บ้านนี้เหมือนฝันกลางเมือง

- ชื่อหนังสือบ้านนี้เหมือนฝันกลางเมือง
-
หมวดหมู่
- หนังสือปันกันอ่าน
บ้านนี้เหมือนฝันกลางเมือง
ภัทรา แสงดานุช (เรื่องและภาพ)
สำนักพิมพ์บรรณกิจ 1991, 2549
ปกแข็ง 24 หน้า (22 x 20 ซม.), 180 บาท
หนังสือภาพสำหรับเด็กเรื่องนี้ระบุไว้บนปกว่าเป็นนิทานส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม นำเสนอเป็นกลอนหก บอกเล่าเรื่องราวของเด็กหญิงชมพู่ ซึ่งในตอนแรกอยู่กับคุณยายที่บ้านชายป่า ที่ซึ่งมีต้นไม้และสัตว์ต่างๆ มากมาย เด็กหญิงจึงชอบที่นั่นมาก
วันหนึ่ง คุณแม่มารับชมพู่ให้เข้าไปอยู่ในเมืองด้วยกัน เพื่อให้ชมพู่เรียนหนังสือ เมื่อเริ่มเข้ามาอยู่ในเมือง ชมพู่ได้เห็นตึกใหญ่ รถรา และผู้คนมากมาย แต่ชมพู่ก็สงสัยว่าในเมืองทำไมเห็นมีไม่มีต้นไม้เลย
แถวบ้านที่ชมพู่มาอยู่ก็ไม่เห็นมีต้นไม้ ชมพู่คิดถึงบ้านป่า จึงขอให้คุณแม่ปลูกต้นไม้ไว้หน้าบ้าน สองแม่ลูกช่วยกันดูแลจนต้นไม้เติบโตสวยงาม
ชาวบ้านที่ผ่านไปมาต่างก็ชอบบ้านของชมพู่เพราะมีต้นไม้ร่มรื่น ต่างก็พูดต่อๆ กันไปว่า “บ้านนี้เหมือนฝันกลางเมือง” จากนั้น ทุกคนก็เลยปลูกต้นไม้กันเต็มเมือง กลายเป็น “เมืองในผัน” อันงดงาม บทสรุปของหนังสือมีใจความดังนี้
ชมพู่ทำให้คนเห็น ว่าความร่มเย็นเป็นเรื่อง
ควรอยู่คู่ความรุ่งเรือง ต้นไม้กับเมืองคู่กัน
ตั้งแต่นั้นมาทุกคน ปลูกต้นไม้ใหญ่แข็งขัน
ไม่นานเมืองนี้ก็พลัน เหมือนเมืองในฝันงดงาม
วันหนึ่ง คุณแม่มารับชมพู่ให้เข้าไปอยู่ในเมืองด้วยกัน เพื่อให้ชมพู่เรียนหนังสือ เมื่อเริ่มเข้ามาอยู่ในเมือง ชมพู่ได้เห็นตึกใหญ่ รถรา และผู้คนมากมาย แต่ชมพู่ก็สงสัยว่าในเมืองทำไมเห็นมีไม่มีต้นไม้เลย
แถวบ้านที่ชมพู่มาอยู่ก็ไม่เห็นมีต้นไม้ ชมพู่คิดถึงบ้านป่า จึงขอให้คุณแม่ปลูกต้นไม้ไว้หน้าบ้าน สองแม่ลูกช่วยกันดูแลจนต้นไม้เติบโตสวยงาม
ชาวบ้านที่ผ่านไปมาต่างก็ชอบบ้านของชมพู่เพราะมีต้นไม้ร่มรื่น ต่างก็พูดต่อๆ กันไปว่า “บ้านนี้เหมือนฝันกลางเมือง” จากนั้น ทุกคนก็เลยปลูกต้นไม้กันเต็มเมือง กลายเป็น “เมืองในผัน” อันงดงาม บทสรุปของหนังสือมีใจความดังนี้
ชมพู่ทำให้คนเห็น ว่าความร่มเย็นเป็นเรื่อง
ควรอยู่คู่ความรุ่งเรือง ต้นไม้กับเมืองคู่กัน
ตั้งแต่นั้นมาทุกคน ปลูกต้นไม้ใหญ่แข็งขัน
ไม่นานเมืองนี้ก็พลัน เหมือนเมืองในฝันงดงาม
การใช้คำกลอนเดินเรื่องไปพร้อมๆ กับการสร้างสรรค์ภาพที่ดูสบายตา เป็นจุดเด่นของหนังสือ การให้สีภาพ โทนสีเขียวคือความเป็นชายป่า โทนสีแดงและน้ำตาลคือความเป็นเมือง สุดท้ายเป็นสีเขียวจึงเข้ามาอยู่ในบรรยากาศของเมือง
การปลูกฝังในเรื่องของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างง่ายๆ คือการสอนให้รักต้นไม้ ปลูกต้นไม้ เป็นการปลูกฝันในเรื่องสิ่งที่ถูกที่ควร “หน้าต่างแห่งโอกาส”ที่เปิดพร้อมสำหรับการเรียนรู้ว่าอะไรถูกต้อง อะไรไม่ถูกต้อง สามารถสอนสิ่งที่ถูกที่ควรในเรื่องของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเข้าไปได้ ตั้งแต่เด็กยังอยู่ในช่วงปฐมวัยเลยทีเดียว
การปลูกฝังในเรื่องของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างง่ายๆ คือการสอนให้รักต้นไม้ ปลูกต้นไม้ เป็นการปลูกฝันในเรื่องสิ่งที่ถูกที่ควร “หน้าต่างแห่งโอกาส”ที่เปิดพร้อมสำหรับการเรียนรู้ว่าอะไรถูกต้อง อะไรไม่ถูกต้อง สามารถสอนสิ่งที่ถูกที่ควรในเรื่องของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเข้าไปได้ ตั้งแต่เด็กยังอยู่ในช่วงปฐมวัยเลยทีเดียว