ห้องสมุด 3 ดี
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานบัญญัติความหมายของ “ห้องสมุด” ไว้ว่า “ห้องหรืออาคารที่มีระบบจัดเก็บรวบรวมรักษาหนังสือประเภทต่างๆ ซึ่งอาจรวมทั้งต้นฉบับลายมือเขียน ไมโครฟิล์ม เป็นต้น เพื่อใช้เป็นที่ค้นคว้าหาความรู้”
แต่ในยุคที่เยาวชนไทยอ่านหนังสือนอกเหนือจากเวลาทำงานและเรียน ลดลงจากเฉลี่ยวันละ 69.1 นาทีในปี 2550 เหลือ 66.3 นาทีในปี 2551 เพราะใช้เวลาไปกับกิจกรรมอื่นๆ เช่น ดูโทรทัศน์มากกว่า ส่วนประชาชนทั่วไปอ่านหนังสือน้อยลงจากเฉลี่ยวันละ 51 นาทีในปี 2548 เหลือเพียง 39 นาทีในปี 2551 ทำให้รัฐบาลต้องหาคำนิยามใหม่ๆ สำหรับห้องสมุดเพื่อให้สถานที่แห่งนี้ดึงดูดใจผู้ใช้บริการมากขึ้น
ห้องสมุด 3 ดี คือ ห้องสมุดในมิติใหม่ที่กระทรวงศึกษาธิการคิดค้นขึ้นและเปิดตัวไปในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติครั้งที่ 14 เมื่อเดือนตุลาคม 2552
“3 ดี” ที่ว่านั้น คือ หนังสือดี บรรณารักษ์ดี และสภาพแวดล้อมและบรรยากาศดี
หนังสือดี หมายถึง หนังสือที่สร้างสรรค์ปัญญา ตรงใจผู้อ่านและเนื้อหาถูกต้องไม่มีพิษภัย
บรรณารักษ์ดี หมายถึง บรรณารักษ์ที่มีอัธยาศัยนํ้าใจดี ยินดีให้บริการ ทันสมัย และรักการส่งเสริมการเรียนรู้
บรรยากาศดี หมายถึง ห้องสมุดที่อบอวลด้วยมิตรภาพ สะอาด ร่มรื่น ปลอดภัย และสะท้อนเอกลักษณ์ชุมชน
จุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการในขณะนั้น ไม่เพียงแต่มอบนโยบายให้โรงเรียนในสังกัดกระทรวงฯ ปรับปรุงห้องสมุดโรงเรียนให้กลายเป็นห้องสมุด 3 ดีเท่านั้น หากแต่ยังอนุมัติงบประมาณจากโครงการไทยเข้มแข็งของรัฐบาลให้แต่ละโรงเรียนอีกด้วยเพื่อให้แน่ใจว่ารัฐบาลจะประสบความสำเร็จในการเพิ่มค่าเฉลี่ยการอ่านหนังสือของคนไทยเป็นเท่าตัวภายในปี 2555 โดยมีห้องสมุดเป็นแรงหนุนสำคัญ
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานตั้งเป้าหมายไว้เบื้องต้นว่าจะยกระดับห้องสมุดในโรงเรียน 18,026 แห่งให้กลายเป็นห้องสมุด 3 ดี เพื่อปลูกฝังนิสัยการอ่านและเป็นแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิตให้คนทุกกลุ่มวัย โดยงบประมาณเกือบครึ่งหนึ่งจะใช้ไปในการหา “หนังสือดี” และสื่ออิเล็กทรอนิคส์เข้าห้องสมุด
วรพันธ์ โลกิตสถาพร อุปนายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้จัดทำห้องสมุด 3 ดีต้นแบบให้คนชมในงานมหกรรมหนังสือฯ บอกว่าหัวใจสำคัญของห้องสมุดคือ มีหนังสือใหม่ๆ เติมเข้าห้องสมุดอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ห้องสมุด “ไม่ตาย”
เขายังเสนอด้วยว่ารัฐบาลควรมีนโยบายเปิดห้องสมุดโรงเรียนในวันเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งไม่เพียงทำให้ห้องสมุดของโรงเรียนกลายเป็นห้องสมุดของชุมชน แต่ยังทำให้ห้องสมุดมีชีวิตชีวาจากการใช้งานของคนในชุมชนด้วย
ขณะนี้โรงเรียนหลายแห่งกำลังแปลงโฉมห้องสมุดเดิม ให้กลายเป็นห้องสมุดมิติใหม่ชื่อว่า “ห้องสมุด 3 ดี” ที่น่าใช้อย่างเอาจริงเอา
ภาพจาก:http//sites.google.com