มูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน | Reading Culture Promotion Foundation

“ทำอย่างไร หนังสือดีจะกระจายไปถึงมือเด็กได้มากที่สุด”

“ทำอย่างไร หนังสือดีจะกระจายไปถึงมือเด็กได้มากที่สุด”  

นี่คือจุดเริ่มต้นของการทำงานด้านการส่งเสริม “การอ่าน”

 

“ตอนนั้นจำได้ว่าพยายามรวบรวมหาแนวร่วมจากองค์กรที่เกี่ยวข้อง รวมตัวกันเรียกร้องสวัสดิการหนังสือเด็ก ยอมรับว่าเหตุการณ์การบ้านการเมืองเข้ามามีผลกระทบโดยตรง เพราะช่วงนั้นเครือข่ายเราทำให้เกิดสวัสดิการหนังสือเด็กแรกเกิดได้จริงๆในช่วงของรัฐบาลๆหนึ่ง แต่ด้วยเหตุการณ์ผันปลี่ยนทางการเมือง นโยบายสวัสดิการที่เครือข่ายพยายามเรียกร้องให้กับเด็กเอาไว้ “ขาดการสานต่อ””(นางสุดใจ พรหมเกิด ผู้จัดการแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน สสส. กล่าวไว้ในเวทีเสวนา“อนาคตวงจรชีวิตหนังสือในประเทศไทย” วันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ.2558 คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย)

 

คุณสุดใจ พรหมเกิด

 

แผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน เริ่มก่อตั้งขึ้นโดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เริ่มแรกจะเน้นไปที่การค้นหาองค์ความรู้ใหม่ๆ พบว่า หากพ่อแม่อ่านหนังสือภาพหนังสือนิทานให้ลูกฟังอย่างสม่ำเสมอตั้งแต่ลูกยังเล็กหรือแม้กระทั่งอยู่ในครรภ์มารดา เด็กจะมีนิสัยรักการอ่านติดตัวไปตลอดชีวิต

 

แผนงานฯลงพื้นที่ปฏิบัติการในหลายๆพื้นที่ ครอบคลุมทั่วทุกภาคในประเทศไทย ค้นพบโมเดล (model) ต้นแบบกระบวนการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านที่สามารถทำได้หลากหลาย อาทิ กระบวนการส่งเสริมการอ่านโดย “ยุวฑูตการอ่าน” ในโครงการสถานศึกษาต้นแบบชุมชนอ่านสร้างสุข ซึ่งได้รับความสนใจจากครูและผู้บริหารเป็นอย่างดี เพราะเด็กมีผลการเรียนดีขึ้น คะแนนเฉลี่ยจากการสอบวัดผล O-Netก็เพิ่มขึ้นด้วย

 

นอกจากนี้ยังขับเคลื่อนผ่านกลไกอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เป็น “พี่คนที่สองสอนน้องอ่าน” คอยแนะนำพ่อแม่ผู้ปกครอง ผู้ดูแลเด็กให้ตระหนักถึงความสำคัญของการเล่านิทานอ่านหนังสือให้เด็กฟัง,กลไกขับเคลื่อนผ่าน “กล่องหนังสือเดินสาย” หมุนเวียนหนังสือ ปันกันอ่านจากกลุ่มเล็กๆ ขยายไปยังหมู่บ้าน ตำบลและทั่วทั้งอำเภอ ฯลฯ

 

อย่างไรก็ตาม นางสุดใจ พรหมเกิด ผู้จัดการแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน ยืนยันว่าช่วงวัย 0-6 ปีเป็นช่วงสำคัญที่สุดในการวางรากฐานความเกื้อกูล สายใยรักและสัมพันธภาพที่ดีที่เกิดขึ้น จะส่งผลให้เด็กเติบโตมาเป็นประชากรที่มีประสิทธิภาพ วัฒนธรรมการอ่านจะเกิดขึ้นได้ ไม่เพียงแต่หน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเท่านั้น หากแต่เป็นหน้าที่ของ“ทุกคนในสังคมไทย” ….  http://www.happyreading.in.th

 

 

 

ขอบคุณภาพประกอบจาก varietyetc.com