มูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน | Reading Culture Promotion Foundation

วัฒนธรรมการอ่าน สร้างได้ เพื่อสร้างชาติ

วัฒนธรรมการอ่าน สร้างได้  เพื่อสร้างชาติ

วัยเด็ก 0-6 ปี ถือเป็นวัยสำคัญที่สุดสำหรับการสร้างนิสัยรักการอ่าน เป็นวัยสำคัญที่สุดที่เซลส์สมองจะพัฒนา และสำคัญที่สุดในการพัฒนาอารมณ์ จิตใจและนิสัย ระเบียบ วินัย รวมไปถึงอุปนิสัยและพฤติกรรมที่จะติดตัวไปตลอดชีวิต

 

การพัฒนาเด็กวัยนี้นอกจากการพัฒนาทางร่างกายด้วยอาหาร น้ำ ฯลฯ แล้ว การอ่านหนังสือถือเป็นสื่อที่สำคัญในการสร้างเซลส์สมอง พัฒนาอารมณ์ จิตใจ สร้างความรู้ สอนคุณธรรมจริยธรรม

 

แต่ในปัจจุบัน การอ่าน ของคนในชาติยังเป็นปัญหาอย่างหนัก  การพยายามสร้างการอ่านให้กลายเป็นนิสัย จนติดเป็นวัฒนธรรมของคนในชาติ จึงเป็นปัญหาใหญ่ที่ แผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน  เครือข่ายรักการอ่าน รักการเรียนรู้  ได้นำมาถกเถียงกันในกลุ่มองค์กรที่ทำงานด้านการอ่าน เพื่อหาทางสร้างนโยบายและยุทธศาสตร์การสร้างการอ่านให้เป็นวัฒนธรรม ด้วยหนังสือ เพื่อยื่นข้อเสนอให้แก่ภาครัฐที่มีอำนาจและงบประมาณ 

 

ในการประชุมภาคีเครือข่ายการอ่าน ในหัวข้อ สื่อสารให้การอ่านเป็นวัฒนธรรมด้วยหนังสือเด็กปฐมวัย”เมื่อวันพุธที่ 22มิถุนายน 2554 ณ โรงแรมรอยัลซิตี้ ปิ่นเกล้าที่ผ่านมา ที่ประชุมได้สรุปถึงข้อเสนอเชิงยุทธศาสตร์และนโยบาย 3ประเด็น คือ ยุทธศาสตร์ ต้นน้ำ หนังสือที่ดีมีคุณภาพ ยุทธศาสตร์กลางน้ำ คือการนำหนังสือเพื่อเข้าให้ถึงเด็ก   และยุทธศาสตร์ปลายน้ำ การรณรงค์ให้เกิดวัฒนธรรมการอ่าน โดยในแต่ละยุทธศาสตร์มีรายละเอียด ดังนี้

1.               ยุทธศาสตร์ส่งเสริมให้หนังสือเด็กปฐมวัยมีคุณภาพเพื่อสร้างฐานภูมิปัญญาของสังคมไทย

1.1   กำหนดนโยบายส่งเสริม สนับสนุนให้มีสถาบันทางวิชาการผลิตผู้สร้างสรรค์เรื่อง และผู้สร้างสรรค์ภาพหนังสือสำหรับเด็กปฐมวัยให้มากขึ้น

1.2   ส่งเสริมการศึกษาวิจัย และการจัดการความรู้ ที่เป็นประโยชน์ในการกำหนดแนวทาง  อนาคตภาพของการผลิตหนังสือ  และการส่งเสริมการอ่านในเด็กปฐมวัย

1.3   กำหนดนโยบายสนับสนุน  ส่งเสริม  องค์กร  ภาคธุรกิจ  ภาคประชาสังคม  ให้มีศักยภาพในการผลิตหนังสือเด็กปฐมวัย (0-6 ปี)  เพื่อตอบสนองวัย  พัฒนาการทางสมอง  และสอดคล้องต่อวิถีชีวิตของชุมชน  ท้องถิ่น  สังคม  และประเทศชาติ

2.               ยุทธศาสตร์การเพิ่มช่องทางและการนำหนังสือให้เข้าถึงเด็ก

2.1   กำหนดนโยบายให้ทุกครอบครัวที่มีเด็กปฐมวัยได้มีโอกาสเป็นเจ้าของหนังสือเด็กปฐมวัยอย่างน้อย คนละ 3 เล่ม (ตามข้อตกลงจากแผนปฏิบัติโลกที่เหมาะสมสำหรับเด็ก A World Fit for Children ขององค์การกองทุนเด็กแห่งสหประชาชาติ) โดยเฉพาะกลุ่มผู้ด้อยโอกาส กลุ่มเปราะบางทางสังคมในพื้นที่ต่าง ๆ และกลุ่มเด็กที่มีความต้องการพิเศษ

2.2   จัดสรรงบประมาณอย่างเพียงพอให้โรงเรียน  ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก  องค์กรปกครองส่วน

        ท้องถิ่น ฯลฯ  สามารถจัดซื้อหนังสือสำหรับเด็กปฐมวัยและสร้างปัจจัยที่เอื้อต่อการเข้าถึงการอ่าน

2.3   กำหนดนโยบายส่งเสริม  พัฒนาให้เกิดกลไก ส่งเสริมการอ่าน เพิ่มห้องสมุด  มุมหนังสือในพื้นที่บริการ  พื้นที่สาธารณะอย่างหลากหลาย  อาทิ  โรงพยาบาล, สวนสาธารณะ, ฯลฯ และมีบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการอ่าน  สอดคล้องกับวัยเด็กและความต้องการของครอบครัวและชุมชน

 

1.               ยุทธศาสตร์รณรงค์ให้เกิดวัฒนธรรมการอ่าน

3.1   สนับสนุนให้เกิดสื่อมวลชนและสื่อทางเลือกต่างๆ ที่ส่งเสริมพฤติกรรมการอ่าน  ทั้งรายการวิทยุ  โทรทัศน์  อินเตอร์เน็ต  สื่อพื้นบ้าน  กิจกรรมรณรงค์  ฯลฯ

3.2   รณรงค์  ส่งเสริมให้พ่อแม่  ครอบครัว  ผู้ดูแลเด็กเห็นถึงความสำคัญในการอ่านหนังสือให้เด็กฟัง  ตั้งแต่อยู่ในครรภ์-6 ปี  และเข้าใจถึงการเลือกสรรหนังสือเด็กที่เหมาะสมและสอดคล้องตามวัย

3.3   ส่งเสริม  กำหนดนโยบายพัฒนาบุคลากรในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเด็กปฐมวัย  เพื่อเพิ่มความสามารถในการสร้างกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน (ครู  บรรณารักษ์  พี่เลี้ยงเด็กศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก  ครูอนุบาล – เนอสเซอรี่  นักพัฒนาชุมชน  อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ฯลฯ

 

แม้ภาคีเครือข่ายการอ่านการเรียนรู้  ทุกหน่วยงานจะยังไม่ทราบว่าเมื่อไรทั้ง 3 ยุทธศาสตร์ จะได้ดำเนินการ หรือจะมีรัฐบาลชุดใดที่สนใจขับเคลื่อนให้เป็นจริง แต่ความหวังที่ทำให้การอ่านเป็นวัฒนธรรมของเด็กไทยยังคงยู่อย่างเต็มเปี่ยม แม้ไม่ได้เป็นจริงในวันนี้ ก็หวังจะเห็นในวันหน้า  

 

เพียงขอให้หน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้โปรดร่วมมือกันอย่างจริงๆ จัง ๆ อย่าปล่อยให้วาระการอ่านที่เป็นวาระแห่งชาติ อยู่อย่างโดดเดี่ยว หรือโครงการ กรุงเทพฯ “มหานครแห่งการอ่าน” ก็ยังขาดกิจกรรมหนุนเสริมอย่างคึกคักจากองค์กรต่างๆในกรุงเทพฯ

 

เราเชื่อมั่นว่าวัฒนธรรมการอ่าน สร้างได้(ในชาตินี้) เพราะ การอ่านเป็นวัฒนธรรม ที่สร้าง ชาติ

 


ที่มาของแหล่งข่าว : wearehappy