Happy Reading โดย มูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน

งานวิจัย : ผลของการใช้โปรแกรมการส่งเสริมเด็กปฐมวัยให้มีนิสัยรักการอ่านโดยผู้ปกครอง

สุปราณี  ประคำผอง(2547)  นิสิตปริญญาโท  คณะศึกษาศาสตร์  สาขาวิชาการศึกษาปฐมวัย   มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ  ได้ทำการวิจัยเรื่องผลของการใช้โปรแกรมการส่งเสริมเด็กปฐมวัยให้มีนิสัยรักการอ่านโดยผู้ปกครอง กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ปกครองของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2  อายุระหว่าง 5-6ปี  ภาคเรียนที่ 2  ปีการศึกษา 2546ของโรงเรียนอนุบาลท่าหลวง  อำเภอท่าหลวง  จังหวัดลพบุรี  จำนวน 20คน โปรแกรมการส่งเสริมเด็กปฐมวัยให้มีนิสัยรักการอ่านใช้เวลาทดลอง 10สัปดาห์  ผลการวิจัยพบว่า  ผู้ปกครองที่ใช้โปรแกรมการส่งเสริมเด็กปฐมวัยให้มีนิสัยรักการอ่านมีความรู้ความเข้าใจในการส่งเสริมเด็กปฐมวัยให้มีนิสัยรักการอ่านหลังการทดลองสูงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

สุปราณี  ประคำผอง.  (2547).  ผลของการใช้โปรแกรมการส่งเสริมเด็กปฐมวัยให้มีนิสัยรักการอ่านโดยผู้ปกครอง.  ปริญญานิพนธ์ กศ.ม. (การศึกษาปฐมวัย). กรุงเทพฯ : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.  คณะกรรมการควบคุม : อาจารย์ ดร.สุจินดา  ขจรรุ่งศิลป์, รองศาสตราจารย์ นิภา  ศรีไพโรจน์.

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบความรู้ความเข้าใจของผู้ปกครองในการส่งเสริมเด็กปฐมวัยให้มีนิสัยรักการอ่าน  ก่อนและหลังการใช้โปรแกรมการส่งเสริมเด็กปฐมวัยให้มีนิสัยรักการอ่าน  กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นผู้ปกครองของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2  อายุระหว่าง 5-6ปี  ภาคเรียนที่ 2  ปีการศึกษา 2546ของโรงเรียนอนุบาลท่าหลวง  อำเภอท่าหลวง  จังหวัดลพบุรี  จำนวน 20คน ซึ่งได้มาจากการคัดเลือกแบบเจาะจงโดยใช้เกณฑ์ดังต่อไปนี้  1) อาสาสมัครเข้าร่วมโปรแกรมด้วยความเต็มใจ  2)  สามารถอ่านหนังสือออกและเขียนได้  3)  สามารถเข้าร่วมโปรแกรมตั้งแต่เริ่มจนจบการดำเนินการของโปรแกรม มีผู้ปกครองที่เข้าร่วมโปรแกรมในสัปดาห์แรกจำนวน 40คน  และมีผู้ปกครองที่เข้าร่วมโปรแกรมตั้งแต่เริ่มจนจบการดำเนินการของโปรแกรม  จำนวนทั้งสิ้น 20คน ที่ใช้เป็นกลุ่มตัวอย่าง  โปรแกรมการส่งเสริมเด็กปฐมวัยให้มีนิสัยรักการอ่านใช้เวลาทดลอง 10สัปดาห์  แบบแผนการวิจัยเป็นแบบ One-Group  Pretest-Posttest  Design

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่  โปรแกรมส่งเสริมเด็กปฐมวัยให้มีนิสัยรักการอ่าน  และแบบทดสอบวัดความรู้ความเข้าใจของผู้ปกครองในการส่งเสริมเด็กปฐมวัยให้มีนิสัยรักการอ่านที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น   สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่  สถิติแจกแจงแบบ t-test  Dependent  sample

ผลการวิจัยพบว่า  ผู้ปกครองที่ใช้โปรแกรมการส่งเสริมเด็กปฐมวัยให้มีนิสัยรักการอ่านมีความรู้ความเข้าใจในการส่งเสริมเด็กปฐมวัยให้มีนิสัยรักการอ่านหลังการทดลองสูงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01