ประชุมหารือร่วมออกแบบ “มุมสงบ 1 ตารางเมตร อ่านเล่นยกกำลังสุขในพื้นที่ปลอดภัย”
เมื่อวันอังคารที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2568 ณ ห้องประชุมอรุณอัมรินทร์ ชั้น 2 โรงแรมรอยัล ซิตี้ กรุงเทพฯ
แผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน สสส. ร่วมกับ รศ.นพ.เทอดพงศ์ ทองศรีราช ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้กำหนดจัดประชุมหารือร่วมออกแบบ “มุมสงบ 1 ตารางเมตร อ่านเล่นยกกำลังสุขในพื้นที่ปลอดภัย” วันอังคารที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2568 ณ ห้องประชุมอรุณอัมรินทร์ ชั้น 2 โรงแรมรอยัล ซิตี้ กรุงเทพฯ
มีผู้เข้าร่วมประชุม 26 คน จาก 11 องค์กร ประกอบด้วย ผู้แทนจากคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล, สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.), สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.), วิทยาลัยพยาบาลกองทัพบก, สาขาวิชาวิทยุและโทรทัศน์ คณะวารสารศาสตร์ และสื่อมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, มูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็ก (มพด.), เครือข่ายเงินอุดหนุนเด็กเล็กถ้วนหน้า, ศูนย์หนังสือจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, สหทัยมูลนิธิ, มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็กประเทศไทย และแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน สสส.
ที่มาของ “มุมสงบ 1 ตารางเมตร อ่านเล่นยกกำลังสุขในพื้นที่ปลอดภัย” สืบเนื่องจากแผนงานฯ ได้จัดทำหนังสือวิชาการ วารสารอ่านสร้างสุข ปลูกกล้ากลางไฟ : แนวทางการดูแลจิตใจและเลี้ยงดูเด็กในภาวะสงครามขึ้น เพื่อเสริมพลังใจให้ครอบครัว อาสาสมัคร และบุคลากรด้านเด็กที่ต้องทำงานท่ามกลางสถานการณ์ความรุนแรง, สงคราม ได้ประยุกต์ใช้เป็นแนวทางลดผลกระทบเชิงลบที่มีต่อเด็ก ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว พร้อมเสนอแนวทางการดูแล เยียวยา ฟื้นฟู ด้วยพื้นที่ปลอดภัยจากความสัมพันธ์กับผู้ใหญ่ที่ไว้วางใจได้ เป็นคู่มือคำแนะนำการปฏิบัติการสำหรับพื้นที่ที่เป็นมิตรต่อเด็ก – Operational Guidance for Child Friendly Spaces ได้เสนอเกณฑ์ขั้นต่ำที่เรียบง่าย สำหรับการฟื้นฟู เยียวยา และพัฒนาเด็ก
เปิดเวทีประชุม โดยนางสุดใจ พรหมเกิด กล่าวว่า “พลังของหนังสือมีพลังมากกว่าการอ่านออกเขียนได้ แต่สามารถช่วยเยียวยา ดึงเด็กออกจากภาวะวิกฤต อาทิ หางตุ้ม หูตั้ง ที่ร่วมกับธนาคารจิตอาสา ใช้ประเด็นการสร้างภูมิคุ้มใจให้เด็ก ทั้งนี้การมาร่วมหารือกันในครั้งนี้ จะเป็นการแลกเปลี่ยนเปิดพื้นที่ปลอดภัย ด้วยพื้นที่ 1×1 เมตร เพื่อเยียวยาเด็กในภาวะวิกฤตร่วมกันกับหน่วยงานต่างๆ”
ด้าน รศ.นพ.เทอดพงศ์ ทองศรีราช ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้นำเสนอข้อมูลการศึกษา “มุมสงบ 1 x 1 เมตร เพื่อการฟื้นฟู เยียวยา และพัฒนาเด็กในสถานการณ์ที่เปราะบาง” ด้วยเหตุการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ทำให้เด็กๆ ในพื้นที่ดังกล่าว ประสบภาวะหวาดกลัว ความเครียดจากการพรากจาก การสูญเสีย ฯลฯ ส่งผลกระทบต่อพัฒนาการ อารมณ์ จิตใจ จิตสังคม ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการเติบโตอย่างมั่นคงของเด็ก ข้อสังเกตจากประสบการณ์ทตรงพบว่า ภาวะวิกฤตจะเป็น Risk หรือ Resilience กับเด็กปฐมวัยได้ จากการช่วยเหลือและการสนับสนุนจากบริบทแวดล้อม นำมาสู่แนวคิดของการพัฒนาหนังสือวิชาการ อ่านสร้างสุข ปลูกกล้ากลางไฟ : แนวทางการดูแลจิตใจและเลี้ยงดูเด็กในภาวะสงครามโดยมี หัวใจสำคัญ เพื่อดึงสมองให้ลงมาอยู่ในภาวะปกติ หากสมองอยู่ในภาวะที่จะสู้หรือจะหนี จะนำไปสู่ความถดถอยทางการเรียนรู้ lost generation ของเด็ก
องค์การยูนิเซฟ ได้ให้หลัก 4 ป. เพื่อประคองเด็กและครอบครัวท่ามกลางสงคราม คือ ปลอดภัย ปลอบขวัญ ป้องกัน และเปิดบริการ
Child Friendly Spaces (CFS) เกิดขึ้นในภาวะสงครามโคโซโว (Kosovo War) คือ 1) พื้นที่ “ปลอดภัย” สำหรับเด็ก 2) ใช้ฐานทรัพยากร และโครงสร้างของชุมชน 3) กระบวนการมีส่วนร่วมของเด็ก–ครอบครัว–ชุมชนและ 4) ครอบคลุม (ไม่เลือกปฏิบัติ) เนื่องจากในต่างประเทศมีความหลากหลายทางเชื้อชาติ และเพศสภาพ เพื่อเรียนรู้ความแตกต่าง ลดการเกลียดชัง หลักการ คือ 1) คุ้มครองเด็ก (protection) และ เสริมพัฒนาการ/การเรียนรู้ , 2) เชื่อมบริการพื้นฐานแบบบูรณาการ (สุขภาพ จิตสังคม การศึกษา สันทนาการ) และ 3) วางระบบร่วมมือกับโรงเรียน/บริการชุมชนตั้งแต่ต้น
จากการเปิดเวทีระดมแนวคิด ความร่วมมือและการพัฒนาออกแบบมุมสงบผู้เข้าร่วมประชุมได้เสนอความคิดเห็นหลากหลาย ได้ร่วมพัฒนา ออกแบบ และจะขยายผลหลักการนี้ต่อพื้นที่เปราะบางที่อาจประสบภาวะวิกฤติที่ไม่จำเพาะต่อภาวะสงครามเท่านั้น แต่จะพัฒนาออกแบบพื้นที่ปลอดภัยฯ ไปยังพื้นที่อื่นๆ ในลำดับต่อไป

แผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน สสส. ร่วมกับ รศ.นพ.เทอดพงศ์ ทองศรีราช ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้กำหนดจัดประชุมหารือร่วมออกแบบ “มุมสงบ 1 ตารางเมตร อ่านเล่นยกกำลังสุขในพื้นที่ปลอดภัย” วันอังคารที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2568 ณ ห้องประชุมอรุณอัมรินทร์ ชั้น 2 โรงแรมรอยัล ซิตี้ กรุงเทพฯ

มีผู้เข้าร่วมประชุม 26 คน จาก 11 องค์กร ประกอบด้วย ผู้แทนจากคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล, สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.), สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.), วิทยาลัยพยาบาลกองทัพบก, สาขาวิชาวิทยุและโทรทัศน์ คณะวารสารศาสตร์ และสื่อมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, มูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็ก (มพด.), เครือข่ายเงินอุดหนุนเด็กเล็กถ้วนหน้า, ศูนย์หนังสือจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, สหทัยมูลนิธิ, มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็กประเทศไทย และแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน สสส.

ที่มาของ “มุมสงบ 1 ตารางเมตร อ่านเล่นยกกำลังสุขในพื้นที่ปลอดภัย” สืบเนื่องจากแผนงานฯ ได้จัดทำหนังสือวิชาการ วารสารอ่านสร้างสุข ปลูกกล้ากลางไฟ : แนวทางการดูแลจิตใจและเลี้ยงดูเด็กในภาวะสงครามขึ้น เพื่อเสริมพลังใจให้ครอบครัว อาสาสมัคร และบุคลากรด้านเด็กที่ต้องทำงานท่ามกลางสถานการณ์ความรุนแรง, สงคราม ได้ประยุกต์ใช้เป็นแนวทางลดผลกระทบเชิงลบที่มีต่อเด็ก ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว พร้อมเสนอแนวทางการดูแล เยียวยา ฟื้นฟู ด้วยพื้นที่ปลอดภัยจากความสัมพันธ์กับผู้ใหญ่ที่ไว้วางใจได้ เป็นคู่มือคำแนะนำการปฏิบัติการสำหรับพื้นที่ที่เป็นมิตรต่อเด็ก – Operational Guidance for Child Friendly Spaces ได้เสนอเกณฑ์ขั้นต่ำที่เรียบง่าย สำหรับการฟื้นฟู เยียวยา และพัฒนาเด็ก

เปิดเวทีประชุม โดยนางสุดใจ พรหมเกิด กล่าวว่า “พลังของหนังสือมีพลังมากกว่าการอ่านออกเขียนได้ แต่สามารถช่วยเยียวยา ดึงเด็กออกจากภาวะวิกฤต อาทิ หางตุ้ม หูตั้ง ที่ร่วมกับธนาคารจิตอาสา ใช้ประเด็นการสร้างภูมิคุ้มใจให้เด็ก ทั้งนี้การมาร่วมหารือกันในครั้งนี้ จะเป็นการแลกเปลี่ยนเปิดพื้นที่ปลอดภัย ด้วยพื้นที่ 1×1 เมตร เพื่อเยียวยาเด็กในภาวะวิกฤตร่วมกันกับหน่วยงานต่างๆ”

ด้าน รศ.นพ.เทอดพงศ์ ทองศรีราช ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้นำเสนอข้อมูลการศึกษา “มุมสงบ 1 x 1 เมตร เพื่อการฟื้นฟู เยียวยา และพัฒนาเด็กในสถานการณ์ที่เปราะบาง” ด้วยเหตุการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ทำให้เด็กๆ ในพื้นที่ดังกล่าว ประสบภาวะหวาดกลัว ความเครียดจากการพรากจาก การสูญเสีย ฯลฯ ส่งผลกระทบต่อพัฒนาการ อารมณ์ จิตใจ จิตสังคม ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการเติบโตอย่างมั่นคงของเด็ก ข้อสังเกตจากประสบการณ์ทตรงพบว่า ภาวะวิกฤตจะเป็น Risk หรือ Resilience กับเด็กปฐมวัยได้ จากการช่วยเหลือและการสนับสนุนจากบริบทแวดล้อม นำมาสู่แนวคิดของการพัฒนาหนังสือวิชาการ อ่านสร้างสุข ปลูกกล้ากลางไฟ : แนวทางการดูแลจิตใจและเลี้ยงดูเด็กในภาวะสงครามโดยมี หัวใจสำคัญ เพื่อดึงสมองให้ลงมาอยู่ในภาวะปกติ หากสมองอยู่ในภาวะที่จะสู้หรือจะหนี จะนำไปสู่ความถดถอยทางการเรียนรู้ lost generation ของเด็ก

องค์การยูนิเซฟ ได้ให้หลัก 4 ป. เพื่อประคองเด็กและครอบครัวท่ามกลางสงคราม คือ ปลอดภัย ปลอบขวัญ ป้องกัน และเปิดบริการ
Child Friendly Spaces (CFS) เกิดขึ้นในภาวะสงครามโคโซโว (Kosovo War) คือ 1) พื้นที่ “ปลอดภัย” สำหรับเด็ก 2) ใช้ฐานทรัพยากร และโครงสร้างของชุมชน 3) กระบวนการมีส่วนร่วมของเด็ก–ครอบครัว–ชุมชนและ 4) ครอบคลุม (ไม่เลือกปฏิบัติ) เนื่องจากในต่างประเทศมีความหลากหลายทางเชื้อชาติ และเพศสภาพ เพื่อเรียนรู้ความแตกต่าง ลดการเกลียดชัง หลักการ คือ 1) คุ้มครองเด็ก (protection) และ เสริมพัฒนาการ/การเรียนรู้ , 2) เชื่อมบริการพื้นฐานแบบบูรณาการ (สุขภาพ จิตสังคม การศึกษา สันทนาการ) และ 3) วางระบบร่วมมือกับโรงเรียน/บริการชุมชนตั้งแต่ต้น

จากการเปิดเวทีระดมแนวคิด ความร่วมมือและการพัฒนาออกแบบมุมสงบผู้เข้าร่วมประชุมได้เสนอความคิดเห็นหลากหลาย ได้ร่วมพัฒนา ออกแบบ และจะขยายผลหลักการนี้ต่อพื้นที่เปราะบางที่อาจประสบภาวะวิกฤติที่ไม่จำเพาะต่อภาวะสงครามเท่านั้น แต่จะพัฒนาออกแบบพื้นที่ปลอดภัยฯ ไปยังพื้นที่อื่นๆ ในลำดับต่อไป