แผนการอ่านฯ มอบ “ตู้หนังสือในบ้านเด็ก” เพื่อสร้างโอกาสในการเข้าถึงหนังสือดี ยกระดับเป็นฑูตการอ่านในชุมชน 6 ตำบล 6 อำเภอ จ.ยโสธร
แผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน สสส. ลงพื้นที่มอบตู้หนังสือในบ้านให้กับเด็กน้อยที่ขาดโอกาส ครอบคลุมพื้นที่ 6 ตำบล 6 อำเภอ ในจังหวัดยโสธร โดยการเดินทางในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากคุณพนมวรรณ คาดพันโน นักวิชาการชำนาญการสาธารณสุขจังหวัดยโสธร เป็นผู้นำในการลงพื้นที่เพื่อสร้างสรรค์กิจกรรมดีๆ
จุดหมายแรกของการมอบความสุขให้กับเด็กๆ โดยเริ่มต้นจากการลงพื้นที่บ้านน้องแก้มอิ่ม
เด็กหญิงรตา คาดพันโน อายุ 10 ปี โรงเรียนอนุบาลยโสธร ซึ่งได้รับภารกิจฑูตการอ่าน น้องแก้มอิ่มได้เขียนจดหมายมายังแผนงานฯ เพื่อขอเป็นฑูตการอ่าน โดยตั้งใจไว้ว่าจะจัดบ้านของตนเองให้เป็นศูนย์กลางของชุมชน อยากสอนน้องๆ อ่านหนังสือ ซึ่งโดยปกติแล้วที่บ้านก็จะมีเด็กๆ ในชุมชนเข้ามาเล่น มาทำการบ้านในช่วงวันหยุดเป็นประจำอยู่แล้ว แก้มอิ่มบอกว่า “ตั้งตารอหนังสือเดินทางมาถึงจนนอนไม่หลับ ตื่นเต้นและดีใจ” ซึ่งคุณพ่อและคุณแม่ก็ให้การสนับสนุนอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ตั้งแต่ยังเล็กๆ จนมีนิสัยรักการอ่านจนถึงปัจจุบัน….
จากนั้นเดินทางต่อไปยังบ้านน้องขิง เด็กหญิงวนิดา วันเวียน อายุ 12 ปี ฑูตการอ่านจากโรงเรียนบ้านหนองขอนโพนสิม น้องขิงมีดีกรีเป็น “นักเล่านิทานคุณธรรม” เริ่มต้นการอ่านหนังสือนิทานตั้งแต่ยังเล็ก และเป็นตัวแทนโรงเรียนไปแข่งขันเล่านิทานตั้งแต่เรียนอยู่ชั้นอนุบาล 2 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน น้องขิงมีนิสัยร่าเริง มักจะยืมหนังสือนิทานจากห้องสมุดโรงเรียนกลับมาอ่านให้น้องชายฟังอยู่เป็นประจำ ถึงแม้ว่าครอบครัวของน้องจะยากจน พ่อแม่มีอาชีพทำนา ไม่มีเงินซื้อหนังสือให้อ่าน แต่น้องขิงก็ขนขวายไปหยิบยืมหนังสือจากโรงเรียนกลับมาอ่านที่บ้านเป็นประจำ การได้ตู้หนังสือในบ้านมาในครั้งนี้รู้สึกดีใจมาก เพื่อนบ้านในชุมชนเดียวกัน เมื่อทราบข่าวว่าจะมีผู้ใหญ่ใจดีนำหนังสือมาให้ ก็ออกมาทักทายทีมงานที่เดินทางเข้าบ้านน้องขิงอย่างมากมาย ยินดีกับน้องขิงด้วยจริงๆ คะ
น้องนุ่น เด็กหญิงปิยะธิดา ชูรัตน์ อายุ 10 ปี โรงเรียนบ้านกุดระหวี่ ถึงแม้ว่าจะพูดไม่ค่อยเก่ง แต่ก็เป็นนักอ่านตัวยง ครูหมู นายพินิจ คาดพันโน ผู้อำนวยการการโรงเรียนบ้ากุดระหวี่ ผู้คัดเลือกน้องนุ่นเข้าร่วมโครงการฯ ให้เหตุผลว่า เลือกน้องนุ่นให้เป็นฑูตการอ่านเพราะมีความรับผิดชอบสูง และพื้นที่บริเวณบ้านของน้องนุ่นเป็นศุนย์กลางของชุมชน ถ้าหนังสือได้อยู่ที่บ้านของน้องก็จะเป็นประโยชน์อย่างมากกับเด็กอีกหลายๆ คนในชุมชน
เด็กหญิงฐิติพร มิ่งขวัญ หรือน้องหยก อายุ 11 ปี โรงเรียนบ้านกระจาย น้องหยกนอกจากจะชอบอ่านหนังสือแล้ว เธอยังเป็นจิตอาสาในชมรม To be Number 1 ซึ่งได้รับการคัดเลือกจาก รพ.สต.บ้านกระจาย ให้ทำหน้าที่เป็นบรรณารักษ์น้อยมีหน้าที่คอยดูแลหนังสือภายใน รพ.สต. การยืม-คืน และที่สำคัญผู้ปกครองยังให้การสนับสนุนด้านการอ่านอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ
น้องภูวดล บุญเทศ หรือน้องดล อายุ 9 ปี นอกจากการอ่านหนังสือเพื่อความเพลิดเพลินส่วนตัวแล้ว ยังใช้เวลาว่างอ่านหนังสือให้กับคุณยายฟัง คุณยายบอกว่าน้องดลอ่านหนังสือเก่ง และชอบให้น้องอ่านหนังสือธรรมะให้ฟัง ส่วนหนึ่งจะได้ปลูกฝังเรื่องคุณธรรมให้กับหลานๆ โดยใช้การอ่านเป็นสื่อกลาง ทุกวันนี้คุณยายมีความสุข ที่หลานๆ คอยอ่านหนังสือให้ฟังเป็นประจำทุกวัน ไม่เหงา ยายบอกว่า “ถึงแม้จะมีแต่หลานชายแต่ก็มีความสุขเพราะหลานๆ ไม่เคยทอดทิ้งให้เหงาตามลำพัง” นอกจากนี้พ่อแม่ของน้องยังให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องด้วย

จากนั้นคณะเดินทางต่อ…มาพบกับแก๊งเด็กหัวขวาน เด็กชายชวัลวิชญ์ พาเรือง หรือน้องดุ๊ก วัย 11 ปี โรงเรียนบ้านคำสร้างช้าง พอปิดเทอมก็รวมตัวกับแก๊งเพื่อนๆ 4 คน ตัดผมทรงหัวขวานย้อมผมสีแดง ปั่นจักรยานตามประสาเด็กๆ น้องดุ๊กได้รับคัดเลือกจากคุณหมอนรรถฐิยา ผลขาว นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ รพ.สต.หนองคูน้อย ผู้สร้างโมเดลมหัศจรรย์การอ่าน ให้เป็นฑูตการอ่านประจำชุมชน คุณหมอให้เหตุผลว่า ครอบครัวของน้องดุ๊กเป็นครอบครัวต้นแบบให้การสนับสนุนด้านการอ่านกับลูกหลานเป็นประจำ และมีบ้านอยู่ในชุมชน น้องดุ๊กมีเพื่อนเยอะ และมักจะชวนเพื่อนๆ มาเล่นและอ่านหนังสือที่บ้านเป็นประจำ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการอ่านจะทำให้เด็กๆ ในชุมชน มีพัฒนาการด้านการเรียนที่ดีขึ้น
นอกจากนี้คุณหมอนรรถยังได้มอบโอกาสและภารกิจฑูตการอ่านในชุมชนให้กับน้องโฟน เด็กชายฆธาวุธ จำเริญ อายุ 11 ปี ตำบลน้ำคำ อำเภอไทยเจริญ ที่น่าสนใจคือน้องโฟนจะชอบมายืมหนังสือจาก รพ.สต.หนองคูน้อย กลับไปอ่านที่บ้านเป็นประจำ และครอบครัวก็ยังให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องด้วย
และตำบลสุดท้ายกับสองฑูตการอ่าน โดยการคัดเลือกจากคุณหมอครรชิต จักรสาน รพ.สต.สร้างมิ่ง กับน้องบูม เด็กชายพรมพิริยะ ทาระขจัด อายุ 12 ปี และเด็กหญิงอาทิตยา คมกล้า อายุ 11 ปี ฑูตการอ่านจากโรงเรียนเทศบาลเลิงนกทา คุณหมอได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าเด็กทั้ง 2 คน มีนิสัยรักการอ่าน และให้ความสนใจเข้าร่วมกิจกรรมการอ่านที่ทาง รพ.สต.จัดอย่างต่อเนื่อง มีสถิติการยืมคืนหนังสือภายใน รพ.สต.เป็นประจำ โดยมีผู้ปกครองให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง และอยากให้น้องได้เป็นต้นแบบใหกับเพื่อนๆ ในชุมชนต่อไป
และตำบลกุดชุม อำเภอกุดชุม ตำบลทรายมูล อำเภอทรายมูล ทางคุณพนมวรรณ คาดพันโน ได้เป็นผู้แทนรับมอบตู้หนังสือ เพื่อนำไปส่งมอบต่อยังน้องอีก 2 คนต่อไป
ปิดทริปการเดินทางมอบความสุขให้กับเด็ก ๆ ด้วยตู้หนังสือใบใหญ่ พร้อมหนังสืออีกกว่า 50 เล่ม ถึงแม้อากาศจะร้อนสักเพียงใด หากเดินเข้าไปแล้วพบกับรอยยิ้มของน้องๆ พี่ๆทีมงานก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลย จากนี้ต่อไปการอ่านจะเข้าถึงทุกพื้นที่ แม้แต่พื้นที่ขาดแคลน เด็กจะได้รับการพัฒนาด้วยหนังสือ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของเยาวชนไทยต่อไป….. จากใจพี่ๆ ทีมงานแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน