เป็นเพื่อนกันนะ!

           มิตรภาพเกิดขึ้นได้ในวิถีธรรมชาติ อย่าง เป็นเพื่อนกันนะ เล่มนี้ เป็นความเกื้อกูลกันของสัตว์ใหญ่อย่างควาย กับสัตว์ตัวเล็กๆ อย่างนกเอี้ยง ที่โฉบมาเกาะอยู่บนหลังควาย จนมีเรื่องแต่งเรื่องเล่าถึงสัตว์ทั้งสองในรูปแบบต่างๆ เสมอ  คำเล่าในกาลก่อนจะบอกว่า “นกเอี้ยงเลี้ยงควายเฒ่า” แต่ในหนังสือภาพเรื่องนี้เป็นควายน้อย
           ควายน้อยไถนาเสร็จก็วิ่งเล่นจนพลัดหลงไปจากฝูง นกเอี้ยงบินมาเกาะอยู่บนหลังควายอยู่นานกว่าที่ควายจะรู้สึกตัว  เพราะนกเอี้ยงเห็นควายหดหู่ไม่รู้เพื่อนอยู่ไหน จึงถามว่า “เล่นกันไหมล่ะ” ควายตกใจแล้วไล่นกเอี้ยงให้ออกไปจากหลัง แต่นกเอี้ยงก็บอกกับควายว่าที่มาเกาะหลังควายก็เพื่อมาจิกกินเห็บกินแมลงที่อยู่ตามตัวควายให้
                  “ที่มาเกาะหลัง     ก็หวังขอแบ่ง
                    จิกกินแมลง        ตามแข้งตามตัว”
           ควายน้อยเห็นว่านกเอี้ยงช่วยกำจัดเห็บที่กัดเจ็บอยู่บนหลัง จึงขอบใจและยอมให้นกเอี้ยงเกาะหลังตัวเองได้อีก ควายกับนกเอี้ยงจึงกลายเป็นเพื่อนกัน
                  “มาเถิดเอี้ยงจ๋า    เชิญมาเกาะหลัง
                   จะเดินจะนั่ง        ได้ทั้งเช้าเย็น”
          ทั้งคู่เล่นด้วยกันจนหมดวัน เมื่อถึงเวลาลากลับเอี้ยงเห็นควายน้อยมีท่าทางเศร้า เอี้ยงรู้ว่าควายน้อยหลงฝูงมาจึงบอกทางกลับให้ ทั้งคู่นัดพบกันทุกวันและสัญญาว่าจะรักกันตลอดไป
“                 ควายน้อยกับเอี้ยง   ส่งเสียงสดใส
                  สัญญาด้วยใจ          จะไม่ทิ้งกัน”

         เป็นเพื่อนกันนะ! เป็นหนึ่งในหนังสือบูรณาการสู่ชีวิตชุด “ข้าว” หนังสือเล่าเรื่องด้วยนิทานภาพประกอบคำกลอน (กลอนสี่) ความโดดเด่นคือตัวละครเอกของเรื่องคือ ควายไถนา มีความน่ารักสดใสมาก ลายเส้นและสีสันที่ใช้ก็ค่อนข้างเรียบง่ายเหมาะกับบรรยากาศท้องทุ่ง นกเอี้ยงแสนซนก็มีบุคลิกที่สนุกสนานและโอบอ้อม เด็กผู้อ่านจะได้รับการปลูกฝังในเรื่องของความผูกพันที่เกิดจากความช่วยเหลือเกื้อกูลกัน  เหมาะสำหรับเด็กปฐมวัยและประถมศึกษาตอนต้น หากได้มีโอกาสเห็นทุ่งข้าว ชาวนา และนกเอี้ยงบนหลังควายจริงๆ จะทำให้การอ่านมีความสุขขึ้นอีกมาก