ชวนหมอมาทำหนังสือ…โดย ระพีพรรณ พัฒนาเวช

    “หมอ” เป็นคำที่พี่น้องส่วนใหญ่ในชุมชนใช้เรียกเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาล เราจึงขอเรียก “หมอ” ตามพี่น้องบ้าง เมื่อหมอบุศย์ บุษริน เพ็งบุญ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ กลุ่มงานจิตเวช แห่งโรงพยาบาลอินทร์บุรี ผู้ทำงานคลุกคลีกับชุมชนมาเนิ่นนาน ลุกขึ้นมาชักชวนพี่น้องทำงานเรื่องการอ่านเพื่อส่งเสริมการพัฒนาสุขภาพ และปกป้องลูกหลานกลุ่มเสี่ยง หมอบุศย์จึงมีเครือข่ายทั้ง เจ้าหน้าที่สาธารณสุข อสม. คุณครูประถม- มัธยมและคุณครูผู้ดูแลเด็ก รวมถึงพ่อแม่ ผู้ปกครองมาร่วมวงปฏิบัติการกับชาวคณะแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน …. ก็สนุกสิคะ คราวนี้
    การพูดคุยและลงมือปฏิบัติการจัดขึ้น ๒ วัน คือวันที่ ๑๙-๒๐ พฤศจิยายน ซึ่งเป็นช่วงที่ลมหนาวโชยมาพอดี บรรยากาศจึงเป็นไปอย่างสดชื่น แม้ว่าผู้เข้าร่วมรับการอบรมจะมาจากหลากหลายสาขาอาชีพแต่ก็มิได้เป็นอุปสรรค เพราะทุกคนล้วนมีหัวใจเป็นหนึ่งเดียว คือ อยากทำสิ่งดีงามเพื่อลูกหลานได้อบอุ่นและปลอดภัย ทุกคนจึงตั้งใจฟัง มีส่วนร่วม และตั้งใจทำงานเพื่อให้ได้หนังสือเล่มแรกด้วยฝีมือพ่อแม่ ยายย่าและคุณครู นำกลับไปใช้กับลูกศิษย์และลูกหลาน
    และที่น่าสนใจ น่าชื่นชม น่าประทับใจจนหายเหนื่อยเมื่อได้ฟังหมอบุศย์ พูดคุยถึงความคิดที่จะทำงานสานต่อจากโครงการนี้ นั่นคือ การรวบรวมเครือข่ายไปจัดกิจกรรมต่อกับกลุ่มเยาวชนในพื้นที่ทันที เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนได้ค้นพบศักยภาพและเห็นคุณค่าในตนเอง และมีแผนที่จะขยายการทำงานไปยังกลุ่มครูผู้ดูเด็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กให้ทำงานร่วมกับผู้ปกครองเพื่อส่งเสริมให้มีการยืมหนังสือกลับไปอ่านให้ลูกหลานฟังที่บ้าน พร้อมกับการติดตามผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ส่วนเจ้าหน้าที่กลุ่มงานพัฒนาการเด็กก็ไม่แพ้กัน เพราะมองเห็นช่องทางและได้เครื่องมือช่วยส่งเสริมพัฒนาการเด็กในห้องพัฒนาการเด็กเช่นกัน คุณไหม (เจ้าหน้าที่ห้องพัฒนาการเด็ก)กล่าวในตอนท้ายของการอบรมว่า “ตอนแรกรู้สึกหนักใจ เพราะเห็นว่าเป็นการทำหนังสือ กลัวว่าตัวเองจะทำไม่ได้ แต่พอมาอบรมแล้วจึงรู้ว่า ไม่ยากเลย เพียงแต่เรานึกไม่ถึงเท่านั้นเอง อย่างผลงานของวันนี้จะเอาไปพัฒนาต่อ และนำไปใช้ในการทำงานได้อย่างแน่นนอนค่ะ” ….. ฟังแล้วสุดแสนจะชื่นใจ
    เนื่องจากพื้นที่อินทร์บุรีได้รับการสนับสนุนหนังสือ“หนังสือดี๑๐๘ เล่มสำหรับเด็ก” เพราะมีเครือข่ายที่เข้มแข็ง ลงพื้นที่ทำงานอย่างจริงจัง จึงเท่ากับว่าชาวอินทร์บุรีมีต้นทุนเป็นหนังสือดีอยู่ในมือแล้ว ฉะนั้น ในไม่ช้านี้ เราจะได้เห็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่ทำงานเรื่องการอ่านอย่างเข้มแข็ง ก้าวหน้าและพร้อมจะเป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้สำหรับผู้สนใจต่อไป