“จากแรงบันดาลใจของนักเขียน…สู่แนวทางการขับเคลื่อนเมืองนักอ่าน” กับกลุ่มวรรณกรรมภูเก็จ
เราควรจะส่งเสริมการอ่านกันอย่างไร คำถามนี้หากยิ่งได้พูดคุย แลกเปลี่ยนจากผู้คนที่หลากหลาย เราก็ยิ่งได้แนวทางส่งเสริมการอ่านที่กว้างขวาง สร้างสรรค์
บางคนอาจบอกว่า การอ่านควรเริ่มต้นจากครอบครัว
และหลายคนมองว่า การอ่านส่งเสริมได้ตั้งแต่เด็กยังอ่านหนังสือไม่ออก เพราะอย่างน้อย เขาก็เริ่มผูกพันและสานสายใยกับหนังสือ
แล้วในฐานะนักเขียนซึ่งเป็นผู้ที่รักการอ่านมาก่อน มองเรื่องนี้อย่างไร…เราอยากรู้
บ่ายวันที่ 25 เมษายน 2559 ที่ผ่านมา เรา(เจ้าหน้าที่แผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน)จึงนัดพูดคุยแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเครือข่ายนักเขียนกลุ่มวรรณกรรมภูเก็จ ณ ร้านหนัง(สือ) 2521 เพื่อสัมผัสแนวทางการส่งเสริมการอ่านในจังหวัดภูเก็ต
.jpg)
ท่ามกลางผลงานศิลปะ ทั้งภาพวาด ภาพเขียน ที่รายล้อม แสงไฟส่องสว่างนวลตา สุนทรียสนทนาของเราก็เริ่มต้นขึ้นที่นี่…ตรงจุดที่กลุ่มวรรณกรรมภูเก็จบอกเล่าเรื่องราวของตัวเองให้เราได้รู้จักมากยิ่งขึ้น
.jpg)
ปี 2540 เครือข่ายนักเขียนกลุ่มวรรณกรรมภูเก็จได้เริ่มต้นขึ้น จากกลุ่มคนที่มีความรักในการอ่าน รักในการทำหนังสือเหมือนกัน เมื่ออ่านแล้ว ตกหลุมรักหนังสือเล่มใด ก็หยิบยื่นแบ่งปันให้แก่กัน เมื่อความรักที่มีต่อการอ่านก้าวข้าม ดื่มด่ำสู่การเขียน สมาชิกในกลุ่มก็ร่วมใจลงขันจัดพิมพ์หนังสือของเพื่อนสมาชิก เพื่อเผยแพร่และจัดจำหน่าย
“เราไม่มีกำลังอะไร แต่เราก็รวมเงินกันทำ” เสน่ห์ วงษ์คำแหง รุ่นพี่ของกลุ่มฯ เล่าถึงความหลังอย่างอิ่มเอมใจ
กว่า 19 ปี ด้วยความเชื่อในพลังของหนังสือ ความรักในการอ่าน และความชอบขีดเขียน กลุ่มวรรณกรรมภูเก็จจึงมีผลงานเผยแพร่ให้นักอ่านได้ติดตามอย่างสม่ำเสมอ เช่น รวมเรื่องสั้น อาณาเขตทรงจำ เกาะที่มีมนุษย์ล้อมรอบ อันดามัน:เพลงโศกแห่งศตวรรษ ธรรมชาติของการตาย เดียวดายฤดู อีกวันแสนสุข 2527 โดยมีสมาชิกหลากหลายรุ่นประกอบด้วย เสน่ห์ วงษ์คำแหง วันเสาร์ เชิงศรี ขวัญยืน ลูกจันทร์ สมชาย บำรุงวงษ์ ชิด ชยากร รัตนชัย มานะบุตร วิวัฒน์ เลิศวิวัฒน์วงศา และ นพ.มารุต เหล็กเพชร หรือ นฆ ปักษาวิน
.jpg)
แล้วการสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่านในทัศนะของนักเขียนควรจะเริ่มอย่างไร
“เริ่มกับเด็กที่รักการอ่าน เพราะเด็กจะชวนเพื่อนๆมาอ่านด้วยกันเป็นลูกโซ่” วันเสาร์ เชิงศรี ผู้มีประสบการณ์เป็นครูกล่าวอย่างเชื่อมั่น ก่อนเพิ่มเติมว่า กิจกรรมต่างๆ เช่น การสร้างค่ายนักเขียน เห็นว่า ควรให้ความสำคัญกับการสร้างค่ายนักอ่านก่อน เพราะคนที่จะเป็นนักเขียนจะมีความรักในการอ่านอยู่แล้ว และสามารถฝึกฝนได้เอง แต่ควรทำเรื่องการอ่านให้เป็นพื้นฐานที่แข็งแรงเสียก่อน
นอกจากนี้การทำให้ผู้บริหารโรงเรียน องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ตระหนักถึงความสำคัญของหนังสือและการอ่าน ย่อมจะทำให้เกิดความร่วมมือและกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการอ่านในพื้นที่ ในโรงเรียนอย่างจริงจัง
นี่คือข้อแนะนำที่เขาช่วยชี้ทางให้เรา และเราหวังว่าจะได้ร่วมงานกับกลุ่มวรรณกรรมภูเก็จเพื่อสร้างสรรค์กิจกรรมส่งเสริมการอ่านต่อไป… เชื่อว่าแนวทางจะสร้างสรรค์ไม่ต่างจากเอกลักษณ์ของพวกเขาเลย
.jpg)
.jpg)

