Happy Reading โดย มูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน

งานวิจัย : การศึกษาความสามารถอ่านคำและความสนใจในการอ่านของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน จากการใช้ชุดพัฒนาทักษะการอ่าน

จรัสกร เล็กตระกูล. (2553).  นิสิตปริญญาโท สาขาวิชาการศึกษาพิเศษ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ได้ศึกษาความสามารถอ่านคำและความสนใจในการอ่านของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน จากการใช้ชุดพัฒนาทักษะการอ่าน กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน มีระดับการสูญเสียการได้ยิน 90 เดซิเบลขึ้นไป ซึ่งได้รับการตรวจวัดการได้ยินจากนักแก้ไขการได้ยินและมีใบรับรองความพิการ ใช้ภาษามือในการสื่อสาร มีระดับสติปัญญาปกติ และไม่มีความพิการอื่น กำลังศึกษาอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ในโรงเรียนเศรษฐเสถียร ในพระราชูปถัมภ์ จำนวน 6 คน ใช้เวลาในการทดลองสัปดาห์ละ 5 วัน ในเวลาเสริมนอกเวลาเรียน วันละ 60 นาที เป็นเวลา 4 สัปดาห์ รวมเป็น 20 ครั้ง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนภาษาแบบผสมผสาน แบบฝึกทักษะประจำหมวดการเรียน แบบฝึกทักษะประจำหมวดการเรียนโดยใช้กับคอมพิวเตอร์ แบบทดสอบวัดความสามารถอ่านคำ และแบบสอบถามวัดความสนใจในการอ่าน ผลการวิจัยพบว่า หลังการสอนจากการใช้ชุดพัฒนาทักษะการอ่าน ความสามารถอ่านคำของกลุ่มตัวอย่างอยู่ในระดับดีมาก  และสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ส่วนความสนใจในการอ่านของกลุ่มตัวอย่างยอยู่ในระดับมาก

จรัสกร เล็กตระกูล. (2553). การศึกษาความสามารถอ่านคำและความสนใจในการอ่านของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน จากการใช้ชุดพัฒนาทักษะการอ่าน ปริญญานิพนธ์ กศ.ม. (การศึกษาพิเศษ). กรุงเทพฯ: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. คณะกรรมการควบคุม: ผู้ช่วยศาสตรจารย์ ดร.ดารณี ศักดิ์ศิริผล, ผู้ช่วยศาสตรจารย์ ดร.ไพฑูรย์ โพธิสาร.

การวิจัยมีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาความสามารถอ่านคำและความสนใจในการอ่านของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน จากการใช้ชุดพัฒนาทักษะการอ่าน กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน มีระดับการสูญเสียการได้ยิน 90 เดซิเบลขึ้นไป ซึ่งได้รับการตรวจวัดการได้ยินจากนักแก้ไขการได้ยินและมีใบรับรองความพิการ ใช้ภาษามือในการสื่อสาร มีระดับสติปัญญาปกติ และไม่มีความพิการอื่น กำลังศึกษาอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2552 ในโรงเรียนเศรษฐเสถียร ในพระราชูปถัมภ์ เลือกโดยวิธีเจาะจง (Purposive sampling) จำนวน 6 คน ใช้เวลาในการทดลองสัปดาห์ละ 5 วัน ในเวลาเสริมนอกเวลาเรียน วันละ 60 นาที เป็นเวลา 4 สัปดาห์ รวมเป็น 20 ครั้ง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนภาษาแบบผสมผสาน แบบฝึกทักษะประจำหมวดการเรียน แบบฝึกทักษะประจำหมวดการเรียนโดยใช้กับคอมพิวเตอร์ แบบทดสอบวัดความสามารถอ่านคำ และแบบสอบถามวัดความสนใจในการอ่าน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่ามัธยฐาน ค่าพิสัยควอไทล์ และสถิติทดสอบ The Wilcoxon Matched-Pairs Signed-Ranks Test

ผลการวิจัยพบว่า

  1. ความสามารถอ่านคำของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีความบกพร่องทางการได้ยินหลังการสอนจากการใช้ชุดพัฒนาทักษะการอ่านอยู่ในระดับดีมาก
  2. ความสามารถอ่านคำของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีความบกพร่องทางการได้ยินหลังการสอนจากการใช้ชุดพัฒนาทักษะการอ่าน สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
  3. ความสนใจในการอ่านของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีความบกพร่องทางการได้ยินหลังการสอนจากการใช้ชุดพัฒนาทักษะการอ่านอยู่ในระดับมาก