Happy Reading โดย มูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน

“แบ่งกันอ่าน ปันความสุขทั่วผืนเกาะ”

แผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่านยกหนังสือขึ้นเกาะเปิดตัวโครงการ

“แบ่งกันอ่าน ปันความสุขทั่วผืนเกาะ”

     

                เมื่อกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา แผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่านร่วมกับกลุ่มแบ่งกันอ่านฯ จัดหาหนังสือดีสำหรับเด็กเพื่อมอบแก่เด็กๆ บนเกาะลิบง จังหวัดตรัง ท่ามกลางความยินดีของผู้ใหญ่และความตื่นเต้นสนุกสนานของเด็กๆ

          เกาะลิบงเป็นเกาะขนาดกลางตั้งอยู่ในทะเลอันดามัน ประชากรดั้งเดิมร้อยเปอร์เซ็นต์นับถือศาสนาอิสลาม ซึ่งสอดรับกับโครงการคัดสรรหนังสือดี ๑๐๘ ของแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรม ที่ส่งรายการหนังสือทั้งหมดให้มูลนิธิเพื่อศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย คัดเลือกหนังสืออีกครั้งเพื่อมิให้ขัดต่อหลักคำสอนตามศาสนา และได้รายชื่อหนังสือ ๑๐๒ เล่มที่เหมาะสม ดังนั้น จึงมั่นใจได้เต็มที่ว่า หนังสือทั้งหมดที่นำมามอบแก่เด็กนั้นตรงตามวัยและส่งเสริมหลักการทางศาสนา

                การยกหนังสือขึ้นเกาะครั้งนี้ นับเป็นการทำงานกับชุมชนเกือบทั่วทั้งผืนเกาะ ทุกกลุ่มเป้าหมาย นับแต่พ่อแม่ ผู้ปกครอง เด็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก นักเรียนชั้นอนุบาลและชั้นประถมศึกษา ที่ได้ทั้งฟังนิทานสนุกและได้รับมอบหนังสือกันถ้วนหน้า โดยเฉพาะครอบครัวที่มีเด็กเล็ก ได้รับหนังสือกันไปเป็นของส่วนตัวคนละเล่ม

                ระพีพรรณ พัฒนาเวช ผู้แทนกลุ่มแบ่งกันอ่านปันความสุขเล่าว่า เคยมาเที่ยวที่เกาะลิบง และเห็นว่าเป็นชุมชนใหญ่ ปลูกบ้านเรือนอยู่ติดๆ กัน มีเด็กเยอะมากๆ และที่เห็นว่าเป็นโอกาสดีที่จะนำหนังสือเข้ามาสู่เด็กๆ ก็เพราะว่า นี่ที่มีไฟฟ้าเพียงวันละ ๑๒ ชั่วโมง ดังนั้น ทุกครอบครัวจึงมีเวลาคุณภาพอยู่ร่วมกันมาก ทำให้คิดว่า ถ้าเด็กๆ และครอบครัวมีหนังสืออ่านด้วยกัน มันจะดีแค่ไหน จึงเกิดที่มาของโครงการ แบ่งกันอ่าน ปันความสุข ทั่วผืนเกาะ

          “ในการนำหนังสือมาคราวนี้ เราไม่ใช่จู่ๆ ก็เอาหนังสือไปให้เลย แต่เราทำความเข้าใจร่วมกันก่อนว่า การอ่านหนังสือให้ลูกฟังนั้น ดีอย่างไร มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน มีการหารือร่วมกันว่า จะทำอย่างไรให้เด็กๆ ได้มีหนังสือมากยิ่งขึ้น ก็ได้ข้อสรุปว่า พ่อแม่ที่ได้รับหนังสือไปนั้น เมื่อถึงเวลาระยะหนึ่ง เขาจะเอาหนังสือมาแลกกัน ทำให้เหมือนลูกๆ มีหนังสือเพิ่มมากขึ้นการทำงานครั้งนี้ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากผู้นำชุมชน ชาวบ้านน่ารักมาก ใจดีและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกันและกัน

                การนำหนังสือมาแบ่งปันกันอ่านในครั้งนี้ มีกลุ่มเป้าหมายอยู่ที่เด็กนักเรียนชั้นอนุบาลในโรงเรียน ซึ่งมีอยู่ถึง ๓ โรงเรียน ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่มีเด็กเล็กๆ เกือบ ๑๐๐ คน และในครอบครัวที่มีเด็กตั้งแต่แรกเกิดจนถึงสองขวบครึ่งอีกนับร้อย ทุกแห่งเริ่มต้นด้วยกิจกรรมเหมือนกันทั้งหมดคือ ‘การเล่านิทานและการอ่านหนังสือให้ฟัง’เพื่อให้ครูได้เห็นวิธีการใช้หนังสือ เพื่อให้เด็กได้สนุกกับหนังสืออันจะส่งผลต่อการอ่านในโอกาสต่อไป ไม่เว้นแม้กระทั่งในเวทีของพ่อแม่ที่มีลูกเล็กๆ ก็ยังได้ฟังนิทานกึ่งๆ สาธิตการใช้หนังสือ เพื่อพวกเขาจะได้เห็นว่า เด็กๆ นั้นชื่นชอบหนังสือมากแค่ไหน และเด็กมีความสุขอย่างไรเมื่อมีคนเล่านิทานหรืออ่านหนังสือให้ฟังและเมื่อกิจกรรมเล่านิทาน-อ่านหนังสือจบลง เด็กๆ ต่างกรูกันมาเพื่อดูและเห็นหนังสืออย่างใกล้ชิด จึงนับเป็นการเริ่มต้นในการส่งเสริมการอ่านนับแต่วัยเยาว์วัยอย่างแท้จริง

                นับจากนี้อีกไม่นาน เกาะลิบงก็จะมีไฟฟ้าเข้ามาตลอด ๒๔ ชั่วโมง ซึ่งแน่นอนว่าจะเข้ามาพร้อมกับนำโทรทัศน์ เกมคอมพิวเตอร์ และเครื่องเล่มดีวีดี ต่างๆนานาด้วย แผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่านจึงใช้โอกาสอันดีที่เด็กๆ ยังไม่ติดโทรทัศน์กันงอมแงมนี้ ปลูกฝังนิสัยรักการอ่านเสียแต่เนิ่นๆ เพราะเราเชื่ออย่างยิ่งว่า “เด็กที่ติดหนังสือจะไม่ปฏิเสธการดูโทรทัศน์ แต่เด็กที่ติดโทรทัศน์จะปฏิเสธหนังสืออย่างสิ้นเชิง”

 

 

ขอขอบคุณบทความจาก "กลุ่มแบ่งกันอ่านปันความสุข"