ยุทธศาสตร์เตรียมงานส่งเสริมการอ่านให้เต็มพื้นที่เพื่อลูกหลานของชาวบ้านตำบลเมืองแก
“ผมเห็นข้อมูลผลการสำรวจระดับชาติพบว่า เด็กมีพัฒนาการด้านอารมณ์ และภาษาถดถอย ผมไม่อยากให้สิ่งนี้เกิดขึ้นกับลูกหลานในตำบลเมืองแกแห่งนี้”
นายสุรศักดิ์ สิงห์หาร ปลัดเทศบาลตำบลเมืองแก อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ กล่าวถึงแรงบันดาลใจที่ทำให้ต้องเร่งส่งเสริมการอ่านที่ตำบลเมืองแก เทศบาลตำบลเมืองแก มีศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่อยู่ในความรับผิดชอบ 5 ศูนย์ โดยที่ผ่านมาเทศบาลเมืองมีนโยบายและกิจกรรมเพื่อพัฒนาคุณภาพเด็กปฐมวัยอย่างต่อเนื่อง และจากความสำเร็จของการดำเนินโครงการ ‘ครัวกลาง’ ระหว่าง ศพด.ทั้ง 5 ศูนย์เพื่อให้นักเรียนได้รับประทานอาหารที่มีคุณค่า โภชนาการครบถ้วน ประกอบกับจำนวนนักเรียนที่อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ในระดับประถมศึกษามีมากขึ้น วันนี้คณะผู้บริหาร เทศบาลตำบลเมืองแก จึงจัดเวทีระดมความร่วมมือ จาก หน่วยงานสาธารณสุข นักปฏิบัติ ครู ศพด.และตัวแทนผู้ปกครอง เพื่อประชุมขับเคลื่อนการดำเนินงานส่งเสริมการอ่าน ในวันที่17 กุมภาพันธ์ 2559 เพื่อได้รับรู้ข้อมูลร่วมกันว่า มีหน่วยงานไหนดำเนินงานเรื่องใดแล้วบ้าง จะได้นำมากำหนดทิศทางการหนุนเสริมงานส่งเสริมการอ่านของเทศบาลตำบลเมืองแกอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
นางพรเพ็ญ สำรวมจิต ทันตแพทย์ที่ปรึกษา กล่าวว่า รพ.สต. เมืองแก เห็นความสำคัญของการส่งเสริมการอ่าน จึงอบรม ให้ความรู้แก่คุณแม่ตั้งครรภ์ถึงความสำคัญของการอ่าน นอกจากนี้ยังมีหนังสือให้ผู้ปกครองยืมไปอ่านให้ลูกหลานฟังที่บ้านด้วย และด้วยประสบการณ์ที่มีลูก จึงรู้ว่าเด็กๆจะชอบนิทานมาก โดยลูกจะชอบให้เล่านิทานเรื่องเดิมที่ชอบ เมื่อหยิบนิทานเรื่องนั้น ลูกก็จะทำท่าประกอบตามทันที หนังสือต่างๆก็พอมีอยู่บ้างแล้ว
นางสาวณัฐจารีย์ วิรัตไชย ครู ศพด.โรงเรียนบ้านหนองแวง กล่าวว่า ศพด.หนองแวงเคยได้รับทุนสนับสนุน จาก สสส.ในการพัฒนาสื่อสร้างสรรค์ใน ศพด. ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมาก เพราะทำให้ได้รับการสนับสนุนหนังสือที่มีคุณภาพดี เหมาะสมกับเด็กปฐมวัย ถึง 50 เล่ม นักเรียนระดมประถมศึกษายังสนใจกลับมาอ่านหนังสือให้น้องฟัง และจากการสังเกตพบว่า เมื่อเด็กได้ฟังนิทานอย่างต่อเนื่อง เขาจะนิ่งขึ้น สนใจหนังสือมากขึ้น ตนในฐานะที่เป็นครู ศพด.จึงอยากให้มีผู้สนับสนุนเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง
นางสายสมร นวลตา อายุ 23 ปี ตัวแทนผู้ปกครองกล่าวว่า ลูกได้เรียนใน ศพด.ที่ส่งเสริมการอ่าน หลังจากเลิกเรียน เมื่อกลับมาบ้าน ลูกก็จะขอร้องให้อ่านหนังสือนิทานให้ฟังที เราก็เล่าไม่เป็น สุดท้ายลูกก็เป็นฝ่ายเล่านิทานให้เราฟัง เพราะเขาจำเรื่องราวได้ทั้งหมด
ด้านนางสุดใจ พรหมเกิด ผู้จัดการแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน กล่าวว่า การสร้างเสริมการอ่าน มีปัจจัยสำคัญคือ 1. ทุกคนต้องเห็นคุณค่าของการอ่านร่วมกัน ว่าจะช่วยพัฒนาสมองของเด็กๆ สร้างเสริมคุณภาพและทักษะชีวิตให้กับเด็ก และเป็นกิจกรรมที่ต้องทำต่อเนื่อง 2. มีหนังสือ หรือทรัพยากรการอ่านที่เพียงพอมีคุณภาพ เหมาะสม 3. มีแกนนำส่งเสริมการอ่านร่วมด้วย ช่วยกันทุกระดับ เช่น ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในชุมชน รพ.สต. อสม. และในครอบครัว ซึ่งจากการได้เข้าร่วมประชุมในวันนี้ เชื่อมั่นว่า ในพื้นที่ตำบลเมืองแกไม่ได้เริ่มต้นจากศูนย์ แต่มีบุคลากรหลายท่าน หลายฝ่ายที่ตระหนักถึงความสำคัญของการส่งเสริมการอ่านและมีการดำเนินงานอยู่แล้ว จึงเชื่อว่า การสร้างเครือข่ายและวางกรอบการทำงานร่วมกันจะเกิดขึ้นได้ไม่ยาก ในส่วนของแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน พร้อมที่จะประสานกับนักวิชาการเพื่อหนุนเสริมชุดความรู้ด้านความสำคัญของการอ่านและพัฒนาการของเด็กให้แก่พื้นที่ ก่อนย้ำว่า อยากให้ทุกคนตระหนักว่า การส่งเสริมการอ่านเป็นเรื่องที่ลงมือทำได้เลยนับตั้งแต่ออกจากห้องนี้ ด้วยการเลือกหนังสือดี เหมาะสมแก่วัย และอ่านให้ลูกฟัง
นายสุรศักดิ์ สิงห์หาร กล่าวในช่วงท้ายว่า การมาร่วมประชุมกันวันนี้ ทำให้มองเห็นชัดเจนขึ้นว่า ตำบลเมืองแกเรามีต้นทุนเพื่อสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่านอยู่แล้ว และขาดรอยต่อด้านใดบ้าง เช่น การส่งเสริมการอ่านในเด็กอนุบาล ประถมศึกษา ฯลฯ หลังจากนี้ก็จะเตรียมบุคลกรให้มีความพร้อมยิ่งขึ้น ด้วยการอบรมให้เห็นความสำคัญและประโยชน์ของการอ่าน เพื่อให้ ผู้ใหญ่ในครอบครัว ครู ศพด. ฯลฯ จัดทำโครงการเพื่อส่งเสริมการอ่านในชุมชน ในศูนย์ ศพด. ด้วยตัวเอง ซึ่งในส่วนนี้มีงบประมาณจากกองทุนหลักประกันสุขภาพระดับท้องถิ่นพร้อมให้การสนับสนุนทุกปีอยู่แล้ว ผมจึงคิดว่า หากเป็นลักษณะนี้ การส่งเสริมการอ่านในตำบลเมืองแกจะเกิดความยั่งยืนแน่นอน
www.happyreading.in.th

