จับวิทยาศาสตร์มาสู่หนังสือน่าอ่าน
จับวิทยาศาสตร์มาสู่หนังสือน่าอ่าน
สวทช. สถาบันการ์ตูนไทย มูลนิธิเด็ก และแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน สสส.
ร่วมหาแนวทางเปิดพื้นที่การอ่านสร้างสรรค์หนังสือวิทยาศาสตร์หลากหลายแนว
เมื่อวันพุธที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๕๓ ที่ผ่านมา สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมกับ สถาบันการ์ตูนไทย มูลนิธิเด็ก และแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน สสส. จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ “การสร้างสรรค์การ์ตูนวิทยาศาสตร์เพื่อเด็กไทย” แก่พนักงาน สวทช. และนักวิชาการผู้สนใจร่วม ๒๐ ท่าน ณ ห้องประชุม ๑๐๒ อาคารสำนักงานกลาง อุทยานวิทยาศาสตร์ ตามโครงการ “ความร่วมมือเพื่อสร้างสรรค์การ์ตูนวิทยาศาสตร์ระหว่าง สวทช. กับสถาบันการ์ตูนไทย มูลนิธิเด็ก และแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน สสส.” ที่ได้ริเริ่มร่วมมือมาก่อนหน้านี้
การเสวนาในครั้งนี้ ได้รับเกียรติจากวิทยากร คือ นางสุดใจ พรหมเกิด ผู้จัดการสถาบันการ์ตูนไทย มูลนิธิเด็ก และผู้จัดการแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน สสส. นายทวีศักดิ์ พึงลำภู บรรณาธิการ โครงการสรรพสาส์น สำนักพิมพ์มูลนิธิเด็ก และ ดร.นำชัย ชีววิวรรธน์ จากสวทช. ร่วมแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์การพัฒนาหนังสือการ์ตูนวิทยาศาสตร์สำหรับเด็ก เยาวชน และกลุ่มคนทั่วไป
“หนังสือสำหรับเด็กอาจแบ่งเป็นสามช่วงใหญ่ๆ คือหนังสือสำหรับเด็กปฐมวัย กลุ่มวัยประถมศึกษา และมัธยมศึกษาขึ้นไป สำหรับวัยอนุบาล หนังสือจะมีลักษณะใช้ภาพเสมือนจริง เนื้อหาเป็นเรื่องใกล้ตัว ที่เรารู้จักคุ้นเคย อย่างเล่มผลไม้อร่อย ตด อึ ภาษาที่ใช้คำน้อยๆ หรือคำที่มีจังหวะคล้องจอง ขยับเลย 3 ขวบ จะเริ่มสนใจ ชอบฟังนิทาน เนื้อหามีเรื่องราวมากขึ้น หนังสือภาพหรือพิคเจอร์บุ๊คจะเหมาะสม วัยประถมขึ้นไป งานจะค่อยๆกลายเป็นการ์ตูนมากขึ้น เรื่องราวมากขึ้นตามวัย ภาษาในการ์ตูนจะเป็นภาษาพูดมากขึ้น การ์ตูนสำหรับวัยมัธยมศึกษาถึงมหาวิทยาลัย จะมีลักษณะเป็นวรรณกรรมการ์ตูนมากขึ้น คือ มีเนื้อเรื่อง มีตัวละครเดินเรื่อง อาจแทรกแนวคิดปรัชญาเพื่อให้เกิดความลุ่มลึกก็จะช่วยจับใจผู้อ่านได้มากขึ้น แต่การ์ตูนหลายเรื่องก็สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้อ่านได้หลากหลายวัย เช่น โรงเรียนเม็ดกวยจี๊ ลิ้นชักแห่งความทรงจำ ฯลฯ บางทีก็ไม่มช่สูตรสำเร็จตายตัว บางครั้งเราคิดว่าหนังสือรูปแบบนี้น่าจะเหมาะกับวัยนี้ เช่น การ์ตูนวิทยาศาสตร์ ชุดสิ่งประดิษฐ์ของโลก ซึ่งเหมาะกับระดับประถมฯ แต่มีคุณแม่ท่านหนึ่งโทรมาเล่าให้ฟังว่า “ลูกสาววัยอนุบาลชอบเล่ม 3 ที่เกี่ยวกับเครื่องครัวมาก ขอให้อ่านให้ฟังก่อนนอนทุกคืน” ถ้าผู้ปกครอง คุณพ่อ คุรแม่ เปิดโอกาสให้ลูกได้อ่านงานที่หลากหลาย จะทำให้เขาได้ค้นพบว่าชอบอะไร อยากอ่านอะไร ซึ่งจะช่วยให้เกิดนิสัยรักการอ่านได้” นางสุดใจ พรหมเกิด กล่าว
ทั้งนี้ นายทวีศักดิ์ พึงลำภู ได้นำตัวอย่างหนังสือวิทยาศาสตร์หลากหลายแนวร่วมระดมความคิดการสร้างงานที่น่าสนใจสำหรับเด็กวัยมัธยมฯ ขึ้นไป ซึ่งเป็นงานรับช่วงต่อจากการ์ตูนตั้งแต่วรรณกรรม สารคดี ฯลฯ โดยมี ดร.นำชัย ชีววิวรรธน์ ให้ข้อเสนอแนะว่า การนำเรื่องทีมีอยู่มาสื่อสาร ความสำคัญอยู่ที่ “เทคนิคการเล่าเรื่อง การถ่ายทอด” ทำอย่างไรให้น่าสนใจและโดนใจผู้อ่าน โดยมีตัวอย่างการเล่าเรื่องในรูปแบบการ์ตูนและสารคดี มาพูดคุยแลกเปลี่ยน
การเสวนาในครั้งนี้ จะนำสู่การจัดทำโครงการและกิจกรรมเพื่อพัฒนาหนังสือและการ์ตูนวิทยาศาสตร์ไทยต่อไป และสำหรับผู้สนใจสามารถเข้าร่วมโครงการได้ที่ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) สถาบันการ์ตูนไทย มูลนิธิเด็ก และแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน สสส. โทร. 02-424-4616-17, 02-881-1734
นางสุดใจ พรหมเกิด ผู้จัดการสถาบันการ์ตูนไทย มูลนิธิเด็ก และผู้จัดการแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน ร่วมแลกเปลี่ยนในประเด็นต่างๆ
บรรยากาศเวทีเสวานาแลกเปลี่ยน
ถ่ายรูปร่วมกันเป็นที่ระลึก