ต้อนรับกรุงเทพฯเมืองหนังสือโลก 56

โดย นิรัีนศักดิ์ บุญจันทร์
แม้ว่าในทุกวันนี้ สื่อในยุคดิจิทัลจะมีการพัฒนาอย่างรวดเร็วและเข้ามามีบทบาทในชีวิตของโลกมนุษย์มากขึ้น แต่ถึงอย่างไรสื่อที่เป็นหนังสือก็ยังออริจินัลความคิดของมนุษย์ที่บ่งบอกให้เห็นถึงความมีอารยธรรมอันสูงส่ง ที่แตกต่างจากสิ่งมีชีวิตทั้งหลายในโลกนี้
เพราะเหตุนี้เอง จึงทำให้หนังสือยังทรงคุณค่าสำหรับคนทุกชาติ ทุกศาสนา และถือเป็นผลผลิตสติปัญญาที่สังคมโลกให้ความสำคัญ รวมทั้งองค์กรที่มีบทบาทต่อมวลมนุษย์ชาติอย่าง UNESCO ด้วย
ยูเนสโกเริ่มแนวคิดการมอบรางวัลเกียรติยศ “เมืองหนังสือโลก” หรือ “World Book Capital” เมื่อปี 2544 โดยคัดเลือกปีละหนึ่งเมืองที่ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการอ่านและการเรียนรู้ รวมทั้งกระตุ้นให้เกิดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยหนังสือในระดับนานาชาติด้วย
สำหรับการคัดสรรเมืองต่างๆ เพื่อยกย่องให้เป็น “เมืองหนังสือโลก” นั้นก็มีลักษณะหลายๆอย่างประกอบกัน เช่น ต้องเป็นเมืองที่มีความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในสังคมในทุกภาคของประเทศ ไปจนถึงความเกี่ยวข้องในระดับนานาชาติ รวมทั้งผลที่น่าจะได้รับจากแผนการส่งเสริมการอ่านทั่วทั้งสังคมของประเทศนั้นๆ ต้องเป็นเมืองที่มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านอย่างมีคุณภาพและต่อเนือง โดยได้รับความร่วมมือจากหลายหน่วยงานวิชาชีพทั้งในประเทศและจากต่างประเทศ เช่น สมาคมนักเขียน สมาคมผู้จัดพิมพ์ สมาคมห้องสมุด สมาคมร้านขายหนังสือ เป็นต้น ต้องเป็นเมืองที่มีโครงการสนับสนุนการพัฒนาหนังสือและการอ่านต้องเป็นเมืองที่ส่งเสริมสนับสนุนในเรื่องเสรีภาพการแสดงออกทางความคิดผู้คนในสังคมสามารถจัดพิมพ์และแจกจ่ายข้อมูลข่าวสารได้โดยอิสระ และต้องมีการวางแผนกิจกรรมที่เกี่ยวกับหนังสืออย่างเป็นระบบในระยะยาวด้วย
ทั้งหมดนี้ เป็นภาพโดยรวมที่ยูเนสโกใช้เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาให้เมืองใดเมืองหนึ่งเป็น “เมืองหนังสือโลก”
ประเทศของเราก็เป็นอีกประเทศหนึ่งที่เคยเสนอชื่อเข้าสู่กระบวนการคัดเลือกของยูเนสโก โดยเสนอเข้าไปในช่วงปี 2549 แต่เนื่องจากช่วงเวลานั้นสถิติการอ่านหนังสือในบ้านเรายังมีน้อย การคัดเลือกให้เมืองเป็นหนังสือโลก จึงตกเป็นของประเทศอื่นๆ คือปี 2551 ได้แก่ กรุงอัมเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์ ปี 2545 เมืองมาดริด-ประเทศสเปน ปี 2546 เมืองนิวเดลี-ประเทศอินเดีย ปี 2547 เมืองอันเวิร์บ-ประเทศเบลเยียม ปี 2548 เมืองมอนทรีออล-ประเทศแคนาดา ปี 2549 เมืองตูรินประเทศอิตาลี ปี 2550 เมืองโบโกตา-ประเทศโคลัมเบีย ปี 2552 เมืองเบรุต-ประเทศเลบานอน
จนกระทั่งถึงปีนี้ UNESCO โดย คณะกรรมการคัดสรรเมืองหนังสือโลก ที่ประกอบด้วย ผู้แทนจากสมาคมผู้จัดพิมพ์นานาชาติ (International Publishers Association-IPA) ผู้แทนจากสมาพันธ์ ผู้ประกอบการร้านหนังสือพิมพ์ (the International Booksellers Federation-IBF ) ผู้แทนสมาพันธ์แห่งสมาคมห้องสมุดนานาชาติ (InternationalFederation of Library Associations-IFLA) และยูเนสโก จึงลงมติเลือก กรุงเทพมหานคร ให้เป็น “เมืองหนังสือโลก”ประจำปี 2556 ในการประชุมร่วมกัน ที่สำนักงานใหญ่ยูเนสโก กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน ที่ผ่านมา ซึ่งการคัดเลือกนี้จะมีการประกาศล่วงหน้า 2 ปี
ดังนั้น นี่จึงเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญ และจะทำให้วงการหนังสือในบ้านเราเกิดความคึกคักอย่างแน่นอน
และเพื่อเป็นการต้อนรับ “กรุงเทพมหานคร” ที่ได้รับคัดเลือกจาก UNESCOให้เป็น“เมืองหนังสือโลก ประจำปี 2556” จึงประเดิมด้วยงานที่เกี่ยวกับหนังสือที่น่าสนใจสองงานด้วยกัน
งานแรกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทยชวนเด็กเยาวชนร่วมกัน “อ่านสนุก ปลุกจินตนาการ” ไปกับกองทัพหนังสือนับล้านเล่มในงาน “เทศกาลหนังสือเด็กและเยาวชนครั้งที่ 9” (Book Fastival for Young People 2011) ซึ่งปีนี้ จัดภายใต้แนวคิด “อ่านสนุก ปลุกจิตนาการ” โดยจะมีกิจกรรมการอ่านมากมาย รวมทั้งการสัมมนาให้ความรู้แก่ผู้ปกครองและครูอาจารย์ และมีหนังสือเพื่อเด็กและเยาวชนจากสำนักพิมพ์ชั้นนำกว่า 300 บูธ มาลดราคาเป็นพิเศษอีกด้วย งานนี้ผู้ปกครองน่าพาลูกๆหลานๆไปเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง การเดินทางไปสะดวกเพราะมีรถไฟใต้ดินถึงหน้างานนั่นเอง
งาน “เทศกาลหนังสือเด็กและเยาวชน ครั้งที่ 9” (Book Fastival for Young People 2011)จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 13-17 ก.ค.2554 เวลา 10.00-20.00 น. ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
อีกงานหนึ่งที่จะช่วยส่งเสริมบรรยากาศการอ่านหนังสือในบ้านเราเกิดความคึกคัก ก็คือ“งานมหกรรมส่งเสริมรักการอ่านสร้างชาติ” ซึ่งงานนี้ทางร้านศูนย์ส่งเสริมรักการอ่านร่วมกับจามจุรีสแควร์ ได้จัดงานนี้ขึ้นเพื่อส่งเสริมและผลักดันเยาวชนไทยของเรานั้นมีนิสัยรักการอ่านเพิ่มมากขึ้น เพื่อเป็นการเสริมสร้างความรู้และสติปัญญา เพิ่มพูนความรอบรู้ต่างๆ ภายในงานเน้นที่หนังสือหลากหลายประเภททั้งความรู้และความบันเทิง และลดราคาแบบสุดๆ ตั้งแต่ 50-80 เปอร์เซ็นต์ เกือบทุกเล่มเลยทีเดียว มีทั้งหนังสือ สำหรับผู้ใหญ่และเด็ก สำหรับเด็กๆเล็กนั้นทางร้านเราก็จะมีหนังสือนิทานอีสป 2 ภาษา มาเสริมสร้างความรู้ทางด้านภาษาอังกฤษ เพียงแค่เล่มละ 10 บาทเท่านั้น งานนี้จัดขึ้นที่ จามจุรีสแควร์ (แยกสามย่าน) เริ่มงานในวันที่ 11 ก.ค. ไปจนถึงวันที่ 22 ก.ค. 2554 ตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น. มีที่จอดรถรองรับได้ถึง 2,000 คัน และมีรถไฟฟ้าดินถึงที่งานที่สถานีสามย่านด้วย
เพื่อเป็นการต้อนรับกรุงเทพมหานครของเราที่ได้รับเกียรติให้เป็น “เมืองหนังสือโลก”…ใครสะดวกงานไหนเชิญกันตามสบายครับ!
ที่มาของแหล่งข่าว
คอลัมน์ : หน้าม่านมายา : ต้อนรับกรุงเทพฯเมืองหนังสือโลก 56
หนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ ฉบับที่ 8323 วันที่ 7 กรกฎาคม 2554

