มูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน | Reading Culture Promotion Foundation

งานวิจัย : การอ่านข่าวจากหนังสือพิมพ์และหนังสือพิมพ์ออนไลน์: ศึกษาเปรียบเทียบปริมาณข้อมูลที่ได้อ่าน ความจำและความพึงพอใจของผู้อ่าน

มณทิรา อินคชสาร (2539) นิสิตปริญญาโท  คณะครุศาสตร์  สาขาวิชาการหนังสือพิมพ์  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  ได้ทำการวิจัยเรื่องการอ่านข่าวจากหนังสือพิมพ์และหนังสือพิมพ์ออนไลน์: ศึกษาเปรียบเทียบปริมาณข้อมูลที่ได้อ่าน ความจำและความพึงพอใจของผู้อ่าน  โดยกลุ่มตัวอย่างเป็นนิสิต  ผลจากการทดลองพบว่า ผู้ที่อ่านข่าวจากน.ส.พ.ออนไลน์สามารถอ่านข่าวในระดับความนำได้มากกว่าผู้ที่อ่านข่าวจาก น.ส.พ.  แต่ในการอ่านข่าวถึงระดับเนื้อหาผู้ที่อ่านข่าวจากน.ส.พ.สามารถอ่านข่าวได้มากกว่าผู้ที่อ่านข่าวจาก น.ส.พ.ออนไลน์ อย่างไรก็ตามทั้งผู้ที่อ่านข่าวจากน.ส.พ.และน.ส.พ.ออนไลน์สามารถจดจำเนื้อหาข่าวได้ในจำนวนชิ้นข่าวที่ไม่แตกต่างกัน แต่ผู้ที่อ่านข่าวจากน.ส.พ.ออนไลน์สามารถจดจำข้อมูลได้ถูกต้องตามข้อเท็จจริงมากกว่าผู้ที่อ่านข่าวจากน.ส.พ. สำหรับด้านความสามารถในการดึงดูดความสนใจของรูปภาพและกราฟิคพบว่า รูปภาพและกราฟิคเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญในอันดับต้น ๆ ที่สามารถดึงดูดความสนใจของผู้อ่าน ในส่วนของความพึงพอใจก็พบว่าผู้ที่อ่านข่าวจากน.ส.พ.และน.ส.พ.ออนไลน์จะรู้สึกพึงพอใจต่อลักษณะต่างๆ ของน.ส.พ.ทั้ง 2 ประเภทแตกต่างกันไป 

มณทิรา อินคชสาร.  (2539).  การอ่านข่าวจากหนังสือพิมพ์และหนังสือพิมพ์ออนไลน์: ศึกษาเปรียบเทียบปริมาณข้อมูลที่ได้อ่าน ความจำและความพึงพอใจของผู้อ่าน.  วิทยานิพนธ์ นศ.ม. (การหนังสือพิมพ์). กรุงเทพฯ: บัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.  อาจารย์ที่ปรึกษา:ดร.ดวงกมล ชาติประเสริฐ.

 

การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงทดลอง มีวัตถุประสงค์ที่จะศึกษารูปแบบการอ่านและการรับรู้ของผู้อ่านจากการอ่านหนังสือพิมพ์และหนังสือพิมพ์ออนไลน์และความพึงพอใจของผู้อ่านในการอ่านข่าวจากสื่อแต่ละประเภท โดยจะมีการจัดการทดลองเป็น 2 ครั้ง ครั้งแรกใช้ข่าวภาษาอังกฤษและครั้งที่2 ใช้ข่าวภาษาไทยในการทดลอง การทดลองครั้งแรกใช้นิสิตเป็นผู้ร่วมทดลอง 26 คนแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกอ่านข่าวจากน.ส.พ. 'The Nation'และกลุ่มที่ 2 อ่านข่าวจาก 'Nation Online' ระบบเมนูข่าวสาร ส่วนการทดลองครั้งที่ 2 ใช้นิสิตจำนวน 30 คน โดยจะแบ่งเป็น 2 กลุ่มเช่นกัน ทั้งนี้จะจัดให้กลุ่มหนึ่งอ่าน น.ส.พ.'กรุงเทพธุรกิจ' และให้อีกกลุ่มอ่าน 'กรุงเทพธุรกิจออนไลน์' ระบบไฮเปอร์เท็กซ์ หลังจากอ่านข่าวจะให้ผู้ร่วมทดลองทั้งหมดทำแบบทดสอบความจำและแบบสอบถามถึงพฤติกรรมการใช้สื่อและความพึงพอใจจากการใช้สื่อแต่ละประเภท ในส่วนของจำนวนข่าวที่ได้อ่านจะมีการวัดโดยให้กลุ่มที่อ่าน น.ส.พ.ขีดเส้นข้างคอลัมน์ที่ได้อ่าน และจะมีการสังเกตการอ่านข่าวของกลุ่มที่อ่าน น.ส.พ.ออนไลน์ขณะที่ผู้ร่วมทดลองอ่านข่าวจากคอมพิวเตอร์ 

 

ผลจากการทดลองพบว่า ผู้ที่อ่านข่าวจากน.ส.พ.ออนไลน์สามารถอ่านข่าวในระดับความนำได้มากกว่าผู้ที่อ่านข่าวจากน.ส.พ. (t=2.07, p<.05) แต่ในการอ่านข่าวถึงระดับเนื้อหาผู้ที่อ่านข่าวจากน.ส.พ.สามารถอ่านข่าวได้มากกว่าผู้ที่อ่านข่าวจากน.ส.พ.ออนไลน์ (t=3.06, p<.01) 

 

อย่างไรก็ตามทั้งผู้ที่อ่านข่าวจากน.ส.พ.และ น.ส.พ.ออนไลน์สามารถจดจำเนื้อหาข่าวได้ในจำนวนชิ้นข่าวที่ไม่แตกต่างกัน (p<.05)และเมื่อเปรียบเทียบความจำต่อชิ้นข่าวพบว่า ผู้ที่อ่านข่าวจากน.ส.พ.ออนไลน์สามารถจดจำข้อมูลได้มากกว่าผู้ที่อ่านข่าวจากน.ส.พ. (t=2.73 และ t=3.26, p<.01) แต่เมื่อเปรียบเทียบความจำข้อมูลโดยรวมของบุคคลโดยไม่พิจารณาจำนวนชิ้นข่าวพบว่า ทั้งการอ่านข่าวจาก น.ส.พ.และ น.ส.พ.ออนไลน์ผู้อ่านสามารถจดจำเนื้อหาข่าวได้ไม่แตกต่างกัน (p<.05) ในส่วนของความจำข้อมูลที่ถูกต้องตามข้อเท็จจริงพบว่าผู้ที่อ่านข่าวจากน.ส.พ.ออนไลน์สามารถจดจำข้อมูลได้ถูกต้องตามข้อเท็จจริงมากกว่าผู้ที่อ่านข่าวจากน.ส.พ. (t=2.63 และ(t=2.84, p<.01) แต่ถ้าเปรียบเทียบความจำข้อมูลที่ถูกต้องโดยเฉลี่ยของแต่ละกลุ่มก็พบว่า ทั้งผู้ที่อ่านข่าวจากน.ส.พ.และ น.ส.พ. ออนไลน์สามารถจดจำข้อมูลได้ถูกต้องตามข้อเท็จจริงได้ไม่แตกต่างกัน (p<.05) 

 

นอกจากนี้จากการศึกษาถึงความสามารถในการดึงดูดความสนใจของรูปภาพและกราฟฟิคก็พบว่า รูปภาพและกราฟฟิคเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญในอันดับต้น ๆ ที่สามารถดึงดูดความสนใจของผู้อ่าน ในส่วนของความพึงพอใจก็พบว่าผู้ที่อ่านข่าวจากน.ส.พ.และ น.ส.พ.ออนไลน์จะรู้สึกพึงพอใจต่อลักษณะต่าง ๆของ น.ส.พ.ทั้ง 2 ประเภทแตกต่างกันไป