งานวิจัย : ผลของการสอนตนเองต่อผลสัมฤทธิ์และเจตคติต่อการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

มะลิ หลีทิม  (2544)  นิสิตปริญญาโท  คณะครุศาสตร์  สาขาวิชาจิตวิทยาการศึกษา  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  ได้ทำการวิจัยเรื่องผลของการสอนตนเองต่อผลสัมฤทธิ์และเจตคติต่อการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่3  กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนกระทุ่มแบน "วิเศษสมุทคุณ" จังหวัดสมุทรสาคร  จำนวน 40 คน แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม จำนวนกลุ่มละ 20 คน โดยกลุ่มทดลองได้รับการสอนด้วยวิธีการสอนตนเอง ส่วนกลุ่มควบคุมได้รับการสอนด้วยวิธีการสอนตามคู่มือครู ผลการวิจัยพบว่า นักเรียนกลุ่มทดลองมีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการอ่านภาษาอังกฤษภายหลังการทดลองสูงกว่าก่อนทดลองและสูงกว่ากลุ่มควบคุม  นอกจากนี้  นักเรียนกลุ่มทดลองมีคะแนนเจตคติต่อการอ่านภาษาอังกฤษภายหลังการทดลองสูงกว่าก่อนทดลองและสูงกว่ากลุ่มควบคุมด้วย

มะลิ หลีทิม.  (2544).  ผลของการสอนตนเองต่อผลสัมฤทธิ์และเจตคติต่อการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่3.  วิทยานิพนธ์ ค.ม. (จิตวิทยาการศึกษา). กรุงเทพฯ: บัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.  อาจารย์ที่ปรึกษา:รศ.ดร.ทวีวัฒน์ ปิตยานนท์รศ ดร สมโภชน์ เอี่ยมสุภาษิต.

 

การทำวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการสอนตนเองต่อผลสัมฤทธิ์และเจตคติต่อการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนกระทุ่มแบน "วิเศษสมุทคุณ" จังหวัดสมุทรสาครจำนวน 40 คน โดยผู้วิจัยสุ่มนักเรียนเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม จำนวนกลุ่มละ 20 คน โดยกลุ่มทดลองได้รับการสอนด้วยวิธีการสอนตนเอง ส่วนกลุ่มควบคุมได้รับการสอนด้วยวิธีการสอนตามคู่มือครู หลังจากนั้นให้ทั้งสองกลุ่มทำแบบฝึกหัด เป็นจำนวน16 ครั้ง หลังจากการทดลองครั้งที่ 16 แล้วจึงให้กลุ่มตัวอย่างทั้งหมดทำการทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการอ่านภาษาอังกฤษและเจตคติต่อการอ่านภาษาอังกฤษ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้การวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบสองทางและการวิเคราะห์ความแตกต่างของค่าเฉลี่ยด้วยค่าที 

 

ผลการวิจัยพบว่า นักเรียนกลุ่มทดลองมีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการอ่านภาษาอังกฤษภายหลังการทดลองสูงกว่ากลุ่มควบคุม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 นักเรียนกลุ่มทดลองมีผลสัมฤทธิ์ทางการอ่านภาษาอังกฤษภายหลังการทดลองสูงกว่าก่อนการทดลอง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 นักเรียนกลุ่มทดลองมีคะแนนเจตคติต่อการอ่านภาษาอังกฤษภายหลังการทดลองสูงกว่ากลุ่มควบคุม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และนักเรียนกลุ่มทดลองมีคะแนนเจตคติต่อการอ่านภาษาอังกฤษภายหลังการทดลองสูงกว่าก่อนการทดลอง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05