Happy Reading โดย มูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน

“พระสงฆ์กับบทบาทการร่วมแก้ปัญหาการอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ของเด็กไทย”

“พระสงฆ์กับบทบาทการร่วมแก้ปัญหาการอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ของเด็กไทย”

illustration1

“เบื้องต้นของการศึกษา คือ การอ่าน , รากฐานของตึกคืออิฐ รากฐานของชีวิตคือการศึกษา”
พระมหาสุทธิ สิทธิเมธี   
นิสิตภาควิชาเศรษฐศาสตร์  คณะสังคมศาสตร์
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย
คณะกรรมการชมรมนิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย
      โครงการ Gen A พลังพลเมือง : อ่านเปลี่ยนเมือง เกิดจากความร่วมมือของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สสส. แผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา สกอ.และ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สพฐ. ที่ต้องการถึงพลังและศักยภาพของนิสิตนักศึกษาให้ก้าวมามีส่วนร่วมแก้ปัญหาการอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ ที่มีความสำคัญระดับชาติ เพราะการสำรวจของกระทรวงศึกษาธิการพบว่า เด็กอายุ 6-14 ปียังมีการถึง 12.4% กว่าล้านคน  นักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการกว่า 2,000 คน จาก 35  สถาบันการศึกษทั่วประเทศ มึความตื่นตัวต่อการคิดค้นหาวิธีแก้ไขปัญหาเร่งด่วนนี้อย่างมาก
      บนเส้นทางของกิจกรรมพัฒนาสังคมของโครงการนี้ที่ให้ความสนใจ ไม่เพียงเฉพาะ แต่ในรั่วมหาวิทยาลัย วันนี้เราได้พูดคุยกับพระมหาสุทธิ สิทธิเมธี และพระศิระพงศ์ พรฺหฺมปัญโญ จากชมรมนิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย  ทางพระพุทธศาสนากับกิจกรรมเพื่อสังคม ในการพลิกเปิดนิยามความหมายของภิกษุ จาก ความหมายของพระภิกษุ คือ “ผู้ขอ”มาเน้นอีกนิยาม ที่แปลว่า ผู้เห็นภัยในวัฏฏสงสาร, ผู้ช่วยเหลือสังคมเมื่อมีภัย กลายเป็นแรงบันดาลสู่การขับเคลื่อนกิจกรรมเพื่อสังคม จึงมีการจัดตั้งเครือข่ายโครงการ Gen A ขึ้นในชมรมนิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย
      กิจกรรมที่ดำเนินอยู่เดิมแล้ว ของชมรมผนวกกับได้มีแรงสนับสนุนจากโครงการฯ ทำให้ชมรมมีแรงหนุนเสริมในการจัดกิจกรรมมากยิ่งขึ้น  ทั้งนี้ทางโครงการได้มีรูปแบบการดำเนินกิจกรรมของชมรมนิสิตมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัยยึดภารกิจหลักของพระภิกษุในการเผยแพร่ศาสนาสู่กิจกรรมส่งเสริมรักการอ่าน ให้กับโรงเรียนและชุมชนขาดโอกาสในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยประยุกต์หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนาผนวกกับกิจกรรมการส่งเสริมการอ่านในห้องเรียนให้กับเด็กนักเรียน ด้วยการใช้กลยุทธ์สร้างและกระตุ้น “ความอยาก” ความต้องการ และความอยากรู้ เช่น การนำเกมและสันทนาการต่างๆเข้าในคาบวิชาเรียน  ซึ่งทำให้เด็กๆนอกจากได้ความรู้ทางวิชาการที่แสนสนุก ได้สาระประโยชน์ ทางทีมงานยังสอดแทรกเรื่อง การปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมไปพร้อมๆกัน โดยใช้เครื่องมือที่เรียกว่า “พุทธจิตวิทยา” นอกจากนี้ยังนำสื่อทางเทคโนโลยี เช่น วีดีโอ สารคดี  มาเป็นส่วนหนึ่งในการจัดกิจกรรมด้วย ซึ่งสามารถดึงดูดความสนใจของนักเรียนได้มากและได้รับความร่วมมือจาก ครู ครอบครัวของนักเรียนและชุมชนอีกด้วยทำให้หลักคิด “บวร” คือความร่วมมือระหว่าง  บ้าน  วัด   โรงเรียน”   ซึ่งเป็นจุดสำคัญในการพัฒนาการศึกษา  พัฒนาเด็ก และสังคมพลิกฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง  

บันทึกจาก
Workshop: เพื่อถอดบทเรียนGen A: ผลเมืองตื่นรู้สู่พลังอ่านเปลี่ยนเมือง  
23-24 มกราคม 2589   โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ