หัวใจ กับ ใบโพธิ์ # 7 : 84 พรรษา ฟ้าห่มดินทั่วถิ่นไทยเชิดชูแม่ของแผ่นดิน
“พลังการอ่าน…ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ สู่ เจ้าฟ้านักเขียน เจ้าฟ้าในดวงใจของคนไทย นำมาสู่การเสวนาที่มีพลัง “สานพลังการอ่านที่สร้างทักษะสมอง EF และทักษะชีวิตเพื่อลูก” เพื่อการสืบสานการอ่านหนังสือให้ลูกฟัง…ตามแนวทางพระราชจริยวัตรในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ในวโรกาส 84 พรรษา ฟ้าห่มดินทั่วถิ่นไทย ในงานหัวใจกับใบโพธิ์ ครั้งที่ 7 เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2559 ณ ศูนย์หนังสือจุฬาฯ อาคารจามจุรี สแควร์ ชั้น 4 ที่ผ่านมา แผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน สสส. ร่วมกับ ศูนย์หนังสือจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เสวนาเปิดประสบการณ์การทำงานและความประทับใจของการขับเคลื่อนงานหนุนเสริมและสร้างชุมชนปฏิบัติการรักการอ่าน ในงาน “พลังอ่านของแม่ สานพลังสมองและทักษะชีวิตเพื่อลูก” ว่าเป็นทักษะจำเป็นอย่างยิ่งยวดของคนรุ่นใหม่ในศตวรรษที่ 21
การจัดงานครั้งนี้ เต็มไปด้วยพลังการสร้างการสื่อสารด้วยการอ่าน โดยมีคุณเรวัต สังข์ช่วย (ดีเจพี่น้ำเย็น) สถานีวิทยุ FM.105 คลื่นสีขาวรายการเพื่อเด็กและครอบครัวเป็นผู้ดำเนินรายการ ที่ได้เปิดให้ผู้เชี่ยวชาญที่มาร่วมสานเสวนาได้ถ่ายทอดประสบการณ์ ตั้งแต่ช่วงชีวิตสมัยวัยเด็กจนเป็นที่มาในปัจจุบัน ที่เป็นกำลังสำคัญในการสานพลังขับเคลื่อนส่งเสริมการอ่าน เพื่อเสริมสร้างทักษะชีวิต รวมถึงการแลกเปลี่ยนประสบการณ์จากวิทยากรในการส่งเสริมการอ่าน ในบรรยากาศอันแสนอบอุ่น
ดร.อรสุดา เจริญรัถ ผู้ช่วยเลขาธิการโครงการพระดาบส ได้ถ่ายทอดพระราชจริยวัตรสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จากหนังสือพระราชนิพนธ์ "สมเด็จแม่กับการศึกษา" พระราชนิพนธ์ ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ว่าทรงปลูกฝังให้พระราชโอรสพระราชธิดาทรงรักการอ่านหนังสือตั้งแต่พระชนม์เพียง ๖-๗ พรรษา หรือกล่าวได้ว่าตั้งแต่ทรงเริ่มอ่านหนังสือออก ทรงใช้วิธีหัดให้ทรงอ่านหนังสือวรรณคดีไทยหลายเรื่อง นอกจากนี้ ยังทรงซื้อหนังสืออื่น ๆ มาทรงอ่าน แล้วทรงเล่าพระราชทานพระราชโอรสพระราชธิดา เป็นต้นว่า หนังสือนิทานสำหรับเด็ก ประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ ประวัติบุคคลสำคัญ พุทธศาสนา เรื่องเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมทั้งของไทยและต่างประเทศ ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพื้นความรู้ทางวิชาการด้านอักษรศาสตร์ดีมาตั้งแต่ทรงพระเยาว์ นอกจากจะทรงศึกษาในชั้นเรียนปกติแล้ว ยังทรงปรึกษาขอคำแนะนำจากผู้ทรงคุณวุฒิ และทรงศึกษาค้นคว้าด้วยพระองค์เองด้วย จนได้รับพระสมัญญานามว่า “เจ้าฟ้านักการศึกษาของปวงชนชาวไทย” ซึ่งการเรียนรู้ของสมเด็จพระเทพฯ ไม่ได้เป็นการเรียนรู้เพื่อพระองค์เอง แต่พระองค์เรียนรู้เพื่อประชาชน เช่นเดียวกับพระราชกรณียกิจต่างๆ ที่เกี่ยวกับการศึกษา ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่พระองค์ทรงมีแก่พระราชโอรส และพระราชธิดา ตลอดจนถึงไพร่ฟ้าประชาชนทุกหมู่เหล่า อันนำมาซึ่งความปลื้มปิติยิ่งในมหากรุณาธิคุณนี้
นางสุดใจ พรหมเกิด ผู้จัดการแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน สสส. กล่าวว่า แผนการอ่านฯ ภายใต้การสนับสนุนของ สสส. ขับเคลื่อนงานส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยมาโดยตลอด เพราะมีงานวิชาการ, งานวิจัยตลอดจนความรู้จากการปฏิบัติสอดคล้องกันว่า หนังสือและการอ่านเป็นสื่อที่มีประสิทธิภาพในการเสริมสร้างพัฒนาการเด็ก โดยเฉพาะในช่วงปฐมวัย (0-6 ปี) โดยความสุขจากการอ่านช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพ่อแม่ลูก และบุคคลในครอบครัว อีกทั้งยังเป็นเครื่องมือสำคัญที่ส่งเสริมทักษะสมอง EF และการอ่านที่เริ่มจากความสุข ความเพลิดเพลิน จะกระตุ้นให้สมองหลั่งสารแห่งความสุข อันจะส่งผลให้เด็กรู้สึกสดชื่น เบิกบานใจ นำสู่การสร้างพลังของชีวิต และเป็นฐานสำคัญของการสร้างกระบวนการเรียนรู้ตลอดชีวิต
นางสุภาวดี หาญเมธี ประธานสถาบันอาร์แอลจี หรือ รักลูกกรุ๊ป กล่าวว่า EF (Executive Functions) เป็นกระบวนการทางความคิดในสมองส่วนหน้า ที่เกี่ยวข้องกับการคิด ความรู้สึก และการกระทำของ EF 9 ด้านที่สำคัญ เช่น การยั้งใจคิดไตร่ตรอง การควบคุมอารมณ์ การยืดหยุ่นทางความคิด การตั้งเป้าหมาย วางแผน ความมุ่งมั่น การจดจำและเรียกใช้ข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ การจัดลำดับความสำคัญของเรื่องต่างๆ และการทำสิ่งต่างๆ อย่างเป็นขั้นเป็นตอนจนบรรลุความสำเร็จ ซึ่งเป็นทักษะที่มนุษย์เราทุกคนต้องใช้ มีความสำคัญยิ่งต่อทั้งความสำเร็จในการเรียน การทำงาน รวมทั้งการมีชีวิตครอบครัว ซึ่งการอ่านหนังสือมีผลต่อการพัฒนาทักษะ EF ทั้ง 9 ด้าน
นอกจากนี้ภายในงานยังได้มีการจัดแสดงนิทรรศการการอ่านกับการสร้างเสริมสุขภาพ พร้อมทั้งมอบหนังสือ “พัฒนาทักษะสมอง EF ด้วยการอ่าน” ให้แก่ผู้เข้าร่วมงาน เพื่อเผยแพร่ และรณรงค์การพัฒนาหนังสือที่ส่งเสริม EF เพื่อร่วมสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่านให้เกิดขึ้นในสังคมไทยด้วย