มูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน | Reading Culture Promotion Foundation

งานแถลงข่าว “ผลสำรวจการอ่านของคนไทย พ.ศ. ๒๕๕๘”

งานแถลงข่าว “ผลสำรวจการอ่านของคนไทย พ.ศ. ๒๕๕๘” 
            สำนักงานอุทยานการเรียนรู้ (TK park) ร่วมกับสำนักงานสถิติแห่งชาติ จัดงานแถลง “ผลสำรวจการอ่านของประชากรไทย ปี พ.ศ.๒๕๕๘” ในงาน TK Forum ในวันพุธที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๕๙ ณ ห้อง Meeting Room ๓-๔ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อเผยแพร่ข้อมูลผลสำรวจให้เกิดการรับรู้เป็นวงกว้าง ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้สังคมไทยตระหนักในความสำคัญของการอ่านและสร้างการมีส่วนร่วมในการสร้างกระแสให้เกิดพฤติกรรมการอ่านของคนไทย  
             โดยนางปัทมา อมรสิริสมบูรณ์ ผู้อำนวยการสำนักสถิติสังคม ได้นำเสนอผลสำรวจการอ่านของประชากรไทย พ.ศ.๒๕๕๘ ที่ได้มีการจัดทำผลสำรวจการอ่านของประชากรทุก ๒ ปี ซึ่งพบว่า “การอ่านของเด็กเล็กอายุไม่เกิน ๖ ปี มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น คือมีเด็กที่อ่านหนังสือ ๖๐.๒ เปอร์เซ็นต์หรือ ๒.๗ ล้านคน โดยในเขตกรุงเทพ เวลาที่ใช้ในการอ่านแต่ละครั้งเฉลี่ยนาน ๓๔ นาทีต่อวัน นานขึ้นกว่าปี ๒๕๕๖ รวม ๗ นาทีต่อวัน โดยเด็กกลุ่มนี้นิยมอ่านในรูปแบบหนังสือมากกว่า ๗๐ เปอร์เซ็นต์ ทว่าอัตราการซื้อหนังสือให้เด็กของผู้ใหญ่ลดลงจากปี ๒๕๕๖ จากร้อยละ ๘๒.๖ เหลือร้อยละ ๗๘.๕ อาจเป็นผลจากการรณรงค์เมื่อปี ๒๕๕๖ ทั้งนี้ ถ้าดูจากแนวโน้มจากอดีตจะพบว่าผู้ใหญ่ซื้อหนังสือให้เด็กเพิ่มขึ้นทุกปี นอกจากนี้ยังพบว่า เด็กผู้ชายอ่านหนังสือน้อยกว่า ส่วนสาเหตุที่เด็กไม่อ่าน อันดับหนึ่งคือมองว่าเด็กเล็กเกินไป รองลงมาคือ เด็กอ่านหนังสือไม่ออก เด็กชอบดูโทรทัศน์มากกว่า ตามลำดับ ส่วนเด็กผู้หญิงไม่อ่านหนังสือเพราะเด็กเล็กเกินไป รองลงมาคือ ไม่มีเวลาอ่าน ชอบดูโทรทัศน์มากกว่า ไม่อ่านหรือไม่สนใจ และอ่านไม่ออก ตามลำดับ”  
             นางปัทมา กล่าวอีกว่า ในส่วนของกลุ่มที่อายุ ๖ ปีขึ้นไปพบว่ายิ่งการศึกษาสูงยิ่งมีอัตราการอ่านสูง ถ้าดูแนวโน้มจากปี ๒๕๕๔-๒๕๕๘ จะพบว่ามีอัตราการอ่านเพิ่มขึ้น โดยปี ๒๕๕๘ พบว่าคนไทยอ่านหนังสือร้อยละ ๗๗.๗ หรือ ๔๘.๔ ล้านคน อยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครมากสุด พื้นที่ภาคอีสานน้อยที่สุด ทั้งนี้หนังสือที่อ่านมากที่สุดคือหนังสือพิมพ์ รองลงมาคือสื่อออนไลน์ บทความทั่วไป วารสาร หนังสือคำสอนทางศาสนา นิตยสาร หนังสืออ่านเล่น การ์ตูน แบบเรียน ตามลำดับ ที่น่าสนใจคือ เวลาในการอ่านเพิ่มจากปี ๒๕๕๖ จาก ๓๗ นาทีต่อวันเป็น ๖๖ นาทีต่อวัน
             ภายในงานฯ ได้มีการเสวนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ในหัวข้อ “ผลสำรวจการอ่านกับแนวโน้มพฤติกรรมการอ่านของคนไทย” โดยนายจรัญ หอมเทียนทอง นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย, นางสุดใจ พรหมเกิด ผู้จัดการแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน สสส., นายณัฐวุฒิ พงเจริญพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อุ๊คบี จำกัด และนายวัฒนชัย วินิจจะกูล หัวหน้าฝ่ายวิชาการ สำนักงานอุทยานการเรียนรู้ TK park  โดยสรุปแนวโน้มพฤติกรรมการอ่านของคนไทย พบว่าแม้สื่ออิเล็กทรอนิกส์จะเข้ามามีบทบาทแต่การอ่านผ่านสื่อกระดาษจะไม่ลดน้อยลง เพราะหนังสือกระดาษยังมีคุณค่าที่สื่ออิเล็กทรอนิกส์ทำไม่ได้ ที่สุดแล้วทั้งอุทยานการเรียนรู้ สำนักงานสถิติแห่งชาติรวมถึงแผนงานฯ ย้ำว่าวิธีที่ดีที่สุดเพื่อให้เป็นคนรักการอ่านก็คือ พ่อแม่ควรมีส่วนร่วมในการส่งเสริมพฤติกรรมการอ่าน ปลูกฝังตั้งแต่เด็ก รวมถึงสถานศึกษาต้องจัดให้มีการส่งเสริมการอ่านอย่างต่อเนื่อง
 
เสวนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ในหัวข้อ
“ผลสำรวจการอ่านกับแนวโน้มพฤติกรรมการอ่านของคนไทย”
๓๐ มีนาคม ๒๕๕๙