวนการพัฒนาระบบนิเวศการอ่าน
- 2) มีบุคลากรที่มีศักยภาพในการถ่ายทอดบทเรียนที่ทำให้สามารถเรียนรู้ เข้าใจได้ง่าย
- 3) มีพื้นที่แลกเปลี่ยนเพื่อการศึกษาเรียนรู้และหรือขยายผลสู่พื้นที่อื่นๆ
กลุ่มเป้าหมาย
กลุ่มเป้าหมายที่ได้รับผลประโยชน์ได้แก่ เด็กปฐมวัยในครอบครัว เด็กวัยเรียนในโรงเรียน เด็กด้อยโอกาส และเด็กที่มีความต้องการพิเศษในพื้นที่เปราะบางทางสังคม :
แผนงานฯ พบว่า เด็ก เป็นจุดคานงัดที่สำคัญในการทำงาน เพราะเป็นจุดร่วมที่ทุกฝ่ายพร้อมจะเข้ามาสนับสนุนและให้ความร่วมมือ เมื่อรับรู้และทดลองปฏิบัติการส่งเสริมการอ่านยิ่งทำให้เห็นผลการเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ทำให้เกิดความเชื่อมั่นและร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลง และเลือกกลุ่มปฐมวัยด้วยเป็นฐานการพัฒนาทุนมนุษย์ที่สำคัญและคุ้มค่า
กลุ่มเป้าหมายที่ร่วมทำงานขับเคลื่อนเลือกบุคลากรผู้แวดล้อมเด็กและพื้นที่ที่มีบทบาทในการพัฒนาเด็กและสามารถขยายผลในวงกว้าง
- ครอบครัว
- สถานรับเลี้ยงเด็กภาครัฐและเอกชน
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก (ศพด.) และองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น เช่น อบจ., อบต.
- โรงเรียน, ชุมชน
- ภาคประชาสังคม, ภาคธุรกิจ/เอกชน
- หน่วยงานราชการ เช่น กระทรวงสาธารณสุข สช. สปสช. กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงมหาดไทย ฯลฯ
รายชื่อกรรมการของมูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน
ประธานกรรมการ | : น.ส.สุดใจ พรหมเกิด |
รองประธานกรรมการ | : น.ส.พรรณทิพย์ เพชรมาก |
กรรมการ | : นางเกศินี ประทุมสุวรรณ |
: น.ส.ระพีพรรณ พัฒนาเวช | |
: นายโอภาส เชฏฐากุล | |
กรรมการ เหรัญญิก | : น.ส.จิราภรณ์ ทิพยศุภลักษณ์ |
กรรมการเลขานุการ | : นายสรวิชญ์ สุรชวาลา |
การอ่านและนิยามเชิงปฏิบัติการ
การอ่าน คือ กระบวนการแปลความหมายของอักษร สัญลักษณ์ เครื่องหมาย รูปภาพ เป็นกระบวนการคิดที่ต้องมีเหตุผล ต้องเข้าใจความหมายและสามารถนำมาผสมผสานกับประสบการณ์เดิมที่ทีอยู่เพื่อใช้ในการพิจารณาตัดสินเลือกไปใช้ประโยชน์ได้
ดังนั้น "การอ่าน" ในที่นี้จึงมิใช่เพียงการอ่านออกหรืออ่านหนังสือได้ แต่หมายถึงการอ่านที่นำไปสู่การพัฒนาความสามารถในการคิดแบบต่างๆ ของผู้อ่าน อาทิ จินตนาการ การคิดวิเคราะห์ วิพากษ์ ตีความ ฯลฯ
วัฒนธรรมการอ่าน คือ "พฤติกรรมการอ่านอย่างต่อเนื่องจนเป็นนิสัยของบุลคล ในทุกพื้นที่ของวิถีการดำเนินชีวิต โดยผู้อ่านรู้สึกเห็นคุณค่าเละเห็นคุณประโยชน์จากการอ่านจนเกิดการถ่ายทอดและส่งเสริม สนับสนุนการอ่านไปสู่ผู้อื่น" (รายงานการพัฒนาตัวบ่งชี้ "วัฒนธรรมการอ่าน" ของโครงการติดตามและประเมินภายในแผนงานฯ)
ติดต่อมูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน
มูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน (Reading Culture Promotion Program)
ได้รับการสนับสนุนจาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
เลขที่ 424 หมู่บ้านเงาไม้ ซอย จรัญสนิทวงศ์ 67 แยก 3 ถนน จรัญสนิทวงศ์ แขวง บางพลัด เขต บางพลัด กรุงเทพฯ 10700
โทรศัพท์/โทรสาร : 02-424-4616-7 / 02-8811-877
Email : happy2reading@gmail.com
website : www.happyreading.in.th
Facebok : www.facebook.com/Happyreadingnews