“ถ่ายเถา”ชี้สังคมไทยเขี่ยปัญหาพ้นตัวเหมือน”เรยา” “ธัญญ์วาริน”วอนยอมรับตัวละครเล่าด้านมืดของมนุษย์

เมื่อวันที่ 24 พ.ค. ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร มีการเสวนาเรื่อง "สะท้อนเงาสังคมไทยในแอ่งน้ำเน่า" โดยมีนางถ่ายเถา สุิจริตกุล ผู้ประพันธ์"ดอกส้มสีทอง" นางวิภาวี เจริญปุระ นักแสดงจากภาพยนตร์"จันดารา" ธัญญ์วาริณ สุขะพิสิษฐ์ ผู้กำกับภาพยนตร์"Insects in the Backyard" และ ม.ร.ว.เฉลิมชาตรี ยุคล โอรสใน หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล ผู้บริหาร FuKDuK TV ร่วมเสวนา
นางถ่ายเถา กล่าวถึงละครเรื่องดอกส้มสีทอง ว่า ในความรู้สึกของตน"เรยา"ถือเป็นตัวดำเนินเรื่อง เพราะฉะนั้นตัวดำเนินเรื่องก็คือนางเอก ดังนั้น "เรยา" จึงเป็นนางเอกของเรื่องนี้ เมื่อเขียนบทนี้ก็เอาตัวเองไปใส่ตัวละคร คำพูด การกระทำ และความคิดจึงได้ผ่านสมองมาแล้ว จะทำอย่างไรให้ผู้ชายอยู่กับเรา ทะเลาะกับภรรยา ซึ่งตัวละครตัวนี้มีความเป็นมนุษย์มาก ไม่ได้ดีเลิศไปเสียทุกอย่างและไม่่ได้เลวถึงขั้นสุดชีวิต แต่เป็นคนทำเลวที่พยายามมีเหตุผลให้ตัวเอง แม้ว่าคนรอบข้างจะไม่เห็นด้วย อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าตอนประพันธ์เรื่องนี้ เคยคิดว่าจะมีผลกระเทือน แต่ไม่คิดว่าจะถึงขนาดนี้
นางถ่ายเถา ชี้แจงว่า ความหยาบคายไม่ได้อยู่ในหนังสือ ตนเขียนบทว่าตัวละครเรยาไม่ดีหรือแค่หงุดหงิดใส่แม่ ไม่ได้เขียนว่าเรยาต้องเอ็ดแม่ หรือให้แม่มานวด ไม่คิดว่าจะมีลูกคนไหนกล้า คิดไม่ถึงด้วยซ้ำ เรียกว่าเป็นเรื่องเหนือสติปัญญา
นางถ่ายเถา กล่าวถึงกระแสวิจารณ์ละครเรื่องนี้ ว่า แม้จะย้ายเวลาไปฉายในช่วงดึกก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ เพราะเห็นละครหลายเรื่องก็นำกลับมาฉายในช่วงบ่ายอยู่ดี "ที่ผ่านมา เราไม่ได้แก้ปัญหาที่ต้นตอ แต่เขี่ยปัญหาให้พ้นหน้าไป แต่ลึกๆ แล้วก็รู้ว่าเป็นความผิดใคร เหมือนเรยาในตอนแม่ถูกรถชนตาย ลึกๆแล้ว เรยารู้ว่าเป็นความผิดของเธอ แต่กลับบอกว่าแม่ไม่ดี เดินไม่ดูทางจนถูกรถชนตาย ตอนนั้นเรยาเสียใจอย่างเดียว คือไม่มีพวกอีกแล้ว แม่ที่เคยเป็นพวกมาตลอดต้องมาจากไป"
ผู้ประพันธ์ดอกส้มสีทอง กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้เขียนภาคสาม แม้มีสองฝ่ายสนับสนุนให้เขียนและไม่เขียนต่อ แต่ตนยังไม่มีเวลา เนื่องจากกำลังเขียนนวนิยายลงในนิตยสารอยู่ด้วย
ด้านธัญญ์วาริณ กล่าวถึงกรณีภาพยนตร์ได้รับเรตติ้งห้ามฉาย ว่า ภาพยนตร์ "Insects in the Backyard" นำเสนอชีวิตกะเทยที่มีเมียและมีลูก ซึ่งเป็นชีวิตจริงๆ ตัวละครมีชีวิตมีเหตุผล ต้องการสื่อถึงการนำเสนอชีวิตมนุษย์ เล่าวิถีปกติ แต่สิ่งที่ได้รับคือเขาไม่ต้องการให้ฉาย ไม่ต้องบอกด้านไม่ดีของสังคม มาช่วยกันทำสิ่งที่สวยงามดีกว่า เราไม่เคยพูดถึงปัญหาหรือความไม่ดีในสังคม ทั้งนี้ ไม่เคยคิดว่าภาพยนตร์จะสร้างแรงกระเพื่อมให้เกิดขึ้นในสังคมขนาดนี้ แต่การสร้างตัวละคร นำเสนอชีวิต เราเป็นกะเทยก็นำเสนอชีวิตของกะเทย เนื่องจากที่ผ่านมากะเทยถูกทำให้ดูตลก หรือสร้างสีสัน ให้กับการแสดง
ผู้กำกับ "Insects in the Backyard" กล่าวว่า จริงๆ แล้วถ้าอนุญาตให้ฉายภาพยนตร์เรื่องนี้ อาจมีคนเข้ามาดูไม่ถึง 50 คนด้วยซ้ำ แต่เมื่อถูกสั่งห้ามฉายแบบนี้ จึงมีแต่คนพูดถึงและอยากดูกัน เหมือนยิ่งห้ามก็ยิ่งยุ
"คนไทยโดนข่มขืนอยู่ทุกวัน และไม่เคยรู้ว่าตัวเองโดนกระทำอยู่ ทั้งจากสังคมและการปกครอง" ธัญญ์วาริณกล่าว และว่า ผู้ใหญ่บอกเราว่าโสเภณีผิดกฎหมาย แต่ที่ที่โสเภณีอยู่ใหญ่กว่าบ้านเราอีก ดังนั้นเราต้องให้ความรู้และความฉลาดเพื่อเท่าทันสื่อ แต่เราอาจถูกสอนให้ไม่ฉลาด เพื่อจะได้ปกครองง่าย อย่างละครเรื่องดอกส้มสีทอง ในตอนที่เรยาว่าแม่ทำให้้เรากลับมาถามตัวเองว่าเราเคยทำแบบนี้กับแม่หรือเปล่า ซึ่งตนถือว่าเป็นการสอนอีกรูปแบบหนึ่ง ดังนั้น จึงต้องดูเจตนาของทั้งเรื่องว่าเขาต้องการสอนอะไร อย่าจับองค์ประกอบจุดเดียวแล้วนำมาวิจารณ์
ม.ร.ว.เฉลิมชาตรี กล่าวว่า สถานการณ์นี้ เหมือนมีเกาะอยู่ 2 เกาะ คือเกาะสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ และเกาะเสรีภาพในการเล่าเรื่อง ซึ่งคนทั้ง 2 เกาะนี้พูดกันไม่รู้เรื่อง เราต้องแก้ปัญหาใหญ่ให้คน 2 เกาะนี้มาอยู่ร่วมกันและสร้างคนยุคใหม่ขึ้นมา ภาระไม่ได้อยู่ที่คนทำสื่อ แต่ต้องสร้างให้คนมีภูมิคุ้มกันและมีวิจารณญาณในการตัดสินของตัวเอง เพราะภาพยนตร์เรื่องเดียวกัน สำหรับคนหนึ่งอาจมองเป็นศิลปะแต่อีกคนกลับมองเป็นหนังโป๊
ม.ร.ว.เฉลิมชาตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า การเสริมสร้างวิจารณญาณเหล่านี้ ไม่ควรเริ่มจากสื่อหรือรัฐบาล แต่ต้องเริ่มมาจากครอบครัว
"การได้ทำงานบนอินเตอร์เน็ตจะเห็นข้อถกเถียงเยอะ และได้เห็นว่า บางคนมักมองหาแต่สิ่งเลวเสมอ ไม่ว่าจะทำงานออกมาดีสักแค่ไหน"
วันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
By : matichon.co.th