เรื่องการศึกษาความสามารถในการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้วิธีการสอนแบบ KWL – Plus
20. พูนพิศมัย แย้มขยาย (2555) นักศึกษาปริญญาโท สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา ได้ทำการวิจัยเรื่องการศึกษาความสามารถในการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้วิธีการสอนแบบ KWL – Plus กลุ่มตัวอย่างมีจำนวน 30 คน ผลการวิจัยพบว่า ความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษของกลุ่มตัวอย่าง หลังเรียนโดยใช้วิธีการสอนแบบ KWL – Plus มีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 คะแนนก่อนเรียนเท่ากับ 13.30 คะแนน หลังเรียนเท่ากับ 22.37 ความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษของกลุ่มตัวอย่างหลังเรียนโดยใช้วิธีสอนแบบ KWL – Plus สูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ในส่วนของความสามารถในการเขียนภาษาอังกฤษของกลุ่มตัวอย่าง พบว่า หลังเรียนโดยใช้วิธีสอนแบบ KWL – Plus มีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 คะแนนก่อนเรียนเท่ากับ 11.40 คะแนน หลังเรียนเท่ากับ 21.63 คะแนน ความสามารถในการเขียนภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หลังเรียนโดยใช้วิธีสอนแบบ KWL – Plus ไม่สูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70
พูนพิศมัย แย้มขยาย. (2555). การศึกษาความสามารถในการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้วิธีการสอนแบบ KWL – Plus. วิทยานิพนธ์ ค.ม. (หลักสูตรและการสอน). นครราชสีมา : สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา. อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ : ผศ.ดร.สมบูรณ์ ตันยะ.
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เปรียบเทียบความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้วิธีสอนแบบ KWL – Plus 2) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หลังเรียนโดยใช้วิธีสอนแบบ KWL – Plus กับเกณฑ์ร้อยละ 70 3) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการเขียนภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้วิธีการสอนแบบ KWL – Plus และ 4) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการเขียนภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หลังเรียนโดยใช้วิธีสอนแบบ KWL – Plus กับเกณฑ์ร้อยละ 70
กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2554 โรงเรียนบ้านหนองปรู อำเภอเมือง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 1 จำนวน 30 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้วิธีสอนแบบ KWL – Plus จำนวน 7 แผน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบทดสอบวัดความสามารถด้านการอ่านและแบบทดสอบวัดความสามารถในด้านการเขียน วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าร้อยละ หาค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการทดสอบค่าที (t-test)
ผลการวิจัย พบว่า
1. ความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หลังเรียนโดยใช้วิธีการสอนแบบ KWL – Plus มีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 คะแนนก่อนเรียนเท่ากับ 13.30 คะแนน หลังเรียนเท่ากับ 22.37
2. ความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หลังเรียนโดยใช้วิธีสอนแบบ KWL – Plus สูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ความสามารถในการเขียนภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หลังเรียนโดยใช้วิธีสอนแบบ KWL – Plus มีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 คะแนนก่อนเรียนเท่ากับ 11.40 คะแนน หลังเรียนเท่ากับ 21.63 คะแนน
4. ความสามารถในการเขียนภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หลังเรียนโดยใช้วิธีสอนแบบ KWL – Plus ไม่สูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70