งานวิจัย : พัฒนาการอ่านและการเขียนของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมเล่า นิทานประกอบการทำสมุดเล่มเล็ก
อนงค์ วรพันธ์ (2545)นิสิตปริญญาโท สาขาการปฐมวัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒได้ทำวิจัยเรื่อง พัฒนาการอ่านและการเขียนของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมเล่านิทานประกอบการทำสมุดเล่มเล็ก กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาเป็นนักเรียนชาย – หญิง อายุระหว่าง 5-6 ปี ชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนแม่พระประจักษ์ เขตจอมทอง จังหวัดกรุงเทพมหานคร โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มคือ กลุ่มทดลองที่ 1,2 และกลุ่มควบคุม เครื่องมือที่ใช้ในการทดลองครั้งนี้คือ นิทาน แผนการเล่านิทานประกอบการทำสมุดเล่มเล็ก และแผนการเล่านิทานแบบปกติ แบบประเมินการอ่าน แบบประเมินการเขียน เด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเล่านิทานประกอบการทำสมุดเล่มเล็กรายบุคคล รายกลุ่ม และกิจกรรมการเล่านิทานแบบปกติ มีพัฒนาการอ่านแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
อนงค์ วรพันธ์. (2545). พัฒนาการอ่านและการเขียนของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมเล่า นิทานประกอบการทำสมุดเล่มเล็ก.ปริญญานิพนธ์ กศ.ม. (การปฐมวัย) กรุงเทพฯ : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.คณะกรรมการควบคุม : รองศาสตราจารย์ ดร.กุลยา ตันติผลาชีวะ, รองศาสตราจารย์ ดร. บุญเชิด ภิญโญอนันตพงษ์.
การศึกษาครั้งนี้มึจุดหมายเพื่อศึกษาและเปรียบเทียบพัฒนาการอ่านและการเขียนของเด็กปฐมที่ได้รับการจัดกิจกรรมเล่านิทานประกอบการทำสมุดเล่มเล็กเป็นรายบุคคลรายกลุ่ม และการเล่านิทานแบบปกติ
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาเป็นนักเรียนชาย – หญิง อายุระหว่าง 5-6 ปี ชั้นอนุบาลปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1ปีการศึกษา 2545 โรงเรียนแม่พระประจักษ์ เขตจอมทอง จังหวัดกรุงเทพมหานคร โดยสุ่มตัวอย่างอย่างง่ายมา 1 ชั้นเรียน แล้วสุ่มอีกครั้ง เพื่อกำหนดเป็นกลุ่มทดลองที่ 1 กลุ่มทดลองที่ 2 และกลุ่มควบคุม ใช้เวลาในการทดลอง 8 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 3 วัน วันละ 20 นาที
เครื่องมือที่ใช้ในการทดลองครั้งนี้คือ นิทาน แผนการเล่านิทานประกอบการทำสมุดเล่มเล็ก และแผนการเล่านิทานแบบปกติ แบบประเมินการอ่าน แบบประเมินการเขียน
ผลการศึกษาพบว่า
-
เด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเล่านิทานประกอบการทำสมุดเล่มเล็กรายบุคคล กิจกรรมการเล่านิทานประกอบการทำสมุดเล่มเล็กรายกลุ่ม และกิจกรรมการเล่านิทานแบบปกติ มีพัฒนาการอ่านแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
-
เมื่อทำการเปรียบเทียบเป็นรายคู่พบว่า คะแนนเฉลี่ยพัฒนาการทางภาษาด้านการอ่าน ของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเล่านิทานประกอบการทำสมุดเล่มเล็กรายกลุ่มแตกต่างจากกลุ่มเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดการเล่านิทานแบบปกติอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01ส่วนเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเล่านิทานประกอบการทำสมุดเล่มเล็กรายบุคคลกับเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเล่านิทานประกอบการทำสมุดเล่มเล็กรายกลุ่มแตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ
-
เด็กปฐมวัยก่อนการจัดกิจกรรมและระหว่างการจัดกิจกรรมการเล่านิทานประกอบการทำสมุดเล็กรายบุคคล รายกลุ่ม และการจัดกิจกรรมการเล่านิทานแบบปกติมีพัฒนาการทางภาษาด้านการเขียนแตกต่างอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ โดยในแต่ละช่วงของการจัดกิจกรรมการเล่านิทานประกอบการทำสมุดเล่มเล็กมีการเปลี่ยนแปลงขั้นพัฒนาการทางภาษาด้านการเขียนสูงขึ้นทุกคน โดยในสัปดาห์ที่ 6 พบว่าพัฒนาการทางภาษาด้านการเขียนสูงสุดอยู่ในขั้นที่ 3 โดยกลุ่มทดลองที่ 1 มีการพัฒนาการทางภาษาด้านการเขียนสูงสุด 6คน กลุ่มทดลองที่ 2มีการพัฒนาการทางภาษาด้านการเขียนสูงสุด 4คน และกลุ่มควบคุมมีพัฒนาการทางภาษาด้านการเขียนสูงสุด 1 คน และในสัปดาห์ที่ 8 พบว่า พัฒนาการทางภาษาด้านการเขียนสูงสุดในขั้นที่ 4 โดยกลุ่มทดลองที่ 1 มีพัฒนาการทางภาษาด้านการเขียนสูงสุด 1 คน กลุ่มทดลองที่ 2 มีพัฒนาการทางภาษาด้านการเขียนสูงสุด 2 คน ส่วนกลุ่มควบคุมยังคงมีพัฒนาการทางภาษาด้านการเขียนอยู่ในขั้นที่ 3 ไม่เพิ่มขึ้น