Happy Reading โดย มูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน

เที่ยวครั้งสุดท้ายของ ‘ตั๊ก วงศ์รัฐ’

 

 
ปีสุดท้ายของชีวิต กับผลงานวรรณกรรมที่จะประกาศบางเสี้ยวชีวิตอีกเล่มหนึ่ง พร้อมกับงานแสดงภาพวาดจิตรกรรมสีน้ำนับเป็นช่วงเวลาที่มีความหมายยิ่ง 
 
ห้าทุ่มครึ่ง 22 ตุลาคม 2553 
 
ตั๊ก วงศ์รัฐปัญญา ใช้นามสกุลแรก แซ่หว่อง ครั้งสุดท้ายเปลี่ยนเป็น ฐิติบรรณ มีเพื่อน 2 กลุ่ม หนึ่งคือเพื่อนนักเขียนเพราะแกเป็นนักเขียน สองคือเพื่อนนักเรียนเพราะแกจบที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยซึ่งเป็นโรงเรียนที่หล่อหลอมให้มีความผูกพันกันมาก (อย่างภาคภูมิใจ) ผมคุ้นเคยกับพี่ตั๊กในแวดวงนักเขียนมาตั้งแต่สามสิบปีที่แล้วโดยไม่ทราบว่าต่างก็มาจากโรงเรียนเดียวกัน เพิ่งรู้ก็เมื่อแกมาเที่ยวภูเก็ตเมื่อเดือนที่แล้วเนื่องจากแกนัดพบกับ คุณธีรวุฒิ จิตรัตน์โกศล เพื่อนผู้อารีซึ่งเป็นนักเรียนรุ่นเดียวกันมีกิจการมั่นคงอยู่ที่นั่น โดยเราวางแผนจะจัดนิทรรศการแสดงภาพวาดสีน้ำของแกที่เกาะแห่งนี้ในราวต้นปีหน้า 
 
 
พ่อของตั๊กเป็นจีนแคะแซ่อึ๊งมาจากซัวเถา เป็นญาติกับ ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยที่มีเกียรติภูมิที่สุดของประเทศนี้ ส่วนแม่เป็นลูกครึ่งจีนแซ่คอ เป็นญาติกับพวกตระกูลคอมันตร์ พี่น้องหกคนแรกของตั๊กเกิดที่ขอนแก่นซึ่งพ่ออพยพจากกรุงเทพฯ ไปสร้างห้างสรรพสินค้าเป็นปึกแผ่นอยู่ที่นั่น จนเกิดเหตุไฟไหม้ครั้งหนึ่ง เพื่อนโกงครั้งหนึ่ง จึงย้ายกลับไปเริ่มต้นใหม่ที่กรุงเทพฯ เกิดน้องอีกสองคนได้เป็นชาวเมืองกรุงสมดังภูมิลำเนาแรกในเมืองไทยของเตี่ย 
 
 
ตั๊ก เป็นคนมีอัธยาศัยไมตรี สุภาพ มองโลกด้วยความหวังเสมอ ดื่มหนัก ร่าเริงกับเพื่อนฝูงและบ่นน้อยใจเพื่อนบางคนอยู่บ้างตามประสาคนตัวเล็กเสียงน้อย เป็นผู้อาวุโสที่ไม่ชอบสอนใครแต่ชีวิตการทำงานของแกก็เป็นบทเรียนให้แก่คนในวงการหนังสือได้ แม้จะจบการศึกษาด้านช่างการพิมพ์ แต่ช่วงวัยหนุ่มที่ขลุกกับ "ชมรมพระจันทร์เสี้ยว" กลุ่มคนพันธุ์แท้ผู้ทำศิลปะหลายแขนงอย่างเคี่ยวกรำและสร้างการเปลี่ยนแปลงในสังคมขึ้นมาจนถึงปัจจุบันคงเป็นส่วนสำคัญทำให้แกปักใจที่จะทำงานด้านนี้ตลอดไป เขียนเรื่องสั้น บทความประจำ ออกแบบงานหนังสือ วาดภาพจิตรกรรม โดยไม่มุ่งหวังชื่อเสียง ทิ้งผลงานรวมเรื่องสั้นเอาไว้ในบรรณพิภพ 2 เล่ม กับต้นฉบับที่สำนักพิมพ์ยักษ์ใหญ่กำลังจัดพิมพ์ 1 เรื่อง รวมทั้งภาพเขียนสีน้ำที่กำลังจะจัดแสดงอีกราว 30 ภาพ 
 
ช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ ตั๊กต้องออกจากงานบริษัทเครือเดอะเนชั่น บัดนี้ แม้จะเป็นเวลาที่แกยังไม่มีงานประจำ แต่ปีสุดท้ายของชีวิต การที่กำลังจะมีผลงานวรรณกรรมที่จะประกาศบางเสี้ยวชีวิตอีกเล่มหนึ่ง พร้อมๆ กับจะมีงานแสดงภาพวาดจิตรกรรมสีน้ำ ก็นับเป็นช่วงเวลาที่มีความหมายยิ่งนัก 
 
 
ชีวี ชีวา บรรณาธิการแพรวสำนักพิมพ์ผู้ตัดสินใจพิมพ์เรื่อง คือคนและผู้คน ของตั๊กกล่าวว่า ความเรียงเรื่องการเดินทางไปในที่ต่างๆ ในฐานะนักเขียนนักข่าวเล่มนี้เป็นงานที่เขียนเสร็จสดๆ ในปีที่ผ่านมา เป็นประสบการณ์กับความคิดคำนึงที่ญี่ปุ่น จีน ไต้หวัน โดยเฉพาะการฉายเดี่ยวไปก้าวย่างกลางกรุงลอนดอน ซึ่งละม้ายคล้ายลีลาเรื่องสั้นของ นิคม รายยวา เพื่อนนักเขียนกลุ่มพระจันทร์เสี้ยวผู้ได้รับรางวัลซีไรต์ ปี 2531 กระชับ ซื่อ ลึก 
 
 
ตั๊ก พักที่โอลด์ทาวน์โฮสเทล 3 คืน เป็นเกสท์เฮ้าส์เล็กๆ สร้างขึ้นในตึกแถวเก่าแก่ทรงฝรั่งครึ่งจีน (คนภูเก็ตชอบเรียกว่าสไตล์ชิโนโปรตุกีส) บนถนนกระบี่ในย่านเมืองเก่าภูเก็ต ถัดจากพิพิธภัณฑ์ภูเก็ตไทยหัวที่ผมทำงานไปเพียง 20 เมตร แกเล่าด้วยแววตาเศร้าผสมสนุกแบบของแกว่า ได้ยินนักท่องเที่ยวซึ่งสะกิดให้เพื่อนดูแกแล้วพูดว่า "อาแปะคนนั้นเพิ่งเดินออกมาแน่ะ" (เดินออกมาจากภาพถ่ายชาวจีนในห้องนิทรรศการห้องหนึ่งของพิพิธภัณฑ์) ดูเหมือนลูกจีนอย่างตั๊กจะชอบบรรยากาศย่านที่พักอยู่ไม่น้อย บอกจะกลับมาอีกเร็วๆ นี้เพื่อมาเตรียมจัดงานแสดงภาพวาดของแก 
 
แกน่าจะมีความสุขกับทุกหนแห่งที่ผมพาไป ไปเดินทอดน่องอยู่นานที่หมู่บ้านชาวเลหาดราไวย์ นั่งรถชมแหลมพรหมเทพ สัมผัสทัศนียภาพชายหาดกะตะ กะรน และไปดินเนอร์ในห้องอาหารติดหาดบนชั้นสองโรงแรมป่าตองบีชรีสอร์ท โรงแรมเก่าแก่แต่หรูหราของชายหาดที่บูมที่สุดในภูเก็ตตามคำเชิญของ ยุตต์ แสงวัณณ์ ผู้จัดการโรงแรมซึ่งเป็นศิษย์เก่าสวนกุหลาบฯ รุ่นพี่ มีความสุขเพราะอย่างน้อยก็ไม่มีใครดุห้ามแกดื่ม ซึ่งตั๊กก็ห้ามตัวเอง (ดื่มมาก) ได้อย่างน่านับถือ 
 
 
เช้าวันที่ 19 ตุลาคม ผมใจหายเมื่อคุณธีรวุฒิโทรมาบอกว่าตั๊กเขาไม่หายใจแล้ว แกละโลกนี้ไปอย่างไม่ทันรู้ตัวที่บ้านย่านบางแค แต่ศิลปินแก่ใจดีคนนี้ย่อมจากไปกับความทรงจำดีๆ ตลอดช่วงปีสุดท้ายของแก ใครคิดถึงตั๊กหรือเนื้องานของ ตั๊ก ฐิติบรรณ ไปหาซื้อพอคเก็ตบุ๊คเล่มสุดท้ายที่จะออกมาในเร็ววัน 
 
 
ภาพวาดสีน้ำของแกชุดนั้นก็จะจัดแสดงในงานมีตติ้งนักเรียนร่วมรุ่นต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ 
 

โดย : หรินทร์ สุขวัจน์ 
Life Style : Read & Write 
วันที่ 4 พฤศจิกายน 2553 
By : bangkokbiznews.com