Happy Reading โดย มูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน

งานวิจัย : การศึกษาเปรียบเทียบความเข้าใจในการอ่าน ความสามารถในการเขียน และเจตคติต่อการเรียนวิชาภาษาไทยของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่ได้รับการสอนแบบมุ่งประสบการณ์ภาษากับการสอนตามคู่มือครู

วิภาวี  แป้นเรือง(2546)  นิสิตปริญญาโท สาขาการมัธยมศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ได้ทำงานวิจัยเรื่อง การศึกษาเปรียบเทียบความเข้าใจในการอ่าน ความสามารถในการเขียนและเจตคติต่อการเรียนวิชาภาษาไทยของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2ที่ได้รับการสอนแบบมุ่งประสบการณ์ภาษากับการสอนตามคู่มือครู กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนจากโรงเรียนหนองหญ้าไซวิทยา จังหวัดสุพรรณบุรี จำนวน 60 คน แบ่งออกเป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม อย่างละ 30 คน ผลการวิจัย พบว่า 1) ความเข้าใจในการอ่านภาษาไทย ความสามารถในการเขียนภาษาไทย และ เจตคติต่อการเรียนวิชาภาษาไทยของกลุ่มของทดลองและกลุ่มควบคุมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 2) ตัวแปรทั้งสามของกลุ่มทดลอง ก่อนและหลังแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 3) ตัวแปรทั้งสามตัวของกลุ่มควบคุม ก่อนและหลังแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

วิภาวี  แป้นเรือง.(2546).  การศึกษาเปรียบเทียบความเข้าใจในการอ่าน ความสามารถในการเขียน และเจตคติต่อการเรียนวิชาภาษาไทยของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่2ที่ได้รับการสอนแบบมุ่งประสบการณ์ภาษากับการสอนตามคู่มือครู. ปริญญานิพนธ์ กศ.ม. (การมัธยมศึกษา). กรุงเทพฯ : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.คณะกรรมการควบคุม :ผู้ช่วยศาสตราจารย์สุมานิน  รุ่งเรืองธรรม, รองศาสตราจารย์อัจฉรา  สุขารมณ์.

การศึกษาครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อ ศึกษาเปรียบเทียบความเข้าใจการอ่าน ความสามารถในการเขียนและเจตคติต่อการเรียนวิชาภาษาไทยของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่2ที่ได้รับการสอนแบบมุ่งประสบการณ์ภาษา รูปแบบที่ 3 กับการสอนตามคู่มือครู

กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่2โรงเรียนหนองหญ้าไซวิทยา อำเภอหนองหญ้าไซ จังหวัดสุพรรณบุรี ภาคเรียนที่ 1ปีการศึกษา 2545จำนวน 60 คน โดยสุ่มอย่างง่ายเป็นกลุ่มทดลอง 30คน และกลุ่มควบคุม 30 คน กลุ่มทดลองได้รับการสอนแบบมุ่งประสบการณ์ภาษา รูปแบบที่ 3กลุ่มควบคุมได้รับการสอนตามคู่มือครูของหน่วยศึกษานิเทศก์ กรมสามัญศึกษา ใช้เวลาในการทดลองกลุ่มละ 20คาบ คาบละ 50นาทีโดยใช้เนื้อหาเดียวกัน ดำเนินการทดลองโดยใช้แบบแผนการวิจัยแบบ Randomized Control Group Pretest-Posttest Design

เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลคือ แบบทดสอบความเข้าใจในการอ่าน แบบทดสอบวัดความสามารถในการเขียนและแบบสอบถามเจตคติต่อการเรียนวิชาภาษาไทย วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ t-testแบบ Independent และ t-test แบบ Dependent

ผลการศึกษาพบว่า

  1. ความเข้าใจในการอ่านภาษาไทยของกลุ่มของทดลองและกลุ่มควบคุมแตกต่างกันอย่าง มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

  2. ความสามารถในการเขียนภาษาไทยของกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมแตกต่างกันอย่าง มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

  3. เจตคติต่อการเรียนวิชาภาษาไทยของกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมแตกต่างกันอย่างมี นัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

  4. ความเข้าใจในการอ่านภาษาไทยของกลุ่มทดลอง ก่อนและหลังแตกต่างกันอย่างมี นัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

  5. ความสามารถในการเขียนภาษาไทยของกลุ่มทดลอง ก่อนและหลังแตกต่างกันอย่างมี นัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

  6. เจตคติต่อการเรียนวิชาภาษาไทยของกลุ่มทดลอง ก่อนและหลังแตกต่างกันอย่างมี นัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

  7. ความเข้าในในการอ่านภาษาไทยของกลุ่มควบคุม ก่อนและหลังแตกต่างกันอย่างมี นัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

  8. ความสามารถในการเขียนภาษาไทยของกลุ่มควบคุม ก่อนและหลังแตกต่างกันอย่างมี นัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

  9. เจตคติต่อการเรียนวิชาภาษาไทยของกลุ่มควบคุม ก่อนและหลังแตกต่างกันอย่างมี นัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01