Happy Reading โดย มูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน

งานวิจัย : การปรียบเทียบความเข้าใจในการอ่านและความรับผิดชอบต่อการเรียนวิชาภาษาไทยของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่ได้รับการสอนแบบร่วมมือตามวิธีเอสทีเอดีกับวีธรการสอนตามคู่มือครู

วาสนา ไตรวัฒนธงไชย (2543)นิสิตปริญญาโท สาขาการมัธยมศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ได้ทำวิจัยเรื่อง การเปรียบเทียบความเข้าใจในการอ่านและความรับผิดชอบต่อการเรียนวิชาภาษาไทยของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่ได้รับการสอนแบบร่วมมือตามวิธีเอสทีเอดี กับวีธีการสอนตามคู่มือครู กลุ่มตัวอย่างจำนวน 72 คน จากโรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง”อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี ผลการศึกษาพบว่า 1) นักเรียนที่ได้รับการสอนโดยการเรียนแบบร่วมมือตามวิธีเอสทีดีเอกับนักเรียนที่ได้รับการสอนตามคู่มือครูมีความเข้าใจและความรับผิดชอบ ในการอ่านภาษาไทยแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01  2) นักเรียนที่ได้รับการสอนโดยการเรียนแบบร่วมมือตามวิธีเอสทีดีเอ และนักเรียนที่ได้รับการสอนตามคู่มือครู ก่อนและหลังการทดลองมีความเข้าใจในการอ่านภาษาไทยและความรับผิดชอบต่อวิชาภาษาไทย แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 

นางสาววาสนา  ไตรวัฒนธงไชย.(2543).  การปรียบเทียบความเข้าใจในการอ่านและความรับผิดชอบต่อการเรียนวิชาภาษาไทยของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่2 ที่ได้รับการสอนแบบร่วมมือตามวิธีเอสทีเอดีกับวีธรการสอนตามคู่มือครู. ปริญญานิพนธ์ กศ.ม. (การมัธยมศึกษา).ปริญญานิพนธ์ กศ.ม.(การมัธยมศึกษา). กรุงเทพฯ : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. คณะกรรมการควบคุม:ผู้ช่วยศาตราจารย์ สุมานิน รุ่งเรืองธรรม, รองศาสตราจารย์ อัจฉรา  สุขารมณ์.

การศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อเปรียบเทียบความเข้าใจในการอ่านและความรับผิดชอบต่อการเรียนวิชาภาษาไทยของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่2ที่ได้รับการสอนแบบร่วมมือตามวิธีเอสทีเอดีกั บวิธีการสอนตามคู่มือครู

กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่2 โรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง”อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2541 จำนวน 72 คนซึ่งได้มาจากการสุ่มอย่างง่าย แบ่งออกเป็นกลุ่มทดลอง 36คน กลุ่มควบคุม 36 คน ดำเนินการทดลองโดยใช้แผนการวิจัยแบบวิจัยแบบ Randomized Control Group Pretest –Posttest Designกลุ่มทดลองใช้การสอนแบบร่วมมือตามวิธีเอสทีดีเอ และกลุ่มควบคุมใช้วิธีการสอนตามคู่มือครู ใช้เวลาในการทดลองกลุ่มละ 16คน คาบละ 50 นาที โดยใช้เนื้อหาเดียวกัน

เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลคือ แบบทดสอบวัดความเข้าใจในการอ่านภาษาไทย แบบสอบถามวัดความรับผิดชอบต่อการเรียนวิชาภาษาไทย วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ t-testfor Randomized Control Group Pretest –Posttest Design กลุ่มทดลองใช้การสอนแบบร่วมมือตามวิธีเอสทีดีเอ และกลุ่มควบคุมใช้วิธีการสอนตามคู่มือครู ใช้เวลาในการทดลองกลุ่มละ 16คาบคาบละ 50 นาที โดยใช้เนื้อหาเดียวกัน

เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลคือ แบบทดสอบวัดความเข้าใจในการอ่านภาษาไทย แบบทดสอบถามวัดความรับผิดชอบต่อการเรียนวิชาภาษาไทย วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ  t-test for Independent Samples และ t-test for Dependent Samples

ผลการศึกษาค้นคว้า พบว่า

  1. นักเรียนที่ได้รับการสอนโดยการเรียนแบบร่วมมือตามวิธีเอสทีดีเอกับนักเรียนที่ได้รับการสอนตามคู่มือครูมีความเข้าใจในการอ่านภาษาไทยแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

  2. นักเรียนที่ได้รับการสอนโดยการเรียนแบบร่วมมือตามวิธีเอสทีดีเอกับนักเรียนที่ได้รับการสอนตามคู่มือครูมีความรับผิดชอบต่อการอ่านภาษาไทยแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

  3. นักเรียนที่ได้รับการสอนโดยการเรียนแบบร่วมมือตามวิธีเอสทีดีเอ ก่อนและหลังการทด ลองมีความเข้าใจในการอ่านภาษาไทยแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

  4. นักเรียนที่ได้รับการสอนตามคู่มือครู ก่อนและหลังการทดลองมีความเข้าใจในการอ่าน ภาษาไทยแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

  5. นักเรียนที่ได้รับการสอนโดยการเรียนแบบร่วมมือตามวิธีเอสทีดีเอ ก่อนและหลังการทด ลองมีความรับผิดชอบต่อการเรียนวิชาภาษาไทยแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

  6. นักเรียนที่ได้รับการสอนตามคู่มือครู ก่อนและหลังการทดลองมีความรับผิดชอบต่อ การเรียนวิชาภาษาไทยแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01