มูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน | Reading Culture Promotion Foundation

เรื่องราวดีๆจากชุมชนต้นแบบ

เรื่องราวดีๆจากชุมชนต้นแบบ

ภาพเด็กสนใจเปิดอ่านหนังสือจากกล่อง

กล่องใบเล็กๆ บรรจุด้วยหนังสือที่ผ่านการคัดสรรมาอย่างดี ให้เหมาะกับเด็กวัย 0-6 ปี  ที่เวียนไปตามบ้าน เวียนไปตามชุมชน  จากบ้านหนึ่ง สู่อีกบ้านหนึ่ง เป็นส่วนสำคัญของการสรรค์สร้างปลูกฝันนิสัยรักการอ่านหนังสือให้กับเด็กๆ ในชุมชน และสร้างพัฒนาการให้เด็กได้อย่างน่าอัศจรรย์เรียกได้ว่าเป็นความคุ้มค่าที่หาค่าไม่ได้จากการดำเนินการผ่าน “โครงการกล่องหนังสือเคลื่อนที่”

โครงการกล่องหนังสือเคลื่อนที่ ริเริ่มโดย  กลุ่ม “ระบัดใบ” หรืออีกชื่อหนึ่งคือสโมสรส่งเสริมการอ่านเป็นกลุ่มคนที่มุ่งทำงานเรื่องเด็กแบบเกาะติดในพื้นที่จังหวัดระนอง และมุ่งมุ่งพัฒนาเด็กและเยาวชน ผ่านกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ หาวิธีการที่จะทำให้เด็กรักการอ่าน ด้วยเพราะเชื่อว่าหนังสือจะช่วยสร้างพัฒนาการที่ดีให้เด็กๆ ได้ และจะทำให้เด็กเติบโตเป็นผู้ใหญ่ได้อย่างมีคุณภาพ

กลุ่มระบัดใบกำลังทำกิจกรรม เล่านิทานให้เด็กฟัง


สุพจน์ องค์วรรณดี หรือ “พี่ป๊อป” ของเด็กๆ ในฐานะหัวหน้าโครงการฯ เล่าว่า จุดเริ่มต้นของการทำงานนั้น เรามีเป้าหมายที่ชัดเจน มุ่งทำงานที่เรารัก คืองานเกี่ยวกับชุมชนและหนังสือ โดยมีเป้าหลักคือมุ่งพัฒนาเด็กวัย 0-6 ปีจากนั้นจึงพยายามคิดหาเครื่องมือการทำงานให้เสริมสร้างทักษะและการพัฒนาการเหล่านี้ จึงนำมาสู่จุดเริ่มต้นของการสร้างกล่องหนังสือเคลื่อนที่ ซึ่งก็ได้รับการสนุนสนุนเป็นอย่างดีจากแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

ตลอดระยะเวลา 3 ปีของการทำงาน ทุกครั้งไม่ได้โรยไปด้วยกลีบกุหลาบเสมอไปต้องผ่านการต่อสู้มากมาย แต่ก็ทำให้กลุ่มเราได้บทเรียนว่า ความสำเร็จของการพัฒนาและสร้างสรรค์เด็กๆ คือเราจะต้องเริ่มจากเครือข่ายกลุ่มคนที่ใกล้ชิดกับเด็กก่อน อาทิ กลุ่มผู้ปกครอง กลุ่มโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) อาสาสมัครประจำหมู่บ้าน (อสม.) จนทำให้เกิดกลไกการขับเคลื่อนการอ่านในพื้นที่ ประกอบกับการได้รับการสนับสนุนจาก องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น (อปท.) สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ร่วมส่งเสริมและช่วยกันพัฒนา ทำให้งานของกลุ่มมีประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นเครือข่ายที่เข็มแข็ง

สำหรับกล่องหนังสือเคลื่อนที่ จุดมุ่งหมายหลักคือสร้างนิสัยให้เด็กรักการอ่าน และสร้างพัฒนาการให้เด็ก โดยทางกลุ่มจะนำหนังสือที่ผ่านการคัดสรรแล้ว ร่วมกันกับชุมชนที่มาร่วมกันทำงาน บรรจุใส่กล่องเล็กๆ และนำกล่องไปกระจายลงในชุมชน แต่การกระจายก็ไม่ใช่กระจายเฉยๆ เพราะจะต้องสร้างกระบวนการให้เด็กได้เล่นกับหนังสือด้วย สร้างกิจกรรมปลูกฝังให้เด็กๆ รักการอ่านไปในตัวด้วยจากหนังสือเริ่มต้นเพียงไม่กี่เล่ม สะสมไปเรื่อยๆจนปัจจุบันมีหนังสือรวมแล้วกว่า 3,000 เล่ม ที่ได้นำมาใช้เป็นเครื่องมือส่งเสริมสร้างพัฒนาการเด็ก

พี่ป็อป เล่าต่อว่า การเวียนกล่องหนังสือเคลื่อนที่ จะมีรอบการเดินทางหมุนเวียนรอบละ 50 พื้นที่ทั่วจังหวัดระนอง เสมือนกับเป็นห้องสมุดเล็กๆ แต่ข้อได้เปรียบของหนังสือเคลื่อนที่ คือสามารถทำให้หนังสือกลายเป็นที่สนใจได้ดีกว่าหนังสือที่ตั้งวางเฉยๆ อยู่ในห้องสมุด ด้วยเพราะห้องสมุดส่วนใหญ่ขาดบรรยากาสที่ทำให้เด็กๆ เข้าถึงหนังสือมีแต่ความเงียบสงัด  หรือห้องสมุดบางที่ถึงขั้นล็อคกุญแจไว้ แค่เพียงเพราะกลัวหนังสือชำรุดหรือเสียหาย ซึ่งนี้คืออุปสรรคใหญ่ ที่ถือเป็นการปิดกั้นความรู้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่จะต้องร่วมกันหาวิธีและเปลี่ยนความเชื่อที่ขัดขวางการสรรค์สร้างพัฒนาการให้หมดไป

ภาพเด็กสนใจหนังสือ

อย่างไรก็ตามนอกจากการเวียนหนังสือลงไปในแต่ละชุมชนแล้ว ทางกลุ่มระบัดใบจะมีกระบวนการให้ความรู้กับแกนนำชุมชนด้วย เพื่อให้เห็นประโยชน์และเห็นถึงความสำคัญของหนังสือ อาทิให้ความรู้เรื่อง “หนังสือและพัฒนาการกับสมองเด็กปฐมวัย” “การใช้หนังสือเพื่อส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน” เพื่อเป็นการเสริมสร้างและขยายแนวร่วมไปเรื่อยๆเพราะเมื่อผู้ใหญ่สนับสนุน การเปิดโอกาสสำหรับเด็กในชุมชนให้รักการอ่านก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

จากกลยุทธ์ย่อห้องสมุดมาไว้ในกล่อง และให้กล่องเวียนความรู้ไปสู่ชุมชน พร้อมกับกระตุ้นสร้างกิจกรรมอยู่เรื่อยๆ ทำตัวเหมือนเซลล์กระตุ้นยอดขายด้วยเพราะคิดว่าคงมีน้อยคนนักที่อยู่ดีๆ จะมาหยิบหนังสือที่วางไว้อยู่เฉยๆ อ่านประกอบกับปัจจุบันมีสิ่งล่อ สิ่งยั่วยุจำนวนมาก  “กล่องหนังสือเคลื่อนที่” จึงถือเป็นกลยุทธ์ที่สร้างความสำเร็จได้ไม่น้อย เพราะจากอดีตที่หนังสือดูเหมือนเป็นเรื่องไกลห่างจากเด็กในชุมชน เด็กไม่สนใจการอ่าน หรือเรียกได้ว่าเด็กน้อยคนนักจะเข้าถึงหนังสือดีๆ สักเล่ม แต่ปัจจุบันเครือข่ายเราได้ร่วมกันสร้างและกระจายความรู้สู่ชุมชน จนถึงวันนี้ จังหวัดระนองกลายเป็นพื้นที่แห่งการอ่านไปแล้วทั่วทั้ง 5 อำเภอ ซึ่งนี่ถือเป็นความภาคภูมิใจที่ทำให้คนทำงานอย่างเราหายเหนื่อย และทำให้ความฝันที่มุ่งมั่นจะทำให้เด็กได้รักการอ่านและใกล้ชิดกับหนังสือมากขึ้น เป็นจริงขึ้น

และนี่คือจุดเริ่มต้นของการสร้างสรรค์เพื่อร่วมพัฒนาการการอ่านสำหรับเด็ก ซึ่งน่าจะเป็นต้นแบบให้หลายๆ พื้นที่ได้นำไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับบริบทในแต่ละพื้นที่ เพื่อร่วมสร้างพัฒนาการของเด็กให้ก้าวหน้าผ่านตัวหนังสือเหมือนเช่น “กลุ่มระบัดใบ” ในจังหวัดระนอง

 

 

ขอบคุณแหล่งข่าว : http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1355993597&grpid=&catid=19&subcatid=1904