ดร.ผาสุก ” คืนชีพ ” ขุนช้าง ขุนแผน ค.ศ.2010 ฝรั่งอ่านแล้ว มอง ” สังคมไทย ” ทะลุ

ศ.ดร. ผาสุก พงษ์ไพจิตร กับ คริส เบเกอร์ ผลิตงานวิชาการ และบทวิเคราะห์ชั้นดีทางด้านเศรษฐศาสตร์การเมือง ออกมามากมาย แต่ล่าสุด ทั้งสอง ร่วมกับ คืนชีพ "ขุนช้างขุนแผน" เป็นภาษาอังกฤษ และรวบรวมคำอธิบาย ไว้โดยละเอียด กล่าวกันว่า อ่าน ขุนช้างขุนแผน เพียงเล่มเดียว ก็มองสังคมไทย ได้ทะลุปรุโปร่ง
มติชนออนไลน์ สนทนากับ ดร.ผาสุก ในวันที่เธอใกล้ปิดต้นฉบับ และเธอมีความคืบหน้ามาเล่าให้ฟัง
@ผลงานเรื่องขุนช้าง ขุนแผน เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ ไปถึงไหนแล้ว
เป็นงานแปลและก็อธิบายสิ่งต่างๆ ในขุนช้าง ขุนแผน ซึ่งนักอ่านทั่วไป ถ้าไม่ใช่นักภาษาหรือไม่ได้อยู่ในวงวรรณกรรมอ่านแล้วอาจจะติดจุดโน้น จุดนี้ ที่เราทำคือ เราเริ่มแปลฉบับของ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ 3 เล่ม หลังจากทำมาได้พักหนึ่งเราก็ไปค้นคว้าในห้องสมุด และจากการพูดคุยกับคนที่อยู่ในวงการเราพบว่า มีสำนวนอื่นๆ กลอนฉบับกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ที่ได้รับการตีพิมพ์แล้ว เราไปพบอยู่ในห้องสมุด ในมหาวิทยาลัยต่างประเทศและก็มีนักวิชาการบางคนเอาบางส่วนมาให้เราดู เราก็เลยตัดสินใจทำ 2 เล่ม คือ เล่มหนึ่ง เป็นการแปลฉบับของ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ จนถึงนางวันทองถูกฆ่า ฉบับที่สองเราได้นำเอาสำนวนก่อนหน้าบางตอนที่สำคัญๆ ที่แตกต่างไปจากฉบับของกรมพระยาดำรงราชานุภาพ มีแปลและมีคำอธิบายด้วย ในฉบับสองนี่ จะมีการอธิบายเกี่ยวกับเรื่องที่พบเช่น เรื่องอาหาร ดอกไม้ ต้นไม้ เรื่องผ้า และสัตว์ต่างๆ สถานที่ต่างๆ เราพยายามไปสืบค้น
@ แต่ละเวอร์ชั่น แตกต่าง หรือ เป็นสอดรับเป็นเรื่องเดียวกัน
มีความแตกต่างกันบางประการอย่างเช่น ฉบับของกรมพระยาดำรงราชานุภาพ บทของนางบัวคลี่เป็นบทที่ทำใหม่ในช่วงท้ายๆ ก่อนรัชกาลที่ 5 ไม่เเท่าไหร่ ตรงนี้เรามีการเปลี่ยนแปลงนิดหน่อย เราเอาบทกุมารทอง เปลี่ยนจากของกรมพระยาดำรงราชานุภาพ เราเอาฉบับสำนวนก่อนกรมพระยาดำรงฯ มาแทรก แล้วเอาของกรมพระยาดำรงไปใส่ไว้ในอีกเล่มหนึ่ง คือ ดิฉัน ด้วยความเป็นผู้หญิงมีความรู้สึกว่า บทของนางบัวคลี่ทารุณมาก รับไม่ค่อยได้
พอไปพบว่า สำนวนก่อนฉบับกรมพระยาดำรงราชานุภาพ มีอีกสำนวนหนึ่ง ไม่ได้มีการฆ่าผู้หญิงเป็นๆ แต่ขุนแผนไปหากุมารทองมาจากป่าช้า คือ วิธีทำกุมารทองมีหลายตำรา เราก็เลยตัดสินใจที่ใช้สำนวนไม่ค่อยจะทารุณมาก และเอาสำนวนที่มาที่หลังไปไว้อีกเล่มหนึ่ง เพราะฉะนั้นในฉบับของเราที่แปล อาจมีการเปลี่ยนแปลงแบบนี้ บางตอน ซึ่งกรมพระยาดำรงฯ ท่านได้ตัดออกไปแล้วเขียนใหม่ เพราะท่านคิดว่า ไม่เหมาะสมที่ผู้หญิงจะอ่าน และเราไปพบสำนวนเดิม และพิจารณาว่า ในสมัยนี้ ไม่ได้น่าเกลียดมากนัก เราก็ดึงกลับมาไว้ที่เดิม ก็มีการสอดแทรกแบบนี้
ความแตกต่างสำคัญของงานนี้คือว่า เราได้อธิบายทุกสิ่งทุกอย่างที่จะต้องอธิบาย ไม่ว่าเรื่องของภาษา อาหาร เสื้อผ้า ผ้าต่างๆ เรื่องต้นไม้ ดอกไม้ โหราศาสตร์ ไสยศาสตร์ การกล่าวถึงตำนานอื่นๆ หรือการกล่าวถึงประวัติศาสตร์อื่นๆ คือเราอธิบายแบบครอบคลุมมากเลย เพราะฉะนั้นจำนวนหน้าของทั้งสองเล่ม จึงออกมาถึง1,400 หน้า ต้องแบ่งเป็น 2 เล่ม เล่มแรกประมาณ 900 หน้า เพราะมีคำอธิบายอยู่ในเชิงอรรถ เพื่อช่วยผู้อ่านเมื่ออ่านแล้วพบคำอธิบายเลย เรากำลังคิดว่าเราจะทำสำหรับภาษาไทยให้มีคำอธิบายด้วย
@คาดว่าจะวางแผงเมื่อไหร่?
สำหรับภาษาอังกฤษคิดว่าน่าจะเสร็จภายในเดือนพฤศจิกายน
@ กิจกรรมตอนช่วงเปิดตัวหนังสือมีอะไรน่าสนใจ บ้าง
เราต้องการที่จะเปิดตัวหนังสือต้นเดือนธันวาคม แล้วก็ในช่วงเดือน เม.ย. 2554 ทางมูลนิธิจิม ทอมป์สัน จะช่วยจัดนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของเสภาขุนช้างขุนแผน แล้วนิทรรศการนี้จะดำเนินไปถึงเดือนกรกฎาคมของปีนั้น ซึ่งจะมีการประชุมระหว่างประเทศเกี่ยวกับไทยศึกษา สำหรับหนังสือเล่มนี้ มูลนิธิจิม ทอมป์สัน ได้ช่วยสนับสนุนการพิมพ์
@ ทราบว่า มีแผนจะแปลกลับเป็นภาษาไทยอีกครั้ง ?
ก็คิดว่า อาจจะทำ เราพบว่า ถ้าคนรุ่นใหม่ มาอ่านขุนช้างขุนแผนฉบับภาษาไทย โดยไม่มีเครื่องมือ จะติดปัญหา ไม่เข้าใจเยอะ มีหลายสิ่งหลายอย่างต้องการคำอธิบาย เราก็เลยอยากจะทำช่วยๆคนรุ่นใหม่ ให้อ่านหนังสือนี้ได้อย่างเข้าใจ ได้รับความรู้เพิ่มขึ้นอย่างสนุกสนาน
@ตัวตนของขุนแผน เป็นภาพลักษณ์ของผู้ชายไทย เก่ง และ เจ้าชู้ ชัดเจนไหม
ชัดค่ะ ขุนแผนเป็นลักษณะของผู้ชายไทยในหลายๆ รูปแบบ มีคนกล่าวว่า ถ้าหากวรรณกรรมต่างๆ ที่สำคัญของไทย สูญหายไปแต่เหลือขุนช้างขุนแผน สังคมไทยก็สามารถจะก่อร่างใหม่เกี่ยวกับวัฒนธรรมได้อย่างครบถ้วน นอกเหนือไปจากลักษณะของผู้ชายไทย หนังสือขุนช้างขุนแผนยังเป็นแหล่งที่มาของวัฒนธรรมไทยต่างๆ จากสมัยปลายกรุงศรีอยุธยา ต้นรัตนโกสินทร์ มาจนถึงปัจจุบันก็ยังใช้ได้อยู่
@ ภาพลักษณ์ของขุนช้างที่อาจารย์ศึกษามา มีความชั่วช้า อัปลักษณ์ นิสัยเลวทราม ขนาดนั้นไหม ?
ขุนช้างเป็นคนไม่ดี อ่านลึกๆ แล้วแกเป็นคนมีกลเม็ดเด็ดพรายมาก ไม่ตรงไปตรงมา ขี้โกง ฉลาดแกมโกง และแกพยายามทำตัวเป็นคนเซ่อๆซ่าๆ เอะอะมะเทิ่ง แต่ลึกๆ เป็นคนมีกลเม็ดเด็ดพรายได้ เป็นนักการเมืองได้ เมื่อเทียบกับขุนแผน แล้วขุนช้างเป็นคนไม่น่าดู ไม่น่าชมหลายอย่าง
@ พูดถึงผู้หญิงว่าอย่างไร นางวันทองตัวแทนของละคร เป็นยังไง ?
คือน่าสนใจมาก โดยทั่วไปบทบาทของผู้หญิงในขุนช้าง-ขุนแผนแล้ว คือ ผู้หญิงที่อยู่ภายใต้โครงสร้างของสังคมที่ว่า ผู้ชายเป็นใหญ่ อาจต้องเชื่อฟังพ่อแม่ สามี อะไรทำนองนี้ แต่บทของนางวันทอง เป็นบทที่ดีที่สุด เวลาที่คิดพูดออกมา จะสละสลวยมาก แสดงให้เห็นว่า วันทองเป็นคนช่างคิด ไม่ใช่ว่า จะถูกชักนำโดยพ่อแม่ และสามีได้เท่านั้น เป็นคนคิดเองทำเองตามสมควรเลยทีเดียว คนอื่นก็น่าสนใจ แต่เราจะไม่พบ
ในฉบับของกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ภาพของผู้หญิงจะคล้ายๆกันหมด แต่ถ้าไปดูสำนวนที่ที่เก่ากว่านั้น เราจะเห็นความแตกต่าง ภาพของชายหญิงก่อนของกรมพระยาดำรงฯ โดยเฉพาะกรณีของศรีมาลา แสดงความเป็นตัวของตัวเองของผู้หญิงน้อยมาก
สำนวนก่อนนั้น เมื่อศรีมาลา มาเจอ พลายงาม ต่างแสดงเสน่ห์หาทำนองเดียวกัน ซึ่งอันนี้จะไม่พบกรณีของผู้หญิงอื่น ในฉบับของกรมพระยาดำรงฯเป็นที่น่าสนใจว่า กวีที่เขียนตอนนี้ ให้ความเสมอภาคกับผู้หญิงให้คิดได้เหมือนผู้ชาย กวีนี้ อาจจะเป็นผู้ชาย อันนี้เป็นเรื่องที่ยังคงถกเถียงกันอยู่ ว่ามีกวีผู้หญิงบ้างไหมที่เข้ามา บางทีอาจไม่ได้ร่วมเขียนกับกวีผู้หญิงที่เป็นนักขับเสภา เพราะเริ่มต้นขับก่อนที่จะเขียน
@ ขุนช้าง-ขุนแผน สะท้อนภาพสังคมการเมืองได้ชัดเจนไหม
ในสำนวนของกรมพระยาดำรงราชานุภาพ โครงสร้างการเมืองที่ความจงรักภักดีมีความสำคัญมาก พระมหากษัตริย์ ทรงมีอำนาจสูงสุด แม้ในฉบับนี้พระมหากษัตริย์ก็มีขีดจำกัดในพระราชอำนาจ ก็ต้องมีกระบวนการคิดที่จะระแวดระวังที่จะให้อำนาจอยู่คงทน แสดงให้เห็นถึงการเมืองระหว่าง กรุงเทพฯ กับหัวเมือง และมีเรื่องสินบน เรื่องคอร์รัปชั่นด้วยที่ไม่ค่อยแตกต่างสมัยปัจจุบันเท่าไหร่
@ อาจารย์เป็นคนทำงานหนักมาตลอด คิดว่า เสร็จจากงานนี้ จะทำอะไรต่อ ?
ก็ทำกับ คริส เบเกอร์ ก็คุยกันว่า ตัวแกเองไม่เคยอ่านมาก่อน พอมาอ่านพล็อตชอบมาก ก็สนุกในการทำ ก็อยากจะทำภาษาไทย เอาฉบับภาษาไทยมาอธิบายให้เหมือนกับที่ทำกับฉบับภาษาอังกฤษ แต่เราจะไปเอาสำนวนก่อนกรมพระยาดำรงราชานุภาพ มาทำ คือ จะมีตอนที่คล้ายกัน และตอนที่ต่างกัน อันนี้เป็นอีกเฟส
วันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
By : matichon.co.th