Happy Reading โดย มูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน

เรียน รู้รอบด้านจากการอ่านกับพ่อแม่ 0-3 ปี

สรุปจากหนังสือ รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้สำหรับเด็กปฐมวัย อายุ 0-3 ปี ตามสมรรถนะของเด็กปฐมวัยในการพัฒนาตามวัย สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา

ในช่วง 3 ขวบแรก การสำรวจและเรียนรู้โลกของเด็กน้อยนอกจากการใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 เรียนรู้ด้วยตัวเองแล้ว การเล่านิทาน และอ่านหนังสือ ยังเป็นอีกกิจกรรมที่ช่วยให้เด็กรู้จักโลกให้มากขึ้น สนุกขึ้น และมีความสุขมากขึ้นด้วย

วัยขวบปีแรกเป็นช่วงที่ชีวิตสร้างพื้นฐานของการสร้าง ความสัมพันธ์และความไว้วางใจต่อโลกภายนอก การที่พ่อแม่ดูแลอย่างใกล้ชิดจะช่วยให้ลูกรู้สึกปลอดภัย สร้างความใกล้ชิดด้วยการเล่น การเล่านิทาน และอ่านหนังสือร่วมกันจะทำให้เด็กรู้สึกว่าไม่ถูกทอดทิ้งและเกิดความรู้สึก มั่นใจว่ามีพ่อแม่อยู่ใกล้ๆ

ขวบปีแรกจะมีการเรียนรู้ภาและการสื่อความหมาย เริ่มตั้งแต่เมื่อพ่อแม่อ่านหนังสือออกเสียงดังๆ เด็กจะแสดงความสนใจ ใคร่รู้ การเล่านิทานให้เด็กฟังมีส่วนช่วยกระตุ้นให้เด็กรักการอ่านมากขึ้น รวมไปถึงช่วยให้เด็กซึมซับคุณค่าทางวัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมประเพณี

การอ่านหนังสือให้เด็กฟังยังได้ประโยชน์ทั้งการเรียนรู้ ตัวอักษรและคำต่างๆ พร้อมทั้งฝึกการอ่านออกเสียง ยิ่งอ่านมากก็จะช่วยพัฒนาความสามารถในการอ่านได้เป็นอย่างดี การอ่านจึงมีความหมายต่อการช่วยพัฒนาทักษะทางภาษาโดยตรง การอ่านออกเสียงดังๆจะช่วยให้เด็กอ่านได้ดีขึ้น เพราะการอ่านออกเสียงจะทำให้เด็กเข้าใจถึงความสัมพันธ์ระหว่างตัวอักษร กับเสียงต่างๆ

การเล่านิทานหรืออ่านหนังสือให้เด็กฟัง น้ำเสียงที่ได้ยิน ภาพที่ได้เห็นจะช่วยสร้างจินตนาการของเด็ก ส่งผลให้เซลล์สมองทำงานได้อย่างสมบูรณ์ขึ้น ขณะเดียวกันความคิดจากหนังสือ นิทาน ยังเป็นการสร้างโลกแห่งการเรียนรู้ที่เกิดจากจินตนาการของเด็กได้อย่างกว้าง ไกล

วิธีการอ่านหนังสือให้เด็กฟังพ่อแม่ส่วนใหญ่ทำด้วยวิธี การที่ง่ายๆ เริ่มจากการจับหนังสือให้อยู่ในระดับสายตาให้เด็กมองเห็นหนังสือทุกส่วนมาก ที่สุด ในขณะที่อ่านพ่อแม่บางคนจะอ่านออกเสียงให้ดังพอประมาณ อ่านออกเสียงอย่างชัดเจน เพื่อเด็กจะได้ฟังภาษาที่ถูกต้อง สิ่งสำคัญที่สุด คือ

การเล่านิทานและอ่านหนังสือให้เด็กฟังจะต้องเล่าและอ่าน ติดต่อกันตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่หยุดเพื่ออธิบายหรือสอนอะไรมาก เพราะจะทำให้เด็กเกิดความเบื่อหน่ายและไม่มีสมาธิ

ถ้าพ่อแม่รู้จักเลือกนิทานและหนังสือที่เหมาะสมกับการ รับรู้และการเรียนรู้ก็จะช่วยให้เด็กเรียนรู้โลกได้อย่างรอบด้าน พร้อมๆกับมีทัศนคติที่ดีต่อหนังสือ ซึ่งจะเป็นการสร้างนิสัยรักการอ่าน ซึ่งเป็นพื้นฐานที่แข็งแรงของการเรียนรู้เด็กไปตลอดชีวิต

นิทานที่เหมาะสมในวัย 0-3 ปี ควรเป็นหนังสือภาพที่เป็นภาพเหมือนรูปสัตว์ ผัก ผลไม้ สิ่งของในชีวิตประจำวัน มีสีสวยงาม ขนาดใหญ่ชัดเจน เป็นภาพที่เล่าเรื่องได้อย่างมีชีวิตชีวา ไม่ควรมีองค์ประกอบภาพที่รกรุงรังที่ดีที่สุดคือหนังสือนิทานภาพที่เป็นบท ร้อยกรอง คำคล้องจองที่อ่านได้อย่างเป็นจังหวะ

พ่อแม่สามารถเล่านิทานและอ่านหนังสือให้เด็กฟังได้ ตั้งแต่แรกเกิด เพราะเด็กจะได้ยินเสียงและสามารถรัยรู้ถึงน้ำเสียงที่ส่งผ่านความรู้สึกได้ เป็นอย่างดี นิทานจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับพ่อแม่ที่จะเรียนรู้ไปพร้อมๆกับเด็ก

อาหารที่สำคัญของเด็กนอกจากจะเป็นอาหารกินแล้วยังต้องมี อาหารสมองที่เด็กจะได้รับจากการเล่านิทานล่านหนังสือภาพที่ดีที่จะทำให้เด็ก เกิดการพัฒนาสมองอย่างเป็นธรรมชาติ และจะทำให้ได้อาหารใจจากพ่อแม่ที่จะทำให้เด็กเติบโตอย่างมีความสุข

เอกสารอ้างอิง
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2552). รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้สำหรับเด็กปฐมวัย อายุ 0-3 ปี ตามสมรรถนะของเด็กปฐมวัยในการพัฒนาตามวัย. กรุงเทพฯ: สำนักมาตรฐานการศึกษาและพัฒนาการเรียนรู้ สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ.