Happy Reading
โดย มูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน
Facebook
Youtube
Email
รู้จักมูลนิธิฯ
เกี่ยวกับเรา
ช่องทางบริจาค
ติดต่อเรา
กิจกรรม
กิจกรรม
ปฏิทินกิจกรรม
The Reading
ห้องสมุดมูลนิธิฯ
หนังสือเพื่อเด็กปฐมวัย
ชุดนิทานเตือนภัยบุหรี่ไฟฟ้า "เด็กปลอดพอด"
หนังสือผลิตโดยแผนฯ
วารสารอ่านสร้างสุข
หนังสือวิชาการด้านการอ่าน
หนังสือฝึกอ่านตามระดับ ชุด อ่าน อาน อ๊าน
หนังสือฝึกอ่านตามระดับ ชุด อ่าน อาน อ๊าน 2
หนังสือรางวัล
ภาคีส่งเสริมการอ่าน
ดาวน์โหลด
ธนาคารหนังสือ
ช่องทางบริจาค
หน้าแรก
ข่าวกิจกรรม
2 เมษา วันพระราชสมภพ กรมสมเด็จพระเทพฯ, วันหนังสือเด็กแห่งชาติ เครือข่ายร่วมสร้างวัฒนธรรมการอ่าน รณรงค์นโยบาย 3 เล่มในบ้าน สานพลังพลเมืองเด็ก
2 เมษา วันพระราชสมภพ กรมสมเด็จพระเทพฯ, วันหนังสือเด็กแห่งชาติ เครือข่ายร่วมสร้างวัฒนธรรมการอ่าน รณรงค์นโยบาย 3 เล่มในบ้าน สานพลังพลเมืองเด็ก
2 เมษา วันพระราชสมภพ กรมสมเด็จพระเทพฯ, วันหนังสือเด็กแห่งชาติ เครือข่ายร่วมสร้างวัฒนธรรมการอ่าน รณรงค์นโยบาย 3 เล่มในบ้าน สานพลังพลเมืองเด็ก
วันที่ 2 เมษายน ของทุกปี ตรงกับวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในปี พ.ศ. 2552 คณะรัฐมนตรีกำหนดให้เป็น “วันรักการอ่าน” และตรงกับ “วันหนังสือเด็กแห่งชาติ” และ “วันหนังสือเด็กนานาชาติ”
ทั้งนี้ นางสุดใจ พรหมเกิด ผู้จัดการแผนงานยุทธศาสตร์สร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน สสส. กล่าวว่า “เพราะ “การอ่าน” เป็นปัจจัยสำคัญของกระบวนการศึกษาเรียนรู้ตลอดชีวิต และยังสร้างภูมิคุ้มกัน พัฒนาจิตใจ และทักษะสู่การเป็นพลเมืองสร้างสรรค์ ทางเครือข่ายได้ดำเนินงานรณรงค์อย่างต่อเนื่อง เช่น ได้มอบหนังสือ 3 เล่ม ให้กับแม่ตั้งครรภ์ หรือเด็กแรกเกิดในโรงพยาบาล-ชุมชน, การขับเคลื่อนนโยบายสวัสดิการหนังสือเพื่อเด็กปฐมวัย, การร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร หนุนนโยบาสวัสดิการหนังสือ 3 เล่มในบ้านเด็กปฐมวัย ซึ่งขณะนี้กรุงเทพมหานครได้นำร่องมอบหนังสือเป็นของขวัญแก่เด็กแรกเกิด ณ โรงพยาบาลในสังกัด เมื่อวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา, การเข้าร่วมสนับสนุนนโยบาย 3 เร่ง 3 ลด 3 เพิ่ม ด้วยการอ่านเพื่อเด็กปฐมวัย เพื่อให้เกิดผลเร่งด่วนในการร่วมแก้ไขปัญหาพัฒนาการล่าช้าด้านภาษาซึ่งจะส่งผลต่อพัฒนาการด้านอื่นๆ ฯลฯ หากพ่อแม่ได้มีโอกาสจัดเวลาคุณภาพ อ่านหนังสือให้เด็กฟังตั้งแต่เด็กยังเล็กๆ เด็กๆ จะได้ฝึกทักษะการเรียนรู้ ทักษะสมอง EF (Executive Functions) และทักษะชีวิตที่จำเป็นในทุกๆ ด้าน รวมถึงสร้างสายสัมพันธ์และความเกื้อกูลต่อเพื่อนมนุษย์”
เพื่อยันยันถึงความสำคัญในการรณรงค์ผลักดันให้เกิดนโยบายสวัสดิการหนังสือ 3 เล่มในบ้านเด็กปฐมวัย นางสุดใจกล่าวต่อว่า “ทางแผนงานฯ การอ่าน สสส. ร่วมกับ เครือข่ายอ่านยกกำลังสุขทุกภูมิภาค จัดทำโครงการ “การติดตามประมวลผลการดำเนินโครงการสวัสดิการหนังสือ 3 เล่มในบ้าน สร้างพลังพลเมืองเด็ก” ศึกษากลุ่มครอบครัวเปราะบางที่ไม่มีหนังสือนิทานในบ้าน และพร้อมที่จะร่วมกิจกรรม “อ่านหนังสือให้ลูกฟัง” รวม 642 ครอบครัว ดำเนินการโดย ผศ.ดร.ฮารีซอล ขุนอินคีรี และ ผศ.ดร.สรินฎา ปุติ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ผลพบว่า “เด็กมีพัฒนาการทางภาษาดีขึ้น มีความสนใจหนังสือมากขึ้น มีความตั้งใจ และมีสมาธิมากขึ้น รองลงมาคือ เด็กช่างสังเกต ช่างสงสัย ซักถามมากขึ้น มีจินตนาการ และรู้จักนำคำศัพท์ที่มีในหนังสือมาใช้ในการสนทนา รวมถึงเลียนแบบพฤติกรรมจากตัวละครในหนังสือ งานวิจัยยังพบว่า “เด็กมีพัฒนาการด้านการรับรู้ เข้าใจภาษา และด้านการใช้ภาษาอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ตอกย้ำความสำคัญว่า หนังสือและกิจกรรมหลังการอ่าน เยียวยาเด็กและพัฒนาเด็กได้แม้ยามวิกฤต จึงนับเป็นเครื่องมือและกระบวนการสำคัญในการแก้ปัญหาพัฒนาการล่าช้าด้านภาษา หากรัฐบาลได้ประกาศเป็นนโยบาย “3 เล่มในบ้าน สร้างพลเมืองเด็ก”
ทั้งนี้ทางสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT), มูลนิธิหนังสือเด็กไทยสู่สากล (ThaiBBY) เครือข่ายอ่านยกกำลังสุขและแผนงานฯ การอ่าน สสส. ยังได้เชิญชวนเครือข่ายสำนักพิมพ์สร้างสรรค์หนังสือเด็ก ร่วมสนับสนุนการขับเคลื่อนนโยบาย สวัสดิการหนังสือ “3 เล่มในบ้าน สร้างพลเมืองเด็ก” โดยคัดสรรหนังสือสำหรับเด็ก 0-3 ปี ในราคาพิเศษ เพื่อรณรงค์ให้หน่วยงานต่างๆ จัดซื้อมอบเด็กๆ ทุกพื้นที่ หน่วยงาน, ผู้สนใจสามารถสแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดูหนังสือราคาพิเศษได้ในโปสเตอร์รณรงค์นี้
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เพจ “อ่านยกกำลังสุข” หรือฝ่ายสื่อสารรณรงค์ แผนงานยุทธศาสตร์สร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน สสส. โทรศัพท์ : 02-424-4616
แชร์หน้านี้