มูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน | Reading Culture Promotion Foundation

นครปฐมจับมือเครือข่ายขับเคลื่อนสู่นครแห่งการอ่าน

นครปฐมจับมือเครือข่ายขับเคลื่อนสู่นครแห่งการอ่าน

 


 

แผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่านร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม จัดสัมมนา การขับเคลื่อนนครปฐมให้เป็น “นครแห่งการอ่าน” ในวันที่ 5 กรกฎาคม 2554 ณ มหาวิทยาลัยราชภัฎนครปฐม โดยผศ.สมเดช นิลพันธุ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม ได้กล่าวเปิดการสัมมนา จากนั้นเป็นการบรรยายพิเศษ “สสส.กับการสร้างเสริมสุขภาวะด้วยวัฒนธรรมการอ่าน” โดย รศ.นพ.ปัญญา ไข่มุก ประธานกรรมการกำกับทิศทางแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่านที่สนับสนุนว่า “การอ่าน” สามารถสร้างสุขภาวะที่ดี การเกิดสุนทรียะทางจิตใจอันนำไปสู่คุณธรรมได้ ดังนั้นจึงควรสร้างวัฒนธรรมการอ่านให้ขยายไปในทุกสังคม นอกจากนี้ได้มีการนำเสนอผลการวิจัยเรื่อง “ปัจจัยพื้นฐานที่เอื้ออำนวยต่อการสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่านแก่ประชาชนในจังหวัดนครปฐมวัย” โดย อาจารย์นุชรี  บุญศรีงาม คณะทำงานวิจัย ซึ่งสรุปผลการวิจัยได้ดังนี้

1.      โครงสร้างทางกายภาพ และโครงสร้างสังคมที่รองรับวัฒนธรรมการอ่านโดยทั่วไปมี

ความเหมาะสม บรรยากาศดี มีปัจจัยและทรัพยากรที่สนับสนุนต่อการจัดกิจกรรมสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่านอย่างต่อเนื่อง

2.      แนวทางการสร้างแรงบันดาลใจในการอ่านสามารถทำได้ 3 แนวทาง คือ การที่พ่อแม่

เป็นแบบอย่างที่ดี, ครูและบรรณารักษ์ร่วมสร้างสรรค์ และชุมชนต้องรู้สึกมีส่วนร่วมและเป็นเจ้าของ

3.      การสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่านให้เกิดขึ้นในจังหวัดนครปฐม สิ่งที่ควรปรับปรุง

อันดับแรกคือ ที่อ่านหนังสือประจำหมู่บ้าน ต่อมาควรเริ่มในชุมชนคือ การจัดกิจกรรมกับเด็กและเยาวชนเพื่อสร้างนักอ่านน้อย และการขับเคลื่อนให้มีทุกตำบลคือ การมีห้องสมุดประจำตำบล

                        จากนั้นได้มีการเสวนา “การพัฒนาเครือข่ายขับเคลื่อนและหนุนเสริมการอ่าน: ยุทธศาสตร์ แผนงานและกิจกรรม” โดยคุณสุดใจ  พรหมเกิด ผู้จัดการแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน, นพ.อุดม  เพชรสังหาร จิตแพทย์ และรองประธานกรรมการบริหารบริษัท รักลูกกรุ๊ป จำกัด, ครูชีวัน  วิสาสะ นักเขียนนิทานเด็ก, คุณสมปอง  มิสสิตะ บรรณารักษ์ชำนาญการ 8 หัวหน้าฝ่ายบริการมหาวิทยาลัยศิลปากร, คุณชนิตร  ภู่กาญจน์ หัวหน้าข่าวการศึกษา หนังสือพิมพ์แนวหน้า และคุณศิระวุฒิ  เอี่ยมกลิ่น ครูบรรณารักษ์ โรงเรียนสหบำรุงวิชา อ.ดอนตูม สุดท้ายผู้เข้าร่วมได้ระดมความคิดเห็นถึงความเป็นไปได้ และยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนนครปฐมเป็นนครแห่งการอ่าน ซึ่งสิ่งที่ผู้เข้าร่วมได้สะท้อนคือ ความรู้สึกยินดี และเห็นด้วยที่จะสนับสนุนให้นครปฐมเป็นนครแห่งการอ่าน และมีเป้าหมายให้ทุกกลุ่มวัยได้รับประโยชน์จากการอ่าน โดยบุคคลที่เข้ามาร่วมขับเคลื่อนต้องประกอบด้วยทุกภาคส่วน ได้แก่ ภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชนทั้งระดับชุมชน ตำบล อำเภอ และจังหวัด รวมถึงสื่อมวลชน อย่างไรก็ตามเวทีในครั้งนี้เป็นเพียงการจุดประกายเริ่มต้นเท่านั้น  ซึ่งคงต้องมีเวทีการแลกเปลี่ยนของภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนในครั้งต่อไปเพื่อขับเคลื่อนให้นครปฐมเป็นนครแห่งการอ่านอย่างเต็มรูปแบบ