Happy Reading โดย มูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน

งานวิิจัย : การวิเคราะห์เนื้อหาหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นแปลไทยของเครือเนชั่นกรุ๊ประหว่างปี พ.ศ.2541-2549

ธนพร  อินพุ่ม  (2550) นักศึกษาปริญญาโท สาขาวิชาบรรณารักษศาสตร์และสารนิเทศศาสตร์  มหาวิทยาลัยรามคำแหง  ได้ทำการวิจัยเรื่องการวิเคราะห์เนื้อหาหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นแปลไทยของเครือเนชั่นกรุ๊ประหว่างปี พ.ศ. 2541-2549  ในด้านประเภทหนังสือการ์ตูน  เนื้อหา  ภาษา  ลักษณะลายเส้น  รูปเล่ม  จำนวน 23 รายชื่อ 308 เล่ม  ผลการวิจัยพบว่า  การ์ตูนประเภทแนวบู๊มีมากที่สุด  แต่ไม่พบการ์ตูนแนวลามก  การ์ตูนส่วนใหญ่มีเนื้อหาเป็นคุณธรรม  จริยธรรม (88.3%)  เมื่อจำแนกเนื้อหาตามความรู้ด้านศิลปะ  วัฒนธรรม  พบว่า  ด้านการแต่งกายตามสมัยมีมากที่สุด (87.0%) ด้านวัฒนธรรมการดื่มชาพบน้อยมาก (2.6%)  และหากจำแนกตามความรู้ด้านกีฬา  พบว่า  การ์ตูนที่มีความรู้ด้านกีฬามีมากที่สุด (29.9%) รองลงมาคือการ์ตูนที่มีการแสดงออกทางเพศที่ไม่เหมาะสม (31.5%)  และการ์ตูนแสดงการกระทำที่โหดร้ายทารุณ (48.4%) ในภาพรวมการ์ตูนมีลักษณะการใช้ถ้อยคำในกรอบคำพูด (balloon) เป็นภาษาสั้น  กะทัดรัด  กระชับความหมายมีมากที่สุด (92.9%)  ลักษณะการเขียนภาษา  พบว่า  มีการเขียนถูกต้องตามอักขรวิธี  และตามพจนานุกรม (93.5%)  จำนวนการ์ตูนจำแนกตามวัตถุประสงค์ในการอ่านการ์ตูน  พบว่า  วัตถุประสงค์การอ่านการ์ตูนเพื่อทำให้เกิดความบันเทิงมีจำนวนมากที่สุด (67.5%)

ธนพร  อินพุ่ม.  (2550).  การวิเคราะห์เนื้อหาหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นแปลไทยของเครือเนชั่นกรุ๊ประหว่างปี พ.ศ.2541-2549.  วิทยานิพนธ์ ศศ.ม. (บรรณารักษ์ศาสตร์และสารนิเทศศาสตร์).  กรุงเทพฯ : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยรามคำแหง.  คณะกรรมการที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ : รองศาสตราจารย์ ดร.สุนีย์  กาศจำรูญ,  รองศาสตราจารย์กุลวรา  ชูพงศ์ไพโรจน์, รองศาสตราจารย์นิภา  ศรีไพโรจน์.

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์เนื้อหาหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นแปลไทยของเครือเนชั่นกรุ๊ประหว่างปี พ.ศ.2541-2549 ในด้านประเภทหนังสือการ์ตูน  เนื้อหา  ภาษา  ลักษณะลายเส้น  รูปเล่ม  จำนวน 23 รายชื่อ 308 เล่ม  โดยการบันทึกรายละเอียดของเนื้อหาบทความลงในแบบบันทึกข้อมูลที่ได้รับการตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือจากผู้เชี่ยวชาญด้านการ์ตูน  และบรรณารักษ์  สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล  ได้แก่  สถิติพรรณนา  ค่าร้อยละ 

ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้

  1. เนื้อหาการ์ตูนประเภทแนวบู๊มีมากที่สุด  หนังสือการ์ตูนที่ไม่พบ  คือ  การ์ตูนแนวลามก
  2. ด้านเนื้อหา  พบว่า  การ์ตูนส่วนใหญ่เป็นคุณธรรม  จริยธรรม (88.3%)
  3. จำนวนการ์ตูนจำแนกตามความรู้ด้านศิลปะ  วัฒนธรรม  พบว่า  ด้านการแต่งกายตามสมัยมีมากที่สุด (87.0%) ด้านวัฒนธรรมการดื่มชาพบน้อยมาก (2.6%)
  4. เนื้อหาการ์ตูนจำแนกตามความรู้ด้านกีฬา  พบว่า  การ์ตูนที่มีความรู้ด้านกีฬา  มีมากที่สุด (29.9%) การ์ตูนที่มีการแสดงออกทางเพศที่ไม่เหมาะสม (31.5%)  และการ์ตูนแสดงการกระทำที่โหดร้ายทารุณ (48.4%)
  5. ในภาพรวมการ์ตูนมีลักษณะการใช้ถ้อยคำในกรอบคำพูด (balloon) เป็นภาษาสั้น  กะทัดรัด  กระชับความหมายมีมากที่สุด (92.9%)
  6. ลักษณะการเขียนภาษา  พบว่า  มีการเขียนถูกต้องตามอักขรวิธี  และตามพจนานุกรม (93.5%)
  7. ลักษณะรูปเล่มการ์ตูน  พบว่า  มีขนาดมาตรฐาน 12.5 x 17.5 หรือ 16 หน้ายก  การ์ตูนส่วนใหญ่มีรูปเล่มปกแข็ง  ไสกาว  มีกระดาษปกอ่อนอาบมันหุ้ม  มีจำนวนมากที่สุด  กระดาษที่ใช้ผลิตการ์ตูนทั้งหมดเป็นกระดาษบรู๊ฟ
  8. จำนวนการ์ตูนจำแนกตามวัตถุประสงค์ในการอ่านการ์ตูน  พบว่า  มีวัตถุประสงค์การอ่านการ์ตูนเพื่อทำให้เกิดความบันเทิงมีจำนวนมากที่สุด (67.5%)
  9. จำนวนการ์ตูนจำแนกตามความเหมาะสมสำหรับการพิมพ์เผยแพร่  พบว่า  หนังสือการ์ตูนเหมาะสมสำหรับการพิมพ์เผยแพร่ (89.0%)
  10. จำนวนการ์ตูนจำแนกตามระดับการใช้การ์ตูนเป็นสื่อการเรียนการสอน  พบว่า  ระดับการใช้การ์ตูนเป็นสื่อการเรียนการสอน  ระดับปานกลาง  มีจำนวนมากที่สุด (30.8%)