มูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน | Reading Culture Promotion Foundation

สปสช. เขต10 จับมือเครือข่ายฯ หนุน 5 จังหวัดภาคอีสาน “เสริมสร้างสุขภาวะเด็กด้วยหนังสือและการอ่าน”

             เครือข่ายศูนย์ประสานงานหลักประกันสุขภาพประชาชนเขต 10 อุบลราชธานี มูลนิธิเพื่อสุขภาพชุมชน จังหวัดสุรินทร์ แผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน และเครือข่ายผู้ดูแลเด็ก เล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนาเด็กเล็กในช่วงวัย 1-6 ปี  ซึ่งมีผลวิจัยชี้ชัดว่า “สมองของเด็กมากกว่า 80% จะเติบโตในช่วงนี้”  หากได้รับการเสริมสร้างพัฒนาการที่เหมาะสมกับช่วงวัยด้วยกิจกรรม อาหาร การเลี้ยงดู รวมถึงสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนา 
             แต่ในสังคมปัจจุบันสถานการณ์การเลี้ยงดูเด็กเล็กในจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ ยโสธร อำนาจเจริญ และมุกดาหาร เด็กถูกฝากไว้กับตายายและผู้ดูแลที่ขาดความรู้ความเข้าใจในการพัฒนาเด็ก โดยถือทัศนคติที่ว่า บทบาทการดูแลควรอยู่ที่ศูนย์พัฒนาเด็กหรือโรงเรียน ครอบครัวไม่จำเป็นต้องเน้นเสริมสร้างกิจกรรมเอาใจใส่เพื่อสร้างเสริมสุขภาวะที่ดีให้มากนัก และมองว่าเด็กไม่รู้อะไร หรือที่เรียกติดปากว่า “เด็กยังไม่รู้เรื่องรู้ภาษา” สิ่งที่จำเป็นต่อเด็กมากที่สุดคือ เรื่องของปากท้อง การได้กินอิ่มนอนหลับและมีร่างกายที่เติบโตสมวัย 
             ซ้ำร้ายไปกว่านั้นศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบางแห่ง  ใช้ TV ในการเลี้ยงเด็กเพื่อสะดวกต่อการควบคุม ซึ่งการเปิด TV ให้เด็กดูเป็นเวลานาน นอกจากจะเป็นสาเหตุหลักที่ก่อให้เกิดภาวะ “สมาธิสั้น” แล้ว ยังส่งผลเสียตามมาอีกมากมาย อาทิ เด็กขาดปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนและสังคมรอบตัว หากเนื้อหารายการที่เปิดให้เด็กดู รุนแรง ไม่เหมาะสม  เด็กจะเกิดการกระทำลอกเรียนแบบ จิตใต้สำนึกของเด็กจะบันทึกว่าการใช้ความรุนแรงเป็นเรื่องปกติ จากผลการประเมินส่วนใหญ่พบว่าเด็กกลุ่มนี้จะมีพัฒนาการที่ล่าช้าทั้งด้านภาษาและร่างกาย รวมถึงพัฒนาการด้านสติปัญญา ไอคิว-อีคิว อีกด้วย
             ภาคีเครือข่ายส่งเสริมการอ่านจึงได้ร่วมกันจัดเวทีประชุมฯ ระดมความคิดจัดทำแผนปฏิบัติการส่งเสริมการอ่าน และสร้างแกนนำเครือข่าย ด้วยความเห็นพ้องต้องกันว่า หากจะหาเครื่องมือทรงพลังที่ช่วยกระตุ้นพัฒนาการทางสมองของเด็กและทักษะอย่างรอบด้านนั้น “นิทานและการอ่าน”  ถือเป็นเครื่องมือเดียวที่ลงทุนน้อยและทรงพลังที่สุด  การอ่านนิทานที่เหมาะสมช่วงวัยให้เด็กฟังเพียงวันละ 10- 15 นาที  จะช่วยเสริมสร้างสมอง การเรียนรู้ พัฒนาการ และสายใยสัมพันธ์ที่ดีกับเด็ก  อันจะนำสู่การเสริมสร้างพฤติกรรมและสุขภาวะที่ดีแก่เด็กได้  
             ดังคำกล่าวของราษฎรอาวุโส ศ.นพ.ประเวศ วะสี ได้กล่าวไว้ว่า “หนังสือและการอ่านเป็นสื่อที่มีประสิทธิภาพในการเสริมสร้างพัฒนาการเด็ก   เมื่อเด็กอ่านหนังสือหรือฟังเรื่องราวจากหนังสือ  เด็กจะซึมซับถึงแบบอย่าง  และบรรทัดฐานของสังคมที่สะท้อนรูปแบบให้เห็นทั้งการกระทำ ข้อพึงปฏิบัติ ทุกภาคส่วนต้องช่วยกันส่งเสริมการอ่านให้เกิดขึ้นอย่างเป็น รูปธรรม”  
             ที่ผ่านมา มูลนิธิเพื่อสุขภาพชุมชน ได้ดำเนินงานใช้การอ่านเพื่อการพัฒนาเด็กกับโครงการเสริมสร้างสุขภาวะเด็ก 1-6 ปี เขตนครชัยบุรินทร์ เสียงสะท้อนของพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครู ผู้ดูแลเด็กและผลการประเมินต่างๆ สอดคล้องตรงกันว่า “การอ่าน” สามารถเสริมสร้างสุขภาวะในเด็กปฐมวัยได้จริง  และยังค้นพบอีกว่า กลไกสำคัญต่อกระบวนการดำเนินงานคือ ศูนย์ประสานงานหลักประกันสุขภาพประชาชน ซึ่งมีอยู่ทุกๆจังหวัดทั่วประเทศ หากจะใช้การอ่านเพื่อการพัฒนาสุขภาวะที่ยั่งยืน   คณะทำงานสามารถเสนอของบประมาณโดยร่วมกับศูนย์พัฒนาเด็กเล็กสังกัดเทศบาล/อบต.ในพื้นที่  เสนอโครงการถึงกองทุนสุขภาพตำบลที่มีอยู่ทุกตำบลทั่วประเทศเช่นกัน
โดย “เวทีประชุมแผนปฏิบัติการการสานพลังเครือข่ายเสริมสร้างสุขภาวะเด็กปฐมวัยด้วยหนังสือภาพ นิทาน และการอ่าน”  ในครั้งนี้จะจัดขึ้นในวันอังคารที่ 11 สิงหาคม พ.ศ.2558 ณ งานสัปดาห์หนังสือและการเรียนรู้ (ห้องทับทิมสยาม4 ตึกสุนีย์ทาวเวอร์) จังหวัดอุบลราชธานี  

  
  

ที่มาของแหล่งข่าว : นางสุดใจ พรหมเกิด ผู้จัดการแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน สสส.