มูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน | Reading Culture Promotion Foundation

เครือข่ายขบวนการสร้างเสริมสุขภาพภาคประชาชนเปิดเวทีใช้งบฯ สสส. ปฏิรูป “ระบบสุขภาพ”

            วันที่ 22 ตุลาคม 2558 ณ ห้องนมัสการชั้น 4 อาคารคริสตจักรแห่งประเทศไทย เครือข่ายขบวนการสร้างเสริมสุขภาพภาคประชาชน ซึ่งประกอบด้วยองค์กรภาคสังคมด้านการพัฒนาสุขภาวะของประชาชน อาทิ เครือข่ายรณรงค์ป้องกันแอลกอฮอล์ เครือข่ายองค์กรผู้หญิง เครือข่ายองค์กรด้านเด็ก เยาวชน และครอบครัว เครือข่ายผู้ใช้แรงงาน เครือข่ายแรงงานนอกระบบ เครือข่ายผู้พิการและด้อยโอกาส เครือข่ายผู้ติดเชื้อ เครือข่ายเกษตรพันธะสัญญา เครือข่ายกลุ่มชาติพันธุ์ เครือข่ายศาสนา เครือข่ายพุทธิกา เครือข่ายประกันสังคม เครือข่ายสุขภาวะทางเพศ และเครือข่ายส่งเสริมการอ่าน ร่วมแถลงการณ์ “สนับสนุนให้ นิยามการเสริมสร้างสุขภาพของ สสส. ยึดตามกฎหมายปัจจุบัน และให้ สสส. เป็นกลไกอิสระ ที่ตรวจสอบได้ และประชาชนมีส่วนร่วม”
            คณะผู้แถลงการณ์กล่าวว่า ปัญหาเรื่องสุขภาวะในปัจจุบันมีความซับซ้อน และครอบคลุมมากไปกว่าเรื่องร่างกาย เพราะยังรวมไปถึงด้านจิต และสังคม ตามนิยามที่ระบุไว้ในพระราชบัญญัติกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ พ.ศ. 2544
             พร้อมชี้แจงถึงกิจกรรมซึ่งเป็นข่าวในสื่อมวลชนว่าไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องสุขภาวะ แต่ในความเป็นจริงสามารถส่งผลต่อสังคมและพฤติกรรมด้านสุขภาพของประชาชนคนไทยได้อย่างมีนัยสำคัญ เช่น กิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี ที่เป้าประสงค์คือการสร้างพื้นที่ทางเลือกให้แก่ประชาชนในการเฉลิมฉลองวันขึ้นปีใหม่ แทนการกินดื่มและเมาข้ามปี กิจกรรมดังกล่าวที่ สสส. เข้าไปหนุนเสริมทำให้เกิดกระแสไปทั่วประเทศ จนหลายๆ วัดที่แม้ไม่ได้ขอทุนสนับสนุนจาก สสส. แต่เมื่อเห็นว่าเป็นกิจกรรมที่ดีร่วมจัดตาม ได้โอกาสพัฒนาวัด ชวนคนตั้งต้นสู่ชีวิตใหม่ด้วยการเข้าวัด ไม่ใช่แค่ผู้เฒ่าผู้แก่ แต่ยังรวมไปถึง ครอบครัว เด็ก โดยเฉพาะคนหนุ่มสาว
              หรือการทำงานส่งเสริมการอ่านที่ไม่ใช่การแก้ปัญหาการอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ แต่เป็นการใช้การอ่านเป็นเครื่องมือในการนำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่สร้างเสริมสุขภาพ คือการพัฒนาเด็กแรกเกิดถึง 6 ปี ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญ ที่ต้องมีระบบการเข้าถึงชุมชน ตั้งแต่คลินิกฝากท้อง คลินิกสุขภาพเด็ก รพสต. ไปจนถึงสร้างความร่วมมือข้ามกระทรวงในระดับชาติ เช่น ร่วมมือกับ สปสช.
           คณะผู้ร่วมแถลงการณ์กล่าวว่า ย้ำ ไม่ได้ออกมาปกป้อง สสส. หลายองค์กรดำเนินงานแก้ไขปัญหาสังคมมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 – 20 ปี และเห็นว่าการตรวจสอบเป็นเรื่องที่ถูกต้อง ทุก ๆ องค์กรก็ควรได้รับการตรวจสอบ ไม่เพียงแต่ สสส. เท่านั้น แต่ในฐานะองค์กรภาคประชาสังคม ต้องการสิทธิในการชี้แจงถึงผลสำคัญที่เกิดขึ้นเมื่อภาคประชาสังคมได้เข้าถึงแหล่งทุนที่สะดวกขึ้น ทำให้มีศักยภาพในการสร้างสรรค์กระบวนการใหม่ ๆ  การทำงานเชิงลึก ยืดหยุ่น และหรือรวดเร็วขึ้นกว่าที่บางครั้งกลไกภาครัฐไม่อาจทำได้ในภาวะที่สังคมมีปัญหาซับซ้อนเช่นขณะนี้ นี่เป็นกระบวนการปฏิรูประบบสุขภาพที่ประชาชนมีส่วนร่วม ไม่ใช่การทำงานแข่งกับรัฐ
            จากนั้นทางเครือข่ายขบวนการสร้างเสริมสุขภาพภาคประชาชน จึงได้อ่านแถลงการณ์ เพื่อแสดงเจตนารมณ์สนับสนุนให้ สสส. ได้รับการตรวจสอบ โดยเปิดเผย โปร่งใส และประชาชนมีส่วนร่วม เพื่อให้ทิศทางอนาคตการดำเนินงานของ สสส. เป็นไปอย่างถูกต้องและเกิดประโยชน์ในการพัฒนาสุขภาวะของประชาชนต่อไป
 
 
แถลงการณ์เครือข่ายขบวนการสร้างเสริมสุขภาพภาคประชาชน
“สนับสนุนให้ นิยามการเสริมสร้างสุขภาพของสสส.ยึดตามกฏหมายปัจจุบัน
และให้ สสส.เป็นกลไกอิสระ ที่ตรวจสอบได้ อย่างมีมาตรฐาน  มีส่วนร่วม”
 
            ตามที่ขณะนี้ หลายฝ่ายได้ดำเนินการตรวจสอบการดำเนินงานเกี่ยวกับการใช้จ่ายงบประมาณ และจะให้มีการแก้ไขกฎระเบียบของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) อีกทั้งมีกระแสข่าวทางสื่อมวลชนเกี่ยวกับการดำเนินงานของ สสส. ทั้งด้านบวกและลบอย่างกว้างขวางนั้น
           เครือข่ายสร้างสุขภาพภาคประชาชน ประกอบด้วยองค์กรภาคสังคมด้านการพัฒนาสุขภาวะของประชาชนหลากหลายกลุ่ม ทั้งกลุ่ม เด็ก ครอบครัว สตรี  คนพิการ แรงงานนอกระบบ ผู้บริโภค คนจนเมืองและชนบท กลุ่มชาติพันธุ์ ฯลฯ ได้ดำเนินงานในการแก้ไขปัญหาสังคมมาอย่างยาวนานไม่ต่ำกว่า 20-30 ปี และเมื่อกำเนิด สสส.ขึ้นในสังคม จึงได้ร่วมเป็นภาคีเครือข่ายขับเคลื่อนการสร้างเสริมสุขภาพกับเครือข่ายของสสส.อย่างต่อเนื่อง  จากประสบการณ์และบทเรียนในการทำงานกับ สสส.ทำให้พบว่า สสส.เป็นองค์กรนวตกรรมของสังคมไทย โดยเป็นกลไกสนับสนุนให้เกิดยุทธศาสตร์แนวทางใหม่ๆเพื่อแก้ไขปัญหาสุขภาพของสังคมที่ซับซ้อนและสะสมมายาวนาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระบวนการที่สร้างการมีส่วนร่วมของกลุ่มต่างๆที่หลากหลายที่กลไกภาครัฐเข้าไม่ถึง ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาและสร้างเสริมสุขภาพอย่างยั่งยืนด้วยตนเอง ซึ่งปรากฏผลลัพธ์ผลสำเร็จในหลายกรณีตามการรายงานของสื่อสารมวลชนตลอดหลายปีที่ผ่านมา 
           ดังนั้นเครือข่าย จึงมีข้อเสนอต่อสังคมในประเด็น สสส .ดังต่อไปนี้
           1) ขอสนับสนุน ให้การดำเนินงานของสสส. มีขอบเขตการเสริมสร้างสุขภาพ ตามนิยามที่ระบุไว้ใน พระราชบัญญัติกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ พ.ศ. 2544 ซึ่งหมายถึง “การใด ๆ ที่มุ่งกระทำเพื่อสร้างเสริมให้บุคคลมีสุขภาวะทางกาย จิต และสังคม โดยสนับสนุนพฤติกรรมของบุคคล สภาพสังคม และสิ่งแวดล้อมที่จะนำไปสู่การมีร่างกายที่แข็งแรง สภาพจิตที่สมบูรณ์ อายุยืนยาว และคุณภาพชีวิตที่ดี” ทั้งนี้เนื่องจากนิยามดังกล่าว สะท้อนแนวคิดสุขภาพแบบองค์รวม ที่ทั่วโลกยอมรับ เช่น การประเมินผล 10 ปี สสส. โดยองค์การอนามัยโลก( WHO) และธนาคารโลก ชื่นชมการทำงานของ สสส. และขอให้เป็นต้นแบบขยายผลไปยังประเทศอื่นๆด้วย และจากบทเรียนของเครือข่ายที่ทำงานด้านนี้อย่างยาวนาน พบว่าสามารถคลี่คลายปัญหาสุขภาพที่มีความซับซ้อนอย่างได้ผล 
           2) ขอสนับสนุนหลักการที่ให้ สสส. และองค์กรอิสระอื่นๆ  เป็นองค์กรที่มีธรรมาธิบาล ตรวจสอบได้ โดยกลไกและกระบวนการตรวจสอบการดำเนินการของ สสส. และองค์กรเหล่านั้น ก็ต้องเป็นไปอย่างมีระบบ มีมาตรฐาน มีขั้นตอนที่ถูกต้อง ซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับสากล โดยต้องไม่เลือกปฏิบัติ เปิดเผย โปร่งใส ตามหลักธรรมาภิบาล ที่สำคัญยิ่งจะต้องเปิดโอกาสให้ผู้ถูกตรวจสอบและผู้เกี่ยวข้องได้แก่เครือข่ายต่างๆ ซึ่งทำงานเกี่ยวกับสุขภาพอยู่ทั่วประเทศได้มีโอกาสได้รับรู้และมีส่วนร่วมในการชี้แจงให้ข้อมูลอย่างเป็นธรรม และต้องให้สังคมได้มีส่วนร่วมรับรู้ข้อเท็จจริงด้วย 
         3) สสส. คือ องค์กรที่เป็นกลไกอิสระ เป็นบทพิสูนจ์ว่าได้สร้างนวัตกรรมทางสังคมมากมาย สสส. คือ กองทุนของภาคประชาสังคม แม้ว่าจะมีการปรับปรุงการทำงานของ สสส. ให้มีประสิทธิภาพซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกหน่วยงานพึงกระทำอยู่แล้ว แต่ควรคงไว้ซึ่งหลักการและเจตนารมณ์การทำงานของ สสส. ที่เป็นกลไกสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน  และให้มีความเป็นอิสระควบคู่กับกลไกการตรวจสอบที่มีมาตรฐาน  โดยมีข้อมูลวิชาการที่เชื่อถือได้รองรับ  และที่สำคัญให้ประชาชนเข้าถึงและมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวาง 
           เครือข่ายตระหนักว่า สสส. เป็นกองทุนของประชาชนทั้งประเทศ ดังนั้นประชาชนจึงควรมีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางอนาคตการดำเนินงานของ สสส.เพื่อให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาประเทศอย่างแท้จริง

22 ตุลาคม 2558
เครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์    เครือข่ายองค์กรผู้หญิง     เครือข่ายองค์กรด้านเด็ก เยาวชน และครอบครัว     เครือข่ายผู้ใช้แรงงาน     เครือข่ายแรงงานนอกระบบ     เครือข่ายผู้พิการ  และผู้ด้อยโอกาส     เครือข่ายผู้บริโภค     เครือข่ายผู้ติดเชื้อ      เครือข่ายเกษตรพันธะสัญญา     เครือข่ายกลุ่มชาติพันธุ์     เครือข่ายศาสนา     เครือข่ายประกันสังคม คนทำงานเครือข่ายส่งเสริมการอ่าน     เครือข่ายพุทธิกา และเครือข่ายสุขภาวะทางเพศ