มูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน | Reading Culture Promotion Foundation

จดหมายเด็กๆจากชายแดนใต้

            วันนี้ได้รับจดหมายจากน้องๆชายแดนใต้ ซึ่งเดินทางมารับหนังสือจาก “โครงการตู้หนังสือในบ้านเด็ก มูลนิธิเด็ก” บางฉบับเขียนมายาว บอกเล่าเรื่องราวให้ทุกคนที่มีส่วนสร้างสรรค์โครงการได้อย่างประทับใจ ลองอ่านเสียงของน้องๆกันนะคะ และเชิญชวนทุกท่านสนับสนุนเติมหนังสือนี้ผ่านกลุ่มลูกเหรียง หรือโอนเงินผ่าน โครงการตู้หนังสือในบ้านเด็ก มูลนิธิเด็ก สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร.02814-1481

 

 
          สวัสดีครับผมชื่อ นายรอบีอุน   ดูงอโบ๊ท ครับและผมหวังว่าทุกคนจะยังจำผมได้น่ะครับวันที่ผมไปรับตู้หนังสือในบ้านเด็กวันแรก ผมก็ตั้งคำถามว่าทำไมต้องจัดโครงการนี้ขึ้นมาด้วยเพราะผมเองเป็นเด็กสามจังหวัดชายแดนใต้ซึ่งระยะทางที่ต้องเดินทางไปเพื่อไปร่วมโครงการไม่ได้ใกล้เลย แต่พอผมได้ฟังคำอธิบายแล้วผมก็ได้รู้ว่า การอ่านหนังสือมีความสำคัญกับเรามากขนาดไหน เพราะการอ่านหนังสือเป็นวิธีหนึ่งในการหาความรู้ให้กับตัวเอง เปิดโลกกว้างให้กับตัวเอง สามารถทำให้เรามีสมาธิ  เกิดความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งตู้หนังสือในบ้านนอกจากทำให้สมาชิกในบ้านได้รับความรู้แล้วยังได้เปิดโอกาสให้เด็กๆในหมู่บ้านได้มีแหล่งเรียนรู้อีกด้วย
          ตอนนี้ผมอายุ 11 ปี ผมเรียนอยู่ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่  5  ตอนนั้นผมจำได้ว่าผมชอบเรียนวิชาคณิตศาสตร์มากและวิชาที่ผมไม่ชอบเรียนเลยคือวิชาภาษาไทย ซึ่งสาเหตุที่ผมไม่ชอบวิชานี้ก็เพราะผมอ่านหนังสือไม่คล่องทำให้ผมเรียนตามเพื่อนไม่ทัน ถึงผมจะเก่งในวิชาคณิตศาสตร์แต่ผลก็เรียนของผมก็สู้เพื่อนคนอื่นในห้องไม่ได้เพราะผมไม่เข้าใจโจทย์ปัญหา ซึ่งสาเหตุก็เกิดจากตัวผมอ่านหนังสือไม่คล่องไม่เข้าใจโจทย์ที่คุณครูให้มา แต่ผมยังโชคดีที่มีคุณครูท่านหนึ่งที่เห็นว่าผมมีความตั้งใจเรียน ท่านเลยให้ผมเรียนเพิ่มเติมในส่วนของวิชาภาษาไทยเพื่อพยายามให้ผมอ่านหนังสือให้คล่อง ผมเรียนซ่อมเสริมทุกวันหลักเลิกเรียน ผมตั้งใจเรียนมากเพราะผมคิดในใจมาคลอดว่าครูได้สละเวลาของท่านเพื่อช่วยให้เราอ่านออกเขียนได้ให้คล่อง จนในที่สุดผมก็คลายเป็นคนอ่านหนังสือที่คล่องคนหนึ่งในห้อง  ตัวผมเองจากที่เป็นคนที่ไม่ชอบอ่านหนังสือกลายเป็นว่าสิ่งที่ผมชอบมากที่สุดคือการอ่านหนังสือ
          หลังจากที่ผมได้รับตู้หนังสือในบ้านทำให้ชีวิตผมได้รับความรู้ใหม่ๆเข้ามาในชีวิตเพราะสังเกตหนังสือแต่ละเล่มที่ผมอ่านนอกจากให้ความรู้กับเราแล้วยังให้ข้อคิดกับเราด้วย ซึ่งหนังสือที่ผมอ่านแล้วประทับใจมากที่สุดมีอยู่ 4 เรื่อง คือ หนังสือเรื่องที่ 1 คือ สิ่งประดิษฐ์ของโลก เรื่องนี้สอนให้ผมรู้ว่า  การที่เราชอบใช้ความคิดของตนทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ขึ้นมาและความพยายามนั้นก็เป็นหนทางหนึ่งที่จะนำพาตัวเราประสบความสำเร็จในชีวิต  เรื่องที่ 2  คือ เส้นโค้งของหัวใจ เรื่องนี้สอนให้ผมรู้ว่าความแตกต่างของคนเราทำให้เราเป็นมิตรไมตรีได้ นอกจากนี้ก็ทำให้ผมได้รู้ว่าการที่เราแบ่งปันความรักและความสามัคคีกับผู้รอบข้างก็เป็นวิธีหนึ่งที่ทำให้เราเกิดความสุขได้  เรื่องที่ 3 คือ โรงเรียนเม็ดกวยจี๊  ส่อนให้ผมรู้ว่า ความรักและความเอาใจใส่ผู้อื่นในสังคมทำให้สังคมของเราน่าอยู่มากยิ่งขึ้น เพราะการที่เราอาศัยอยู่ในสังคมในปัจจุบันนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ การที่เราสามารถใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุขคือ การที่อย่าทำให้คนอื่นเดือดร้อน มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กัน มีความสามัคคีกัน และพยายามฝึกให้ตัวเองคิดอยู่ตลอดเวลาว่า การที่เราทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งกับผู้อื่น เราต้องคิดว่า เอาใจเขามาใส่ใจเรา และเรื่องที่ผมประทับใจมากที่สุดคือ พระเจ้าช้างเผือก  เรื่องนี้ทำให้ผมได้เรียนรู้ถึงประวัติศาสตร์ของประเทศไทยเราก็เป็นหนังสือเรื่องหนึ่งที่ผมสามารถนำความรู้ไปเชื่อมโยงกับความรู้ที่ผมเรียนมาทำให้ผมเข้าใจมากยิ่งคน
          สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ผมได้รับประโยชน์จากตู้หนังสือในบ้าน ซึ่งเป็นโครงการที่มีประโยชน์กับตัวผมและคนรอบข้างมากๆสามารถทำให้ผู้ที่ชอบอ่านหนังสือได้รับความรู้และสามารถนำความรู้ที่ตัวเองได้จากการอ่านหนังสือมาประยุกต์ใช้ในสังคมและในชีวิตประจำวันของเราได้

                                                                                                               ขอบคุณครับ … นายรอบีอุน ดูงอโบ๊ท




 

                สวัสดีค่ะ หนูชื่อเด็กหญิงนูรอารีซา   แวยูโซ๊ะ   เรียนอยู่ชั้นม.1 โรงเรียนศาสนูปถัมภ์ จังหวัดปัตตานี  หนูได้ใจมากที่ได้ร่วมโครงการนี้ หนูเอาตู้หนังสือมาจดเป็นมุมเล็กๆในบ้านเพื่อสำหรับอ่านหนังสือหนูชอบอ่านหนังสือ อ่านแล้วเพลินมาก ทำให้หนูมีสมาธิมากขึ้น หนูชอบอ่านหนังสือเรื่องโรงเรียนเม็ดกวยจี๊ ซึ่งมีทั้งหมด 5 เล่ม หนูชอบตัวละครในเรื่องเพราะมันต่างจาการ์ตูนเล่มอื่นๆ ตอนนี้หนูอ่านหมดแล้วทั้ง 5เล่ม หนูได้เอาหนังสือเรื่องนี้ไปให้เพื่อนๆที่โรงเรียนอ่าน เพื่อนๆหนูชอบมาก บางคนยืมกลับไปอ่านที่บ้านหลายๆวัน บางคนจองคิวเป็นอาทิตย์กว่าจะได้อ่าน หนูภูมิใจมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการแบ่งปันหนังสือให้เพื่อๆอ่าน  บ้านหนูเป็นชุมชนเล็กๆที่อยู่ในอำเภอเมืองปัตตานี หลังเลิกเรียนจะมีเพื่อนๆและเด็กๆมาอ่านหนังสือที่บ้าน บางคนมานั่งทำการบ้านและอ่านหนังสือไปด้วย เด็กโตจะอ่านนิทานให้เด็กเล็กฟัง และบางวันปู่ย่า ตา ยาย ที่อยู่บ้านใกล้ๆจะมาเล่านิทานๆเก่าๆให้เด็กๆฟัง ตอนนี้หนูมีความสุขมาก  หนูอยากมีหนังสือเยอะๆ มาไว้ที่บ้านหนูอยากจัดห้องสมุดๆเล็กสำหรับเด็กๆและเพื่อนมาอ่านหนังสือยามว่าง หนังสือบางเล่มที่หนุอ่านไปนั้นบางครั้งหนูคิดว่าหนูเป็นตัวละครนั้นจริงๆ เมื่อก่อนหนูไม่กล้าพูดภาษาไทย กลัวพูดผิดและเพี้ยนกลัวโดนเพื่อล้อ ตอนนี้หลังจากที่หนูได้อ่านหนังสือมากขึ้น ทำให้หนูมีความกล้าที่จะพุดภาษาไทย ตอนนี้หนูเขียนหนังสือถูกและค่ะ ไม่เขียนผิดเหมือนเมื่อก่อน ที่บ้านหนูเป็นครอบครัวใหญ่ มีพ่อ แม่ ตา ยาย และน้าๆ ทุกๆคนส่งเสริมและสนับสนุนกับกิจกรรมที่หนูทำอยู่ จากที่เพื่อนๆที่โรงเรียนยืมหนังสือกลับไปอ่านที่บ้าน ทำให้คุณครูเข้ามาคุยกับหนูว่าเอาหนังสือให้เพื่อนยืมที่ไหน หนูเลยเล่าให้ฟังว่าได้รับจาก แผนงานส่งเสริมการอ่าน ให้มา คุณครูเลยมอบหนังสือมาจำนวนหนึ่งเพื่อจะให้หนูได้มีหนังสือมาให้เพื่อๆที่โรงเรียนและที่บ้านได้อ่าน ตอนนี้หนูมีความสุขมาก นอกจากอ่านหนังสือแล้ว หนูชอบวาดรูปมาก ส่วนใหญ่หนูจะวาดรูปที่อยู่ในหนังสือหนูฝึกฝนมาตลอดจนหนูสามารถวาดรูปได้ หนูอยากให้มีโครงการดีๆอย่างนี้ตลอดไปนะค่ะ
                                                                                     ขอบคุณคะ…เด็กหญิงนูรอารีซา แวยูโซ๊ะ
                                     

            ชื่อเด็กหญิงซอบารียะห์  โซะ  ชื่อเล่นน้องซอบา อยู่ชั้นป.6 โรงเรียนบ้านปุโรง อ.กรงปินัง จ.ยะลา ปัจจุบันทำหน้าที่เป็นหัวหน้าบรรณารักษ์ และแกนนำนักอ่านในชุมชน ในการขับเคลื่อนกิจกรรมต่าง ๆ ของโรงเรียนและชุมชน โดยเฉพาะกิจกรรมด้านส่งเสริมการอ่าน ในโรงเรียนน้องซอบาจะมีหน้าที่รับผิดชอบดังนี้   
    – กิจกรรมการนำเสนอคำศัพท์ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และภาษาอาเซียนในช่วงเช้า ของทุกวันขณะเข้าแถวเคารพธงชาติหน้าเสาธง หนูมีหน้านำกล่องหนังสือไปวางในโรงเรียนตาดีกา เพื่อให้เพื่อนๆสามารถอ่านหนังสือได้สะดวก
    – กิจกรรมเสียงตามสาย เป็นกิจกรรมการนำเสนอข้อมูล ข่าวสารต่าง ๆ ในช่วงพักรับประทานอาหารกลางวัน โดยในแต่ละวัน จะนำเสนอข้อมูลหมุนเวียนเปลี่ยนกันไป ตั้งแต่วันจันทร์ – วันศุกร์
     – กิจกรรมเล่านิทานให้น้องฟัง กิจกรรมนี้ จัดขึ้นทุกวันพุธ หลังจากรับประทานอาหารเสร็จแล้ว  นักเรียนจะมารวมตัวกันหน้าห้องสมุด  เพื่อรอฟังนิทานส่งเสริมคุณธรรม นำทีมเล่านิทานโดยน้องซอบาและเพื่อนๆ
    – กิจกรรมตะกร้าสัญจร กิจกรรมนี้หนูและเพื่อนๆจะคัดเลือกหนังสือที่น่าสนใจใส่ในตะกร้า  และนำตะกร้าไปวางใต้ต้นไม้ ห้องละหมาดชาย/หญิง เพื่อให้เพื่อน ๆ อ่านหนังสือ  โดยที่ไม่ต้องเข้าไปอ่านในห้องสมุดก็ได้
    – กิจกรรมตู้หนังสือในบ้านเด็ก กิจกรรมนี้ เป็นกิจกรรมหลังเลิกเรียน ซึ่งน้องซอบาได้รับคัดเลือกให้เป็นยุวทูตการอ่าน และได้รับตู้หนังสือพร้อมกับหนังสือ หนูจะจึงชวนเพื่อน ๆ มาอ่านที่บ้านและเพื่อนๆสามารถยืมหนังสือกลับไปอ่านที่บ้านได้ กิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมที่ทำร่วมกันกับครอบครัว ตอนหัวค่ำจะมีเพื่อนๆมาอ่านหนังสือที่บ้าน หนูจะอาสาเล่านิทานให้น้องๆฟัง กิจกรมรมนี้สามารถเชื่อมความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว ทุกๆวันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุด ที่บ้านจะเปิดรับเพื่อนๆและผู้ปกครองเพื่อมาอ่านหนังสือและทำกิจกรรมอื่นๆร่วมกัน หนูอยากมีหนังสืออ่านเยอะๆ เพื่อรองรับและเพียงพอต่อจำนวนคนในหมู่บ้าน

                                                                                               ขอบคุณค่ะ…เด็กหญิงซอบารียะห์ โซะ