Happy Reading โดย มูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน

บ้านหนังสือ “บุงโกะ”


    คนไทยหลงใหลหลายสิ่งหลายอย่างที่ “เมดอินแจแปน”—อาหารญี่ปุ่น การ์ตูนญี่ปุ่น รถยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้า แม้กระทั่งบอยแบนด์ญี่ปุ่น ฯลฯ แต่สิ่งหนึ่งที่มีต้นกำเนิดในญี่ปุ่นทว่ายังไม่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางในสังคมไทย คือ “บุงโกะ”
    ถ้าแปลตามตัวอักษร บุงโกะ แปลว่า คลังเก็บหนังสือ (บุง-bun แปลว่า หนังสือ, โกะ-ko แปลว่า ที่เก็บของ) แต่ถ้าแปลตามประวัติความเป็นมาและหน้าที่ของมัน บุงโกะ คือห้องสมุดหนังสือหรือมุมหนังสือสำหรับเด็กที่ตั้งขึ้นในที่ต่างๆ เช่น บ้าน วัด ห้างสรรพสินค้า คอนโดมิเนียม หรือ ที่ทำการชุมชน
    บุงโกะมักจะจัดตั้งขึ้นโดย “แม่บ้าน” ที่รักหนังสือและการอ่านเป็นชีวิตจิตใจ จึงอยากให้เด็กๆ ในละแวกบ้านหันมารักการอ่านบ้าง จึงควักเงินส่วนตัวซื้อหนังสือหรือไม่ก็รับบริจาคหนังสือเด็กมาไว้ที่บ้านตัวเองแล้วเชิญชวนเด็กๆ มาอ่านกันฟรีๆ  บางทีคุณแม่บ้านก็หยิบนิทานมาอ่านให้เด็กในชุมชนฟังกันเพลินไปเลย
    คิชิโร ตากาฮาชิ แห่งห้องสมุดสาธารณะเทนริ ในเมืองนารา ประเทศญี่ปุ่น ค้นคว้าความเป็นมาของบุงโกะและพบว่าห้องสมุด “แบบบ้านๆ” นี้เกิดขึ้นมาเมื่อร้อยกว่าปีมาแล้วหรืออาจนานกว่านั้น  จากหลักฐาน บุงโกะที่เก่าแก่ที่สุดตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1906 โดยนักเขียนวรรณกรรมเยาวชนและบรรณารักษ์ที่ชื่อ คาสุอิ ทาเกนนุกิ ซึ่งเปิดบ้านพักของเขาในย่านอาโอยามา ในกรุงโตเกียวให้เป็นห้องสมุดสำหรับเด็กๆ ที่สามารถเข้ามาเลือกอ่านหนังสือได้ตามใจชอบ
    จากบ้านหนังสือของนายคาสุอิ บุงโกะได้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว จนถึงวันนี้ญี่ปุ่นมีบุงโกะอยู่ประมาณ 4,000 แห่ง บางแห่งอาจมีหนังสือเพียง 100 กว่าเล่ม ขณะที่บางแห่งมีหนังสือเป็นหมื่นๆ เล่ม  แต่ก็มีบุงโกะอีกเป็นจำนวนมากที่ตั้งขึ้นและปิดตัวไปโดยไม่มีการบันทึกไว้ เพราะธรรมชาติของบุงโกะคือ ใครจะทำก็ได้ ตั้งขึ้นที่ไหนก็ได้ ตกแต่งอย่างไรก็ได้ จะเก็บค่าสมาชิกหรือไม่ก็ได้ ประมาณว่าอยากเปิดก็เปิด อยากเลิกก็เลิก ไม่มีหลักเกณฑ์ตายตัวและไม่อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของหน่วยงานใด—ขอแค่เจ้าของบุงโกะมีใจรักหนังสือและอยากแบ่งปันความสุขที่ได้จากการอ่านหนังสือให้เด็กๆ เท่านั้นเป็นพอ
    บุงโกะที่ได้รับการเล่าขานมากแห่งหนึ่งเป็นของสตรีชาวญี่ปุ่น ที่ได้รับแรงบันดาลใจในการก่อตั้งมาจากหนังสือเล่มหนึ่งชื่อว่า กุริกับกุระ (เป็นเรื่องของหนูนักเดินทางสองตัว) เธอได้รับหนังสือเล่มนี้เป็นของขวัญคริสต์มาสในสมัยเด็กๆ เมื่อครั้งต้องย้ายไปพำนักต่างแดน  กุริกับกุระจึงเป็นเล่มโปรดแต่ยังเยาว์ที่พาตัวเธอกลับไปสู่เรื่องราวสมัยเด็กๆ ได้ แล้วเธอก็สร้างเว็บบล็อกของตัวเอง ขอบริจาคหนังสือเพื่อจัดตั้งบ้านหนังสือ เธอได้รับหนังสือจากทั่วโลกถึง 62 กล่อง
    บุงโกะมีบทบาทสำคัญที่ทำให้เด็กญี่ปุ่นได้อยู่ใกล้หนังสือและรักการอ่าน มันจึงได้รับความสนใจและเป็นแรงบันดาลใจผู้คนในประเทศต่างๆ ให้สร้างสรรค์สิ่งที่ดีๆ อย่างบุงโกะให้เยาวชนบ้าง ถึงกับมีการตั้ง “สมาคมบุงโกะนานาชาติ” (International Children’s Bunko Association ขึ้นในปี ค.ศ.1979  เพื่อให้การสนับสนุนการจัดตั้งบุงโกะขึ้นในประเทศต่างๆ
    เมืองไทยก็มีบุงโกะ เมื่อแม่บ้านชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งเนรมิตห้องชุดพักอาศัยของเธอให้เป็นบ้านหนังสือที่มีชื่อว่า “บ้านสวัสดี” ในปี 1995 คอนโดมีเนียมของเธอเปิดต้อนรับเด็กๆ ให้มาอ่านหนังสือกันฟรีๆ


    ต่อจากนี้ หากจะมีอะไรสักอย่างของญี่ปุ่นที่กลายเป็นกระแสยอดนิยมในสังคมไทย…ขอให้สิ่งนั้นคือ บุงโกะ โอมเพี้ยง!

 

 

ภาพจาก http://elibrary.nfe.go.th