Happy Reading โดย มูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน

งานวิจัย : การพัฒนารูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจภาษาไทยของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

พวงผกา  สุฤทธิ์ (2545)  นักศึกษาปริญญาโท  คณะศึกษาศาสตร์  สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน   มหาวิทยาลัยเชียงใหม่  ได้ทำการวิจัยเรื่องการพัฒนารูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจภาษาไทยของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6  กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6  โรงเรียนบ้านปงสนุก  อำเภอปัว  จังหวัดน่าน  จำนวน 24 คน  ผลการวิจัยพบว่า 1.  รูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจภาษาไทยที่พัฒนาขึ้นมี 3 ขั้นตอน  คือ  ขั้นเตรียมความพร้อมก่อนอ่าน  ขั้นกิจกรรมการอ่านในใจ  และขั้นกิจกรรมหลังการอ่านในใจ 2.  ผลของการใช้รูปแบบการสอน พบว่า  ค่าเฉลี่ยคะแนนทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจภาษาไทยของนักเรียนด้านการอ่านข้อเท็จจริง  การอ่านเพื่อตีความ  และการอ่านเพื่อวิจารณ์หรืออย่างมีวิจารณญาณ  หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01  และนักเรียนส่วนใหญ่มีความเห็นเชิงบวกต่อรูปแบบการสอนโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก

พวงผกา  สุฤทธิ์.  (2545).   การพัฒนารูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจภาษาไทยของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6.  วิทยานิพนธ์ (หลักสูตรและการสอน). เชียงใหม่ : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.  คณะกรรมการสอบวิทยานิพนธ์ : ผู้ช่วยศาตราจารย์ ดร.อำภา  ด่านภักดี, รองศาสตราจารย์ ดร.เสริมศรี  ไชยศร, ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ผจงกาญจน์  ภู่วิภาดาวรรธน์.

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ  1) พัฒนารูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจ  2) ศึกษาผลของการใช้รูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6   กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย  ได้แก่  นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6  โรงเรียนบ้านปงสนุก  อำเภอปัว  จังหวัดน่าน  ภาคเรียนที่ 2  ปีการศึกษา 2544  จำนวน 24 คน

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย  ได้แก่  แผนการสอนโดยใช้รูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจภาษาไทยที่พัฒนาขึ้น  แบบทดสอบวัดทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจภาษาไทย  และแบบสอบถาม  สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล  ได้แก่  ค่าร้อยละ  และการทดสอบค่าที

ผลการวิจัย  สรุปได้ดังนี้

รูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจภาษาไทยที่พัฒนาขึ้นมี 3 ขั้นตอน  คือ

  • 1.1  ขั้นเตรียมความพร้อมก่อนอ่าน  โดยสร้างพื้นฐานประสบการณ์  และตั้งจุดประสงค์การอ่าน
  • 1.2  ขั้นกิจกรรมการอ่านในใจ  ประกอบด้วย
    • 1.2.1  ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน  โดยใช้เพลงหรือนิทาน
    • 1.2.2  ขั้นสอน  โดยการทำนายเหตุการณ์ล่วงหน้า  การหาความหมายของคำ  อ่านในใจเป็นตอนๆ  การเล่าเรื่องย้อนกลับ  ถามคำถามและตอบคำถาม
    • 1.2.3  ขั้นสรุป  โดยการเขียนเรื่องจากภาพการ์ตูน  การอภิปราย  และทำหนังสือเล่มใหญ่
  • 1.3  ขั้นกิจกรรมหลังการอ่านในใจ  โดยใช้กิจกรรมภาพการ์ตูน  การประเมินผล
  • 2.  ผลของการใช้รูปแบบการสอนนี้พบว่า
  • 2.1  ค่าเฉลี่ยคะแนนทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจภาษาไทยของนักเรียนด้านการอ่านข้อเท็จจริง  การอ่านเพื่อตีความ  และการอ่านเพื่อวิจารณ์หรืออย่างมีวิจารณญาณ  หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
  • 2.2  นักเรียนส่วนใหญ่มีความเห็นเชิงบวกต่อรูปแบบการสอนนี้โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก