มูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน | Reading Culture Promotion Foundation

การต้อนรับอบอุ่น นั่งได้นอนได้ การจูงเด็กเข้าสู่โลกของการอ่าน ของห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ ๕๐ พรรษา ศูนย์รวมใจออสเตรีย – ภูเก็ต

 
            ห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ ๕๐ พรรษา ศูนย์รวมใจออสเตรีย – ภูเก็ต
           เพียงแรกก้าวเข้ามาด้านใน บรรยากาศเงียบสงบ  ชั้นหนังสือสีขาว สะอาดตาเติมเต็มด้วยหนังสือเล่มเล็ก เล่มใหญ่ จนเต็มทุกชั้น ทุกแถว กระจกใสรอบด้านเปิดให้ความเขียวสดชื่นจากต้นไม้รอบนอกและแสงสว่างเข้ามาด้านใน เกิดเป็นบรรยากาศสบายตา เบาะนุ่มหลากสีถูกนำมาปูเรียงเป็นบ่อกว้าง ให้เด็กๆได้นั่ง ได้นอนอ่านหนังสือ มีบันไดวนที่ไต่ขึ้นชั้นสองจากลานกลาง กำลังบอกเรา-ผู้มาเยือน ว่า 
 
          “ขึ้นมาข้างบนสิ ยังมีหนังสือรอให้อ่านอีกเยอะเลย” 
 
           เราจึงคิดว่า นี่ไม่ใช่เพียงสถานที่จัดเก็บหนังสือ หากแต่การจัดสรรพื้นที่ยังคำนึงถึงบรรยากาศการอ่านของผู้อ่านทุกช่วงวัยอีกด้วย 

  

          เจริญ พรหมมินทร์ บรรณารักษ์ชำนาญการ กองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม อบจ.ภูเก็ต เล่าถึงการก่อตั้งห้องสมุดแห่งนี้ว่า จากเหตุคลื่นสึนามิ ในปี พ.ศ.2547 อบจ.ภูเก็ตได้ให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ มูลนิธิ Hilfswerk แห่งประเทศออสเตรีย จึงประสงค์ตอบแทนน้ำใจของคนไทยด้วยให้การสนับสนุน อบจ.ภูเก็ต จัดสร้างอาคารหลังนี้ให้เป็นห้องสมุด แหล่งพักผ่อน หย่อนใจเพื่อเยียวยาจิตใจของผู้ประสบภัยพิบัติ 
 
          ห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ ๕๐ พรรษา ศูนย์รวมใจออสเตรีย – ภูเก็ตจึงก่อตั้งขึ้น และเป็นห้องสมุดแห่งที่ 4 ที่อยู่ในความดูแลของ องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต 
 
          หลังจากเปิดดำเนินการ ห้องสมุดฯได้พัฒนาปรับปรุงเพื่อส่งเสริมให้เกิดบรรยากาศการอ่านอย่างรื่นรมย์มาอย่างต่อเนื่อง เช่น การสอบถามหนังสือที่น่าสนใจจากร้านหนังสือและจัดซื้อหนังสือเข้าห้องสมุดให้บ่อยขึ้น จัดกิจกรรมหนุนเสริมอย่างหลากหลาย เช่น วาดเส้น ระบายสี ประดิษฐ์หนังสือทำมือ ฯลฯ และยังร่วมมือกับเทศบาลและหน่วยงานเอกชนจัดกิจกรรมเพื่อสนับสนุน ส่งเสริมการอ่านมาอย่างต่อเนื่อง 
 
        กว่า 11 ปีที่ห้องสมุดเปิดดำเนินการ การเปลี่ยนแปลงทีละเล็ก ทีละน้อย จึงเริ่มผลิดอกออกผลอย่างงดงาม
 
         จิตรา ชายอีด บรรณารักษ์ กล่าวว่า คนที่เข้ามาใช้บริการมีทุกกลุ่มช่วงอายุ โดยเฉพาะเด็กๆ ซึ่งจากความใกล้ชิดทำให้เห็นพัฒนาการการอ่านของเด็ก คนนี้เราจำได้ว่า ปี 2549 น้องเขาอ่านหนังสือแบบนี้ แต่ตอนนี้เขาอ่านอีกแนวหนึ่ง  การอ่านอย่างต่อเนื่อง ทำให้เขามีความสนใจที่เปิดกว้าง และอ่านหนังสือหลากหลายมากขึ้น 
 

           เจริญ พรหมมินทร์  กล่าวเสริมว่า ไม่เพียงเด็กมีพัฒนาการการอ่านที่ดีขึ้น ห้องสมุดแห่งนี้ยังกลายเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชุมชน และเป็นแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญให้แก่โรงเรียน อบจ.สาธิตร่วมพัฒนา ผลสำเร็จที่เกิดขึ้นนี้ไม่เพียงเป็นเพราะห้องสมุดตั้งอยู่บนพื้นที่ใจกลางของชุมชน หากแต่ทัศนคติในการปฏิบัติงานของบรรณารักษ์เป็นสิ่งซึ่งมีความสำคัญยิ่งกว่า
 
            “เด็กที่เข้ามาใช้บริการห้องสมุดมาจากชุมชนรอบๆซึ่งหลากหลายมาก บางพื้นที่ก็เป็นพื้นที่เสี่ยง แต่เมื่อเด็กๆ ทุกคนก้าวเข้ามาหาเรา ที่นี่จะเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัย พ่อแม่ทุกคนรู้สึกไว้วางใจ แต่เราเป็นบรรณารักษ์ ถ้าเราอยากให้เขาอ่านหนังสือ เราก็ต้องยึดหลักเป็นพี่เลี้ยง เจ้าหน้าที่ทุกคนที่นี่รู้แล้วว่า การเชิญชวนให้เด็กอ่านหนังสือ วิธีการที่ดีที่สุดคือ เราต้องใช้หลักจิตวิทยา เราต้องค่อยๆเติมน้ำดีให้เขา ค่อยๆเติมน้ำดีให้เขาอย่างต่อเนื่อง สังคมจะดีเอง”
 
           ว่ากันว่าหนังสือเล่มหนึ่ง  อาจไม่เคยถูกเปิดและวางอยู่บนชั้นจนถูกโล๊ะทิ้ง นี่คือความจริงที่เกิดขึ้นแล้วในหลายๆห้องสมุด แต่สำหรับที่นี่เพียงได้สัมผัสกับบรรยากาศแห่งการอ่านและน้ำใจไมตรีจากบุคลากรทุกคน เชื่อว่าความสุขแห่งการอ่านจะสามารถผลิบานได้อย่างไม่ยากเลย