Happy Reading โดย มูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน

งานวิจัย : การเปรียบเทียบความเข้าใจและความสนใจในการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียนที่ได้รับการสอนตามกลวิธีการเรียนรู้ทางภาษากับการสอนตามคู่มือครู

ปัญชรี ทองวสุทธิ์(2541) นิสิตปริญญาโท สาขาวิชาเอกการมัธยมศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ได้ทำวิจัยเรื่องการเปรียบเทียบความเข้าใจและความสนใจในการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียนที่ได้รับการสอนตามกลวิธีการเรียนรู้ทางภาษากับการสอนตามคู่มือครู กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6โรงเรียนอัสสัมชัญ  เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร จำนวน 90 คน แบ่งเป็น กลุ่มทดลอง ที่ได้รับการสอนอ่านโดยกลวิธีการเรียนรู้ทางภาษา และกลุ่มควบคุมที่ได้รับการสอนอ่านตามคู่มือครู โดยใช้เนื้อหาเดียวกัน เครื่องมือที่ใช้ คือ แผนการสอนกลุ่มทดลอง 8 แผน แผนการสอนกลุ่มควบคุม 8 แผน แบบทดสอบวัดความเข้าใจในการอ่านภาษาอังกฤษ แบบทดสอบวัดความสนใจในการอ่าน ผลการวิจัยพบว่า 1. กลุ่มทดลอง และกลุ่มควบคุม มีความเข้าใจในการอ่านภาษาอังกฤษ และความสนใจในการอ่านภาษาอังกฤษ แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2. . กลุ่มทดลอง และกลุ่มควบคุม มีความเข้าใจในการอ่านภาษาอังกฤษ และความสนใจในการอ่านภาษาอังกฤษ ก่อนและหลังการทดลอง แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

ปัญชรี ทองวสุทธิ์.(2541).การเปรียบเทียบความเข้าใจและความสนใจในการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียนที่ได้รับการสอนตามกลวิธีการเรียนรู้ทางภาษากับการสอนตามคู่มือครู.ปริญญานิพนธ์ กศ.ม. (การมัธยมศึกษา). กรุงเทพฯ : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาเปรียบเทียบความเข้าใจและความสนใจในการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียนที่ได้รับการสอนตามกลวิธีการเรียนรู้ทางภาษากับการสอนตามคู่มือครู

กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2541 โรงเรียนอัสสัมชัญ  เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร จำนวน 90 คน แบ่งออกเป็นกลุ่มทดลอง 45 คน และกลุ่มควบคุม 45 คน ดำเนินการทดลองโดยใช้แผนการวิจัยแบบ Randomized Control Group Pretest – Posttest Design กลุ่มทดลองได้รับการสอนอ่านโดยกลวิธีการเรียนรู้ทางภาษาและกลุ่มควบคุมได้รับการสอนอ่านตามคู่มือครู ใช้เวลาในการเรียนกลุ่มละ 16 คาบ คาบละ 50 นาที โดยใช้เนื้อหาเดียวกัน

เครื่องมือที่ใช้ในการทดลองคือ แผนการสอนกลุ่มทดลอง 8 แผน แผนการสอนกลุ่มควบคุม 8 แผน แบบทดสอบวัดความเข้าใจในการอ่านภาษาอังกฤษจำนวน 30 ข้อ แบบทดสอบวัดความสนใจในการอ่านจำนวน 25 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิจัยคือ t-test ชนิด Dependent และ t-test Independent

ผลการวิจัยพบว่า

  1. นักเรียนที่ได้รับการสอนตามกลวิธีการเรียนรู้ทางภาษากับนักเรียนที่ได้รับการสอนตามคู่มือครู มีความเข้าใจในการอ่านภาษาอังกฤษแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

  2. นักเรียนที่ได้รับการสอนตามกลวิธีการเรียนรู้ทางภาษากับนักเรียนที่ได้รับการสอนตามคู่มือครู มีความเข้าใจในการอ่านภาษาอังกฤษก่อนและหลังการทดลองแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

  3. นักเรียนที่ได้รับการสอนตามกลวิธีการเรียนรู้ทางภาษากับนักเรียนที่ได้รับการสอนตามคู่มือครู มีความสนใจในการอ่านภาษาอังกฤษแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

  4. นักเรียนที่ได้รับการสอนตามกลวิธีการเรียนรู้ทางภาษากับนักเรียนที่ได้รับการสอนตามคู่มือครู มีความสนใจในการอ่านภาษาอังกฤษก่อนและหลังการทดลองแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05