ค้างคาวค้างคืน

ค้างคาวค้างคืน
ขัตติยดา ไชยโย (เรื่อง) / เยาวภา จีราระรื่นศักดิ์, อรรถพล ดุมใหม่ (ภาพ)
สำนักพิมพ์บ้านแปลน, 2550
ปกอ่อน 24 หน้า (24 x 24 ซม.), 75 บาท

     ค้างคาวตัวหนึ่งไม่ยอมไปเรียนหนังสือเหมือนเพื่อนๆ  แต่ชอบนอน ชอบดูทีวี และชอบเล่นซุกซนอยู่ตัวเดียว จนกระทั่งวันหนึ่งเกิดอุบัติเหตุถูกหินหล่นทับขา ค้างคาวโซเซบินกลับมาหาเพื่อนๆ ที่โรงเรียน  เพื่อนๆ ต่างพากันห่วงใยและช่วยกันดูแลค้างคาว
     ด้วยความเอื้ออาทรจากเพื่อนๆ ค้างคาวจึงเกิดความซาบซึ้งและสำนึกในหน้าที่ของตัวเอง ในที่สุดก็ปรับปรุงตัวเองใหม่ กลับมาเรียนหนังสือพร้อมกับเพื่อนๆ
     ค้างคาวค้างคืน นำเสนอเนื้อหาเป็นคำกลอน ขึ้นต้นทุกบทด้วยข้อความเดียวกันตามชื่อเรื่อง เป็นการเล่นคำระหว่างคำว่า “ค้างคาว” กับคำว่า “ค้างคืน”  อันเป็นปกติของค้างคาวที่จะออกหากินตอนกลางคืน เทียบได้กับเด็กซึ่งต้องไปโรงเรียนตอนกลางวัน ทำให้เกิดเป็นเสียงสัมผัสด้วยอักษร ค. สี่พยางค์ เพิ่มความน่าฟังในการอ่านออกเสียงดังๆ
                       “ค้างคาวค้างคืน    ดึกดื่นยิ่งเพี้ยน
                        มัวเล่นล้อเลียน    การ์ตูนทีวี”
     จุดประสงค์หลักของหนังสือเล่มนี้ คือต้องการให้เด็กรู้จักหน้าที่ของตนคือการเรียน ผู้เขียนได้แรงบันดาลใจมาจากคำสอนของท่านพุทธทาสภิกขุ เรื่อง “ไม่รู้จักหน้าที่” ซึ่งนำมาพิมพ์ไว้ในหน้าต้นๆ ของหนังสือด้วย  แต่สิ่งหนึ่งที่สอดแทรกเข้ามาคือความเอื้ออาทรและความห่วงใยจากเพื่อนๆ ของค้างคาว  เด็กๆ ต้องการใครสักคนมาปลอบใจ มาดูแลเมื่อเขาเจ็บหรือตกอยู่ในภาวะคับขัน
                  “ค้างคาวค้างคืน    สะอื้นหมดท่า
                  น้ำตาหลั่งมา    ผวาในใจ”
                  “ค้างคาวค้างคืน    คนอื่นอยู่ไหน
                   บินโซเซไป    ตกข้างลำธาร”
                  “ค้างคาวค้างคืน    ยืนขาสั่นสั่น
                  เพื่อนช่วยเร็วพลัน    ก่อนล้มลงไป”
     ภาพสีสันสดใสของหนังสือ ทำจากเทคนิคคอมพิวเตอร์ เมื่อนำมาขยายใหญ่ทำให้ลายเส้นของโครงภาพคล้ายเส้นประ ไม่เนียนเหมือนเส้นวาด  การอ่านให้เด็กฟังหรือแนะนำให้เด็กอ่าน   คุณพ่อคุณแม่หรือคุณครูคงต้องอธิบายให้ทราบถึงธรรมชาติของค้างคาวด้วย เพราะค้างคาวออกหากินในเวลากลางคืน ในเรื่องค้างคาวจึงเรียนหนังสือในตอนกลางคืน ซึ่งแตกต่างจากชีวิตประจำวันของเด็กๆ
     ค้างคาวค้างคืน เปิด “หน้าต่างแห่งโอกาส” ในการเรียนรู้ของเด็กในด้านการมีวินัย รู้จักหน้าที่ของตนเอง เหมาะกับเด็กวัย 5-6 ขวบขึ้นไป ซึ่งผู้ใหญ่ต้องสอนให้มีระเบียบวินัย ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญของ Self Help คือการดูแลตัวเอง และพร้อมจะช่วยเหลือผู้อื่นต่อไป โดยในเรื่องนี้ค้างคาวตัวนี้ได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนๆ ในการเรียน จน “ขยันประจำ ทำหน้าที่ตน”