รุ่นครูชม คนสารคดีรุ่นใหม่ แรง ลึก เก๋ และเก่ง
รุ่นครูชม คนสารคดีรุ่นใหม่ แรง ลึก เก๋ และเก่ง
วันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2558 ณ ห้องประชุม 201 อาคารเรียนรู้ศูนย์สุขภาวะ นิตยสารสารคดี ร่วมกับ แผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) วิริยะประกันภัย และมูลนิธิชีววิถี จัดพิธีปิดโครงการค่ายสารคดีครั้งที่ 11 ภายใต้แนวคิด “ค่ายสร้างคน บันทึกสังคม”
นายสุวัฒน์ อัศวไชยชาญ บรรณาธิการบริหารนิตยสารสารคดี กล่าวสรุปภาพรวมโครงการค่ายสารคดี สร้างคน บันทึกสังคม ซึ่งดำเนินการโดยนิตยสารสารคดีมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547 จนถึงปัจจุบันในปี 2558 ถือเป็นครั้งที่ 11 ทุกปี มีเยาวชนที่สนใจสมัครเข้าร่วมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะปีนี้มีเยาวชนสมัครเข้าร่วมถึง 250 คน จึงต้องคัดเลือกให้เหลือเยาวชนที่สนใจด้านการเขียนสารคดี 25 คน และถ่ายภาพอีก 25 คน เพื่อมาร่วมเรียนรู้ตลอดการจัดค่าย 4 เดือน (มิถุนายน – กันยายน 2558) โดยแบ่งการอบรมเป็น 8 ครั้ง และยังได้นำเยาวชนไปฝึกทำงานในพื้นที่จริง 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 คือ ชุมชนสองฝั่งคลองบางกอกใหญ่ ได้แก่ชุมชนวัดกัลยาณ์ ชุมชนกุฎีขาว และชุมชนบางไส้ไก่ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม และความหลากหลายทางศาสนาอยู่ร่วมกัน ครั้งที่ 2 คือ ชุมชนวัดเขายี่สาร จังหวัดสมุทรสงคราม เรียนรู้วิถีชุมชนริมน้ำ และภูมิปัญญา ที่สัมพันธ์กับสภาพแวดล้อมในธรรมชาติบริเวณชายฝั่งปากแม่น้ำซึ่งมีมาอย่างยาวนาน
“การจัดค่ายครั้งนี้ ผู้เข้ารบรมจะได้ทำงานทั้งหมด 4 ชิ้น 2 ชิ้นจากการทำงานลงพื้นที่ทั้ง 2 ครั้ง และอีก 1 ชิ้นจากการทำงานที่ครูกำหนดหัวข้อให้ และชิ้นสุดท้ายซึ่งถือเป็นชิ้นที่สำคัญที่สุด โดยให้ผู้เข้าอบรมเลือกประเด็นได้ตามความสนใจของตัวเอง ซึ่งก็คล้ายกับการทำงานในชีวิตจริงของนักเขียนและช่างภาพที่จะต้องเริ่มต้นกระบวนการทำงานตั้งแต่การเริ่มคิด และหาแหล่งพื้นที่ที่จะทำงาน ลงไปสัมผัสกับปัญหาในการทำงานด้วยตัวเอง เก็บข้อมูล ถ่ายภาพ จนมาถึงกระบวนการของการเขียน และคัดเลือกภาพ ซ่อมภาพ เพื่อให้งานทั้งหมดเป็นชิ้นงานที่สมบูรณ์ที่สุดด้วยตัวเอง โดยมีครูคอยช่วยแนะนำ”
ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีปิดค่าย กล่าวแสดงความยินดีและชื่นชมต่อความสำเร็จ พร้อมทั้งให้แรงบันดาลใจแก่เยาวชนทุกคนที่ผ่านการอบรมค่ายสารคดีว่า “หากอีก 10 ปี เราอยากเห็นสังคมไทยเป็นไปในทิศทางใด ขอให้พวกเราเก็บแรงบันดาลใจ เก็บความฝันในวันนี้ ช่วยกันหมุน ช่วยกันขยับทีละเล็ก ทีละน้อย อย่าล้มเลิก ความมุ่งมั่นของคนเล็กๆ เปลี่ยนไปสู่ความยิ่งใหญ่ได้เสมอ”
นางสาวอรสม สุทธิสาคร ครูนักเขียนสารคดีกล่าวความในใจแก่ผู้เข้าอบรมว่า ฝันอยากเห็นเยาวชนในค่าย กลายมาเป็นนักเขียนรุ่นใหม่ประดับวงการสารคดี และในค่ายสารคดีครั้งที่ 11 นี้ ทำให้ครูตนชื่นใจ ภาพรวมและคุณภาพงานอ่านแล้วเป็นงานที่ดี มีความสด ใหม่ แรงและลึก เก๋และเก่ง ทำให้รู้สึกปลาบปลื้ม “ครูปรารถนาที่จะเห็นความสดใหม่ในผลงาน อยากเห็นทุกคนไปได้ไกลกว่าครู งานสารคดีก็คือความรักของเรา คือชีวิตของเรา”
นายวีระศักดิ์ จันทร์ส่งแสง ครูนักเขียนสารคดี กล่าวว่า วันนี้เป็นวันปิดค่าย และนี่เป็นช่วงสุดท้ายที่ครูจะสอน หลังจากนี้มีแต่การทำงานจริง ที่เหลือต้องไปต่อยอดไปพัฒนากันต่อเอง “ถ้าเธอยังเป็นนักเรียนต่อไป เธอจะไม่ได้เป็นศิลปิน” พร้อมทั้งให้สามคำที่จะเป็นหนทางนำไปสู่การเป็นศิลปินตัวจริงว่า “ จง ทำ งาน”
ในงานวันนี้ได้เชิญวิทยากรพิเศษ คือ นายวันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์ รองผู้อำนวยการ ด้านรายการและพัฒนาสื่อสาธารณะ สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส มาบรรยายในหัวข้อ ‘ก่อนไปสู่ความเป็นมืออาชีพ’ โดยได้ปูพื้นฐานให้เห็นความสำคัญของอิทธิพลสื่อ ที่มีทั้งพลังบวกและลบ การรู้เท่าทันโลกแห่งความจริง “คนสารคดีต้องทำตัวเช่นนกอินทรีย์ เห็นภาพรวม มองกว้างๆ”
บรรยากาศของพิธีปิดเป็นไปด้วยความอบอุ่น โดยหลังจากเสร็จพิธีรับมอบเกียรติบัตรผู้ผ่านการอบรม และมอบรางวัล “งานสารคดีดีเด่น” ซึ่งได้แก่ นางสาวนลิน สินธุประมา และรางวัล “ภาพถ่ายสารคดีดีเด่น” ได้แก่ นายศุภสิน พูนธนาทรัพย์ เหล่าเยาวชนนักเขียนและช่างภาพสารคดีได้ร่วมกันร้องเพลงขอบคุณวิทยากรและอาจารย์พี่เลี้ยงทุกท่าน ที่ช่วยสนับสนุน แนะนำ จนได้เป็นผลงานสารคดีและภาพถ่ายคุณภาพจำนวนหลายสิบชิ้นงาน
แผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่านวาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผลงานเด่นๆ จากกลุ่มเยาวชนคลื่นลูกใหม่ที่เกิดขึ้นในโครงการนี้ จะได้รับการพัฒนาและสามารถช่วยสร้างสรรค์สังคมไทย ให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ สร้างความเข้าใจในประเด็นต่างๆ เพื่อให้ประเทศไทยของเราเป็นสังคมที่สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน บนพื้นฐานของความเคารพความหลากหลายสืบไปในภายภาคหน้า
(1).jpg)
ครูค่ายกล่าวสรุปบทเรียน
.jpg)
พิธีมอบเกียรติบัตรผู้ผ่านการอบรมค่ายสารคดีครั้งที่ 11
(1).jpg)
เยาวชนนักเขียนและช่างภาพสารคดีร้องเพลงขอบคุณครูและวิทยากร