มูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน | Reading Culture Promotion Foundation

ชวนพ่อแม่ที่มีลูกวัย 0-6 ปี ร่วมกระตุ้นพัฒนาสมองเด็ก

แผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน ชวนพ่อแม่ที่มีลูกวัย 0-6 ปี

ร่วมกระตุ้นพัฒนาสมองเด็ก  หวั่นก่อนถึงอนุบาลก็สายเสียแล้ว

หวังสร้างภูมิคุ้มกันเติบโตเป็นผู้ใหญ่รู้จักถูกผิด ควบคุมอารมณ์ตนเองได้

……………………………………………..

แผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน เผยเด็กวัย 0-6 ปี เป็นระยะ“วิกฤติพัฒนาการทางสมอง” ที่พ่อแม่ต้องกระตุ้นประสาทสัมผัสทั้ง 6  ซ้ำๆ  โดยใช้หนังสือเป็นสื่อ เพื่อพัฒนาสมองเด็กให้เกิดการเรียนรู้เชื่อมโยงกัน  พร้อมเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่รู้จักถูกผิด มีจริยธรรม ควบคุมอารมณ์ตัวเองได้

      นางสาวสุดใจ พรหมเกิดผู้จัดการแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เปิดเผยว่า   เด็กวัย 0-6 ปี พ่อแม่ ผู้ปกครองสามารถพัฒนาการเรียนรู้ตามช่วงอายุของเด็กได้เพราะช่วงเวลาดังกล่าวคือ “ระยะวิกฤติพัฒนาทางสมอง” ตามการค้นพบของนักทฤษฎี “หน้าต่างแห่งโอกาส” ที่พบว่าช่วงเวลา 0-6 ปีของเด็กแรกเกิด เป็นช่วงเวลาสำคัญที่ดีที่สุดของการเรียนรู้ที่ธรรมชาติมอบให้

      หนังสือเปรียบเสมือนของเล่นชิ้นสำคัญของเด็กที่พ่อแม่ควรให้ลูกได้หยิบจับและอ่านให้เด็กฟัง  ซึ่งจะทำให้ระบบสายใยประสาทเกิดการเชื่อมต่อกัน  การอ่านให้เด็กฟังตั้งแต่ทารก ยังเป็นการบ่มเพาะสายสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ด้วยกัน เมื่อเด็กได้เรียนรู้ผ่านความรู้สึกรักก็จะช่วยให้มีโอกาส จดจำได้ดีและจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีนิสัยพึงประสงค์ของสังคม

      พ่อแม่ผู้ปกครองควรเริ่มต้นให้เด็กอ่านหนังสือได้ตั้งแต่ยังอยู่ในวัยทารก เนื่องจากตามหลักการแพทย์พบว่าเด็กทารกจะเริ่มปรับโฟกัสสายตาได้ตั้งแต่อายุ 4-6 เดือน ดังนั้นผู้ใหญ่จึงควรฉกฉวยช่วงระยะเวลาที่เหมาะสมในการกระตุ้นพัฒนาการของเด็ก มิฉะนั้นแล้ว กระบวนการทำงานของสมองก็จะขาดหายไปตลอดกาล โอกาสแห่งการพัฒนาจะล่วงผ่านเลยไป ไม่สามารถเรียกคืนกลับมาได้

      ผู้จัดการแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน  กล่าวว่า   ถึงแม้ช่วงที่เป็นทารกนั้นเด็กจะยังอ่านหนังสือไม่ออก แต่ถ้าหากพ่อแม่หยิบยื่นหนังสือภาพที่มีภาพวาดเสมือนจริงให้เด็กในระยะ 4-6 เดือนได้ดู  หนังสือภาพจะมีส่วนในการกระตุ้นการมองเห็น และเมื่อพ่อแม่อ่านเรื่องให้ฟังด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล จะส่งผลดีด้านภาษาแก่เด็ก เป็นโอกาสให้เด็กได้สะสมคลังคำ ซาบซึ้งในเนื้อหา เกิดจินตนาการสร้างสรรค์ 

      “การที่พ่อแม่เข้าใจว่าเด็กทารกยังไม่อ่านนั้นเป็นความเข้าใจผิด เพราะความจริงคือเด็กมองเห็นภาพ เรียนรู้ผ่านภาพ เขาจะมองว่าหนังสือเป็นของเล่นที่เป็นตัวแทนความรัก และจะจดจำหนังสือออกมาเป็นภาษาภาพ พ่อแม่ที่อ่านหนังสือให้เด็กฟังก่อนเข้าเรียน ป. 1 จะทำให้เด็กอ่านหนังสือได้อัตโนมัติเมื่อเข้าโรงเรียน”  ผู้จัดการแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่านกล่าว

      สำหรับหนังสือภาพที่เหมาะสมสำหรับเด็กวัย 0-2 ปี นั้น ควรมีขนาดที่เหมาะมือเด็ก มีภาพวาดประกอบต้องชัดเจน เป็นภาพง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน ไม่มีฉากรกรุงรัง วัสดุที่นำมาใช้ต้องมีความปลอดภัยจากสารเคมี เพราะเด็กอาจนำเข้าปากหรือเลียหนังสือ มุมของหนังสือต้องไม่คม กระดาษควรมีสีสันถนอมสายตา ช่วงเวลาแห่งการเรียนรู้ดังกล่าวพ่อแม่ ผู้ปกครองควรกระตุ้นให้ได้รับการเรียนรู้ซ้ำๆ โดยช่วงวัย 0-6 เดือน เด็กจะเรียนรู้จากหนังสือที่เปรียบเสมือนของเล่นที่คุ้นเคยด้วยการอม กัด ขว้าง ดม  ชอบเพลง คำคล้องจอง จึงควรหาหนังสือที่มีขนาดเล็กปลอดภัยสำหรับเด็ก   ช่วง 7-12 เดือน เด็กจะชอบหนังสือที่มีภาพชัดเจน 

      ช่วง 1-2 ปี  เด็กจะสนใจภาพมากกว่าเนื้อเรื่องชอบนิทานที่สั้นๆ  ในเด็กวัย 3 ปี ถ้าเด็กชอบหนังสือก็จะชอบอ่านไปตลอดชีวิต เด็กจะมีจินตนาการสร้างสรรค์ ชอบให้พ่อแม่อ่านให้ฟังซ้ำๆ และจะเชื่อมโยงหนังสือกับชีวิตประจำวัน วัย 4 – 6  ปี เด็กยังชอบฟังนิทานซ้ำๆ  พ่อแม่ผู้ปกครองควรหานิทานที่มีเนื้อเรื่องที่เหมาะสม เพื่อบ่มเพาะนิสัยที่พึงประสงค์ให้กับเด็ก

………………………………………….

* นักทฤษฎี “หน้าต่างแห่งโอกาส” (windows of Opportunity)หรือระยะวิกฤติของพัฒนาการของสมอง : ฮูเบิล(David Hubel)   และทอร์สทิว วีเชิล (Torsteu Wiesel)

 

 

 

 

 

ผู้แทนประชาสัมพันธ์

ข้อมูลเพิ่มเติม: วารี หาญบุญทรง   โทร.081 827 2221