มูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน | Reading Culture Promotion Foundation

อำเภอเมืองยโสธร ขับเคลื่อน “อำเภอรักการอ่าน” ตั้งแต่เด็กปฐมวัย

           แผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน ร่วมกับ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยโสธร และเครือข่ายส่งเสริมการอ่าน จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ “สนุกกับนิทานและสื่อสร้างสรรค์สำหรับเด็ก” ให้แก่ครูและผู้ดูแลเด็กจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เจ้าหน้าที่ รพ.สต. และอบต. ในเขตอำเภอเมืองยโสธร จำนวนกว่า 90 คน ในวันที่ 12-13 พฤษภาคม 2559 ณ ห้องประชุมมรกต โรงแรมเจพี เอ็มเมอรัลด์ ยโสธร โดยคุณสุดใจ พรหมเกิด ผู้จัดการแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดการอบรม ซึ่งการอบรมในครั้งนี้ได้รับเกียรติจากคณะวิทยากรจากมูลนิธิเมล็ดฝัน เน้นการจัดกระบวนการส่งเสริมการอ่านด้วยนิทานและการผลิตสื่อสร้างสรรค์สำหรับเด็กปฐมวัยโดยใช้วัสดุเหลือใช้ อาทิ กล่องนม ขวดพลาสติก รวมถึงการชั้นวางหนังสือ D.I.Y จากกระดาษลัง 
            นอกจากนี้ นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ได้เข้ามาเยี่ยมเยียนให้กำลังใจผู้เข้าร่วมอบรมและคณะทำงาน โดยได้กล่าวกับผู้เข้าร่วมอบรมว่า “ผมเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดได้เพราะ “การอ่าน” ผมเชื่อในพลังของการอ่าน และใช้การอ่านกับครอบครัวมาโดยตลอด ภรรยาของผมอ่านหนังสือให้ลูกฟังตั้งแต่เล็ก อ่านด้วยคำง่ายๆ คำสั้นๆ คำคล้องจอง ซึ่งเด็กจะจดจำและรักการอ่านไปตลอดชีวิต ผมและครอบครัวรักการอ่านและได้มีโอกาสไปงานสัปดาห์หนังสืออยู่เป็นประจำ ลูกชายจะชอบไปเลือกหนังสือด้วยตนเอง สมัยเด็กก็ไปเลือกซื้อในมุมหนังสือเด็ก หนังสือรูปภาพ พอโตขึ้นมามัธยมก็จะอ่านนิยายแปล วรรณกรรม อาทิ แฮร์รี่พอตเตอร์ เพราะฉะนั้นในบ้านก็จะมีมุมหนังสือให้หยิบอ่านได้อย่างสะดวก 
             สิ่งเหล่านี้เพียงเพื่อต้องการบอกเล่าให้ฟังว่า การอ่านสำคัญถ้าไม่อ่านก็จะไม่นำไปสู่สิ่งต่างๆ การอ่านนำไปสู่สิ่งนั้นสิ่งนี้ เพราะฉะนั้นพวกเราเป็นจุดตั้งต้นที่สำคัญ ทดแทนพ่อแม่ที่บางครอบครัวอาจจะไม่มีเวลาส่งเสริมการอ่าน ครูก็ต้องมาทำหน้าที่กระตุ้นการอ่านแทนครอบครัว 
             ครูศูนย์พัฒนาเด็กเล็กต้องอ่านจึงจะตามเด็กๆ ได้ทัน ซึ่งในยุคปัจจุบันคอมพิวเตอร์อาจจะตกรุ่นไปแล้ว ไม่ใช่สิ่งท้าทายอีกต่อไปแล้ว มือถือและแท็ปเลตคือสิ่งที่มนุษย์กำลังบริโภค ทุกบ้านมีเหมือนกันหมด เพราะฉะนั้นเด็กก็จะมีสิ่งที่ดึงความสนใจไปทางอื่น และคู่ต่อสู้ที่สำคัญก็คือ “หนังสือ” ถ้าทำให้เด็กรู้จักที่จะรักการอ่านหนังสือ อย่างน้อยสมาธิของเขาก็จะจดจ่ออยู่กับหนังสือที่จะอ่านแต่ละเล่ม ตอนเด็กอาจจะใช้เวลาไม่มาก แต่เมื่อโตขึ้นระยะเวลาการอ่านก็จะเพิ่มขึ้น ครูศูนย์เด็กต้องมีความอดทนและพยายามอ่านให้เด็กฟัง เพื่อเป็นการปลูกฝังนิสัยต่อไปเมื่อเขาเติบโตขึ้น 
           ขอฝากทุกท่านว่า “การอ่าน” อายุเท่าไหร่ก็อ่านได้หมด และอย่าอ่านเฉพาะหนังสือที่เกี่ยวกับอาชีพตนเองเท่านั้น พยายามอ่านให้หมด อะไรที่ผ่านเข้ามาเป็นหนังสือ โดยเฉพาะผู้ใหญ่มีเทคโนโลยีเข้ามามาก มีระบบอินเตอร์เนตเข้ามาก็สามารถหาอ่านได้ ประหยัดค่าใช้จ่าย แต่สำหรับเด็กเล็กไม่เหมาะที่จะให้อ่านผ่านมือถือ เด็กควรอ่านจากหนังสือเท่านั้น และดีใจที่ทางทีมสาธารณสุขจะประกาศให้อำเภอเมืองยโสธรเป็น “อำเภอรักการอ่าน” และอยากทำให้ต่อเนื่องให้อยู่ในวิถีสุขภาวะ เพื่อเป็นการปูพื้นฐานให้กับเด็กปฐมวัยต่อไป….