Happy Reading โดย มูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน

งานวิจัย : การเปรียบเทียบความเข้าใจในการอ่านภาษาอังกฤษและความฉลาด ทางอารมณ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ได้รับการสอนแบบมุ่งประสบการณ์ภาษารูปแบบที่ 2 กับการสอนแบบเดิม

เพ็ญลักษณ์  เทศขยัน (2545) นิสิตปริญญาโท สาขาวิชาการมัธยมศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ได้ทำวิจัยเรื่อง การเปรียบเทียบความเข้าใจในการอ่านภาษาอังกฤษและความฉลาดทางอารมณ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1ที่ได้รับการสอนแบบมุ่งประสบการณ์ภาษารูปแบบที่ 2กับการสอนแบบเดิม กลุ่มตัวอย่างเป็น นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1โรงเรียนอัสสัมชัญ กรุงเทพฯ จำนวน 100คน เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ แบบทดสอบวัดความเข้าใจในการอ่านภาษาอังกฤษ และแบบประเมินความฉลาดทางอารมณ์ ผลการวิจัย พบว่า นักเรียนที่ได้รับการสอนแบบมุ่งประสบการณ์ภาษา รูปแบบที่ 2 กับนักเรียนที่ได้รับการสอนแบบเดิม มีความเข้าใจในการอ่านภาษาอังกฤษ และความฉลาดทางอารมณ์แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

เพ็ญลักษณ์  เทศขยัน. (2545). การเปรียบเทียบความเข้าใจในการอ่านภาษาอังกฤษและความฉลาด>ทางอารมณ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่1ที่ได้รับการสอนแบบมุ่งประสบการณ์ภาษารูปแบบที่ 2กับการสอนแบบเดิม. ปริญญานิพนธ์ กศ.ม.(การมัธยมศึกษา). กรุงเทพฯ : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ คณะกรรมการควบคุม รศ.ดร. เสาวลักษณ์  รัตนวิชช์, รศ. อัจฉรา  สุขารมณ์.

การศึกษาวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเปรียบเทียบความเข้าใจในการอ่านภาษาอังกฤษและความฉลาดทางอารมณ์ของนักเรียนที่ได้รับการสอนแบบมุ่งประสบการณ์ภาษา รูปแบบที่2กับการสอนแบบเดิม

กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2545 โรงเรียนอัสสัมชัญ เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร จำนวน 100คน โดยการสุ่มอย่างง่ายแบ่งออกเป็นกลุ่มทดลอง 50คน และกลุ่มควบคุม 50 คน ดำเนินการทดลองโดยใช้แผนการวิจัยแบบ Randomized Control Group Pretest-Posttest Design กลุ่มทดลองได้รับการสอนแบบมุ่งประสบการณ์ภาษา รูปแบบที่ 2 และกลุ่มควบคุมได้รับการสอนแบบเดิม ใช้เวลาในการทดลอง กลุ่มละ 20คาบ คาบละ 50 นาที โดยใช้เนื้อหาเดียวกัน

เครื่องมือที่ใช้ในการทดลองคือ แผนการสอนกลุ่มทดลอง 2 แผน แผนการสอนกลุ่มควบคุม 2 แผน แบบทดสอบวัดความเข้าใจในการอ่านภาษาอังกฤษจำนวน 40 ข้อ แบบประเมินความฉลาดทางอารมณ์จำนวน 52 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิจัยคือ t-testfor independent samples และ  t-test for dependent samples

ผลการวิจัยพบว่า

  1. นักเรียนที่ได้รับการสอนแบบมุ่งประสบการณ์ภาษา รูปแบบที่2 กับนักเรียนที่ได้รับการสอนแบบเดิม มีความเข้าใจในการอ่านภาษาอังกฤษแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
  2. นักเรียนที่ได้รับการสอนแบบมุ่งประสบการณ์ภาษา รูปแบบที่2 กับนักเรียนที่ได้รับการสอนแบบเดิม มีความฉลาดทางอารมณ์แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
  3. นักเรียนที่ได้รับการสอนแบบมุ่งประสบการณ์ภาษา รูปแบบที่2  มีความเข้าใจในการอ่านภาษาอังกฤษ ก่อนและหลังการทดลองแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
  4. นักเรียนที่ได้รับการสอนแบบเดิม มีความเข้าใจในการอ่านภาษาอังกฤษ ก่อนและหลังการทดลองแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
  5. นักเรียนที่ได้รับการสอนแบบมุ่งประสบการณ์ภาษา รูปแบบที่2มีความฉลาดทางอารมณ์ ก่อนและหลังการทดลองแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
  6. นักเรียนที่ได้รับการสอนแบบเดิม มีความฉลาดทางอารมณ์ ก่อนและหลังการทดลอง แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01