Happy Reading โดย มูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน

งานวิจัย : ผลของการใช้กิจกรรมเพื่อนช่วยเพื่อนควบคู่กับการเสริมแรงทางบวกที่มีต่อความสามารถด้านการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวัดชินวราราม

พจนารถ  ศรัทธา (2544)นิสิตปริญญาโท สาขาจิตวิทยาการศึกษา  มหาวิทยาลัยศรีนครินทร-วิโรฒ ได้ทำวิจัยเรื่อง ผลของการใช้กิจกรรมเพื่อนช่วยเพื่อนควบคู่กับการเสริมแรงทางบวกที่มีต่อความสามารถด้านการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5โรงเรียนวัดชินวราราม จังหวัดปทุมธานี กลุ่มตัวอย่างมีจำนวน 45คน ผลการวิจัยพบว่า 1) นักเรียนมีความสามารถด้านการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจเพิ่มขึ้น หลังจากการได้รับการใช้กิจกรรมเพื่อนช่วยเพื่อนควบคู่กับการเสริมแรงทางสังคม, หลังจากการได้รับการใช้กิจกรรมเพื่อนช่วยเพื่อนควบคู่กับการเสริมแรงด้วยเบี้ยอรรถกรและหลังจากการการใช้กิจกรรมตามคู่มือครู อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01  2) นักเรียนที่ได้รับการใช้กิจกรรมเพื่อนช่วยเพื่อนควบคู่กับการเสริมแรงทางสังคม นักเรียนที่ได้รับการใช้กิจกกรรมเพื่อนช่วยเพื่อนควบคู่ไปกับการเสริมแรงด้วยเบี้ยอรรถกร และนักเรียนที่ได้รับการใช้กิจกรรมตามคู่มือครู มีความสามารถด้านการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

 พจนารถ  ศรัทธา.(2544).ผลของการใช้กิจกรรมเพื่อนช่วยเพื่อนควบคู่กับการเสริมแรงทางบวกที่มีต่อความสามารถด้านการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5โรงเรียนวัดชินวราราม จังหวัดปทุมธานี. ปริญญานิพนธ์ กศ.ม. (จิตวิทยาการศึกษา). กรุงเทพฯ :บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. คณะกรรมการควบคุม : รองศาสตราจารย์ กมลรัตน์ กรีทอง,อาจารย์ทัศนา  ทองภักดี

การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเปรียบเทียบผลของการใช้กิจกรรมเพื่อนช่วยเพื่อนควบคู่กับการเสริมแรงทางบวกที่มีต่อความสามารถด้านการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวัดชินวราราม จังหวัดปทุมธานี กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5ที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษต่ำกว่าร้อยละ 69ตามเกณฑ์ของกรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ จำนวน 45คน แล้วสุ่มอย่างง่ายเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มละ 15คน กลุ่มทดลองที่ 1 ได้รับใช้กิจกกรมเพื่อนช่วยเพื่อนควบคู่กับการเสริมแรงทางสังคม กลุ่มที่ 2ได้รับการใช้กิจกรรมเพื่อนช่วยเพื่อนคาบคู่กับการเสริมแรงด้วยเบี้ยอรรถกร และกลุ่มควบคุม ได้รับการใช้กิจกรรมตามคู่มือครู เครื่องมือที่ใช้ในการทดลองคือ แบบทดสอบความสามารถด้านการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ สถิติที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูล คือ การทดสอบค่าที และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว

ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้

  1. นักเรียนมีความสามารถด้านการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจเพิ่มขึ้น หลังจากการได้รับการใช้กิจกรรมเพื่อนช่วยเพื่อนควบคู่กับการเสริมแรงทางสังคม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

  2. นักเรียนมีความสามารถด้านการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจเพิ่มขึ้น หลังจากได้รับการใช้กิจกรรมเพื่อนช่วยเพื่อนควบคู่กับการเสริมด้วยเบี้ยอรรถกรอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

  3. นักเรียนมีความสามารถด้านการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจเพิ่มขึ้น หลังจากการ การใช้กิจกรรมตามคู่มือครู อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

  4. นักเรียนที่ได้รับการใช้กิจกรรมเพื่อนช่วยเพื่อนควบคู่กับการเสริมแรงทางสังคม นักเรียนที่ได้รับการใช้กิจกรรมเพื่อนช่วยเพื่อนควบคู่ไปกับการเสริมแรงด้วยเบี้ยอรรถกร และนักเรียนที่ได้รับการใช้กิจกรรมตามคู่มือครู มีความสามารถด้านการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05ดังรายละเอียดต่อไปนี้

    • 4.1 นักเรียนที่ได้รับการใช้กิจกรรมเพื่อช่วยเพื่อควบคู่กับการเสริมแรงทางสังคม และนักเรียนที่ได้รับการใช้กิจกรรมตามคู่มือครู มีความสามารถด้านการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจเพิ่มขึ้นแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยนักเรียนที่ได้รับการใช้กิจกรรมเพื่อช่วยเพื่อนควบคู่กับการเสริมแรงทางสังคมมีความสามารถด้านการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจเพิ่มขึ้นมากกว่านักเรียนที่ได้รับการใช้กิจกรรมตามคู่มือครู
    • 4.2 นักเรียนที่ได้รับการใช้กิจกรรมเพื่อช่วยเพื่อควบคู่กับการเสริมแรงด้วยเบี้ย อรรถกร และนักเรียนที่ได้รับการใช้กิจกรรมตามคู่มือครู มีความสามารถด้านการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจเพิ่มขึ้นแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยนักเรียนที่ได้รับการใช้กิจกรรมเพื่อช่วยเพื่อนควบคู่กับการเสริมแรงด้วยเบี้ยอรรถกรมีความสามารถด้านการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจเพิ่มขึ้นมากกว่านักเรียนที่ได้รับการใช้กิจกรรมตามคู่มือครู
    • 4.3 นักเรียนที่ได้รับการใช้กิจกรรมเพื่อช่วยเพื่อควบคู่กับการเสริมแรงทางสังคม และนักเรียนที่ได้รับการใช้กิจกรรมเพื่อช่วยเพื่อควบคู่กับการเสริมแรงด้วยเบี้ยอรรถกร มีความสามารถด้านการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ