เมล็ดแครอต

             หนังสือเล่มนี้มีอายุร่วม 70 ปีมาแล้ว แต่ยังเป็นหนังสือที่อมตะถึงทุกวันนี้ ดังมีผู้วิจารณ์ว่าเป็นเพราะทั้งภาพและคำพูดที่ทรงพลังนั้น “ราวกับมันกระโดดออกมาจากโลกของเด็กจริงๆ…”
             เรื่องราวง่ายๆ ทว่าลุ่มลึก กล่าวถึงเด็กชายตัวน้อยๆ คนหนึ่ง เพาะเมล็ดแครอตลงในดิน  แม่ พ่อ และพี่ชายต่างก็บอกกับเด็กชายว่า “ปลูกไม่ขึ้นหรอก”  แต่เด็กชายก็เฝ้ารดน้ำ ถอนวัชพืชทุกวัน  เวลาผ่านไปแครอตก็ยังไม่งอกขึ้นมา ทุกคนยังพูดเหมือนเดิมว่า “ปลูกไม่ขึ้นหรอก”
                          เด็กชายยังคงรดน้ำและถอนวัชพืชอยู่ทุกวัน และแล้ว วันหนึ่ง…ต้นแครอตก็งอกขึ้นมา
                          ดังที่เด็กชายมุ่งหวังไว้
             เมล็ดแครอต ใช้คำน้อยมากและเป็นคำสั้นๆ  ภาพที่สร้างสรรค์ขึ้นก็ใช้วิธีอันแยบยลในการช่วยดำเนินเรื่องได้เป็นอย่างดี เมล็ดแครอตที่เป็นเสมือนพระเอกของเรื่องถูกหยอดลงหลุมและมีเด็กชายเฝ้ารอคอยและติดตามความเปลี่ยนแปลงของมันด้วยใจจดจ่อ และไม่หวั่นต่อเสียงของคนรอบข้างที่ต่างบอกเขาว่า มันจะไม่มีอะไรงอกขึ้นมา
           ใครบอกว่าเด็กตัวเล็กๆ ยังไม่เข้าใจเรื่องของ Intrinsic Motivation หรือแรงจูงใจภายในซึ่งมาจากความสนใจ ความตั้งใจ และการมองเห็นคุณค่าของสิ่งที่ทำ  เด็กชายตัวน้อยๆ คนนี้ไง เรื่องราวของเขาจะช่วยเปิด “หน้าต่างแห่งโอกาส” สำหรับเด็กปฐมวัย ในความลึกซึ้งนี้ได้เป็นอย่างดี
เด็กๆ จะได้เห็นความมุ่งมั่นตั้งใจ และการอดทนรอคอย (Delayed Gratification) เพื่อผลสำเร็จในระยะยาว ในสิ่งที่เชื่อมั่นว่าดีงามและถูกต้อง  ผู้ปกครองสามารถปลูกฝังเมล็ดพันธุ์แห่งความมุ่งมั่นและการรอคอย ที่จะนำไปสู่ความสำเร็จให้แก่เด็กๆ ผ่านหนังสือที่ตีพิมพ์เป็นภาษาต่างๆ ทั่วโลกเล่มนี้ได้