Happy Reading โดย มูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน

Youssef Ziedan นักเขียนอียิปต์เจ้าของ Arabic Booker Prize2009 โดย : นงค์ลักษณ์ เหล่าวอ

 

 
Azazeel นวนิยายแนวประวัติศาสตร์-เทววิทยา ที่พูดถึงเรื่องราวความขัดแย้งของความเชื่อแบบเก่าและคริสต์ศาสนาที่เข้ามายังอียิปต์ตอนบน
 
ปีนี้เป็นปีที่สองของการมอบรางวัลนานาชาติสำหรับนวนิยายอาหรับ (International Prize for Arabic Fiction-IPAF) หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า Arabic Booker Prize ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเครือข่ายของรางวัลบุ๊คเกอร์ ผู้สนับสนุนหลักคือมูลนิธิเอมิเรตส์ในกรุงอาบู ดาบี โดยการร่วมมือกับมูลนิธิรางวัลบุ๊คเกอร์ ซึ่งก่อตั้งขึ้นโดยกลุ่มบริษัทแมนกรุ๊ป ประเทศอังกฤษ กรุงลอนดอน
 
Arabic Booker Prize เป็นรางวัลที่มอบให้แก่นวนิยายที่เขียนเป็นภาษาอาหรับซึ่งยังไม่เคยแปลหรือตีพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษมาก่อน (กรณีแปลและพิมพ์เป็นภาษาอื่นไม่ผิดกติกา) นักเขียนต้องได้รับการเสนอผลงานผ่านทางสำนักพิมพ์และเป็นนักเขียนอาหรับเท่านั้น แต่ละสำนักพิมพ์คัด 3 ผลงานส่งเข้าร่วมพิจารณาได้ นักเขียนหนึ่งคนส่งนวนิยายได้เพียงหนึ่งเรื่องและต้องเป็นนักเขียนที่ยังมีชีวิตอยู่ ทั้ง Arabic Booker Prize และMan Asian Literary Prize  ต่างเป็นรางวัลที่เปรียบเสมือนสาขาของบุ๊คเกอร์ไพรซ์ ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนผลงานของนักเขียนที่เขียนนวนิยายด้วยภาษาของตัวเอง เมื่อได้รับรางวัลชนะเลิศผลงานชิ้นนั้นจะได้รับการแปลเป็นภาษาอังกฤษโดยอัตโนมัติเพื่อเผยแพร่ในระดับนานาชาติ
 
โจนาธาน เทย์เลอร์ ประธานคณะกรรมการรางวัลนานาชาติสำหรับนวนิยายอาหรับ กล่าวว่า "พวกเราดีใจที่การมอบรางวัลนานาชาติสำหรับนวนิยายอาหรับดำเนินการมาเป็นปีที่สองและรู้สึกปลาบปลื้มเป็นอย่างมากที่ได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่น และมีความตื่นเต้นที่รางวัลนี้เป็นที่รู้จักในกลุ่มประเทศอาหรับและนานาชาติ"
 
Arabic Booker Prize ก่อตั้งขึ้นมาปี 2007 และมีการมอบรางวัลครั้งแรกปี 2008 นักเขียนที่ได้รับรางวัลคนแรกคือ บาหอา ทาเฮอร์ (Bahaa Taher–นักเขียนชาวอียิปต์ ตีพิมพ์ในคอลัมน์นี้เมื่อ 11 พ.ค.51) จากนวนิยายเรื่อง Sunset Oasis สำหรับปี 2009 นักเขียนที่คว้า Arabic Booker Prize ยังคงเป็นนักเขียนจากอียิปต์นาม ยูสเซฟ ซีดาน (Youssef Ziedan) ผู้เขียนนวนิยายเรื่อง Azazeel หรือในชื่อภาษาอังกฤษคือ Beelzebub
 
 
ยูสเซฟ เกิดทางตอนบนของอียิปต์เมื่อปี 1958 ปู่ของเขาพาย้ายมาอยู่ที่อเล็กซานเดรียตั้งแต่ยังแบเบาะ เขาจึงถูกเลี้ยงดูและเติบโตมาในเมืองแห่งนี้ เข้าศึกษาต่อด้านปรัชญาที่มหาวิทยาลัยอเล็กซานเดรียจนสำเร็จ summa cum laude ศึกษาระดับปริญญาโทเน้นด้านปรัชญาและนิกายของอิสลาม สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกตอนอายุ 29 โดยทำวิทยานิพนธ์เรื่อง The Qadiri Sufi Order, with a study and edition of the poetical works of Abdul Qadir al-Jilani ปัจจุบันเป็นศาสตราจารย์ด้านประวัติศาสตร์และปรัชญาอิสลาม ที่มหาวิทยาลัยอเล็กซานเดรีย และเป็นผู้อำนวยการหอจดหมายที่มหาวิทยาลัยแห่งเดียวกัน เขายังเป็นทั้งนักวิชาการอิสระและคอลัมนิสต์
 
ด้านงานเขียนนั้น ยูสเซฟ ผลิตงานเขียนและมีหนังสือออกมาแล้วมากกว่า 50 ปก นอกจากนี้ยังมีรายงานต่างๆ อีกกว่า 80 รายการ ยูสเซฟให้ความสนใจด้านแพทยศาสตร์ของอิสลาม และเก็บรวบรวมข้อมูลมรดกด้านอายุรเวชที่ตกทอดจากอดีตมาสู่ปัจจุบันผ่านทางประวัติศาสตร์ของชาวอาหรับ เรียกได้ว่าสนใจด้านอาหรับศึกษาทุกแขนงและอุทิศตนในการรวบรวมข้อมูลเหล่านี้เพื่อเป็นมรดกแก่ชนรุ่นหลังได้ศึกษา เขาเริ่มเขียนนวนิยายตอนอายุ 40 ปี ผลงานเขียนของยูสเซฟแบ่งเป็นประเภทได้แก่ งานเขียนเกี่ยวกับนิกายในศาสนาอิสลาม, ปรัชญาอิสลาม, ประวัติศาสตร์แพทยศาสตร์อิสลาม, หนังสือจดหมายเหตุรวบรวมเอกสารสำคัญ และการวิจารณ์วรรณกรรมและนวนิยาย
 
Zil al-Af’a หรือ Shadow of the Serpent เป็นนวนิยายเล่มแรก ซึ่งเล่าถึงเรื่องของผู้หญิงออกมาอย่างร่วมสมัย ว่าบทบาทของสตรียังถูกทำให้ผิดรูปแบบไป รวมถึงการถูกกระทำอย่างอื่น เขาเล่าผ่านเรื่องราวในประวัติศาสตร์ที่กินความมาจนถึงยุคปัจจุบัน เมื่อนวนิยายออกสู่สาธารณะจึงถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าโครงสร้างในเรื่องผิดแผกไม่เหมือนใครและเป็นวิชาการมากเกินไป
 
สำหรับ Azazeel เป็นนวนิยายแนวประวัติศาสตร์-เทววิทยาที่พูดถึงเรื่องราวความขัดแย้งของความเชื่อแบบเก่าและคริสต์ศาสนาที่เข้ามายังตอนบนของอียิปต์ อเล็กซานเดรีย และตอนเหนือของซีเรีย ในเรื่องมีพระอียิปต์ที่มีส่วนรับรู้ถึงความขัดแย้งในการเผยแผ่ศาสนาคริสต์ พอหนังสือวางแผงก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่ากำลังสร้างชนวนให้ผู้อ่านเข้าใจคริสต์ศาสนาผิดไป
 
"ผมไม่ได้เป็นปฏิปักษ์ต่อศาสนาคริสต์ แต่ผมต่อต้านความรุนแรง โดยเฉพาะความรุนแรงที่อ้างว่าเกิดขึ้นในนามของศาสนา…นวนิยายเล่มนี้ชี้ให้เห็นว่ามนุษย์แปลกแยกตัวเองออกจากศาสนา ในชีวิตจริงนั้น มนุษย์เราถูกโครงสร้างของศาสนาทำให้คลุมเครือ ศาสนาแบ่งแยกพวกเราด้วยความฝันที่เคร่งครัด ซึ่งไม่มีวันที่เราจะเข้าใจ เพราะว่ามันขัดกับจริตของมนุษย์" ยูสเซฟ กล่าว
 
Azazeel ไม่ใช่นวนิยายที่เหมาะหรืออ่านได้ทุกเพศทุกวัย ซึ่งยูสเซฟวางไว้แต่แรกแล้วว่าผู้อ่านควรจะเป็นกลุ่มอายุเท่าไหร่ขึ้นไป เขาใช้เทคนิคในการเขียนด้วยการสร้างจินตนาการเอาไว้ในวงเล็บ เพื่อให้รู้สึกว่าผู้เขียนไม่ได้มีส่วนในการเล่าเรื่องทั้งเรื่อง เขาต้องการให้ผู้อ่านมีส่วนร่วมในนวนิยาย เป็นส่วนหนึ่ง  และรู้สึกสับสนเช่นเดียวกับที่เขารู้สึกเวลาที่เขียนนวนิยายเรื่องนี้ ยูสเซฟทำตัวเป็นนักอ่านในฐานะของนักเขียนในคราเดียวกัน เขาไม่ต้องการเป็นผู้เล่าเรื่องแต่ฝ่ายเดียว แต่ต้องการให้ตัวเอกของเรื่องเล่าเรื่องและมีปฏิกิริยากับผู้อ่านในระดับที่ลึก เขาปล่อยให้ตัวละครในเรื่องเป็นคนพูดเอง ด้วยภาษาของพวกเขา และด้วยโลกทัศน์ของตัวละคร
 
แล้วกับสถานการณ์ปัจจุบันและก่อนหน้านี้ที่ถูกโจมตีจากผู้อ่าน ยูสเซฟ กล่าวถึงการเผชิญหน้ากับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า "แน่นอนว่าผมต้องได้รับและต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีที่ไม่ได้คาดคิดมาก่อน แต่ผมไม่ยอมปล่อยให้ตัวเองเข้าไปเผชิญหน้าตรงๆ ผมยืดหยุ่นกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากทางโบสถ์  เพราะว่าผมรอให้คนที่โกรธผม ชิงชังนิยายของผมได้อ่าน Azazeel ด้วยหัวใจที่เปิดกว้าง และผมอยากให้พวกเขาเฉยเมยไปเสีย ถ้าพวกเขาไม่เข้าใจความหมายลึกๆ ที่ซ่อนอยู่ในนวนิยายเรื่องนี้"
 
ประธานกรรมการตัดสินรางวัล Youmna el Eid กล่าวว่า "เนื่องจากกรรมการตัดสินรางวัลมีความคิดเห็นที่หลากหลายกว่าจะมาลงเอยที่ผลงานเรื่องนี้ พวกเรามีความเห็นร่วมกันว่านวนิยายที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย ผลงานที่จะได้รับรางวัลต้องมีมิติในความลึก มันไม่ง่ายเลยที่จะต้องตัดสินใจเลือกมาเพียงหนึ่งเล่ม เพราะทั้ง 6 เล่มที่ผ่านเข้ารอบตัดเชือกมีมาตรฐานในระดับที่สูงพอๆ กัน"
 
 
นวนิยายที่ผ่านเข้ารอบทั้ง 6 เรื่องจะได้รับเงิน 10,000 ปอนด์ โดยอัตโนมัติและเมื่อได้รับรางวัลชนะเลิศจะได้รับเพิ่มอีก 50,000 ปอนด์ สำหรับผลงานทั้ง 6 เล่มในรอบตัดเชือกได้แก่ Azazeel – Youssef Ziedan (อียิปต์-ชนะเลิศ), Hunger – Mohammad Al Bisatie (อียิปต์), The Unfaithful Translator – Fawwaz Haddad (ซีเรีย), The American Granddaughter – Inaam Kachachi (อิรัก), Time of White Horses – Ibrahim Nasrallah (จอร์แดน-ปาเลสไตน์)  และThe Scents of Marie – Habib Selmi (ตูนีเซีย)
 
ปีนี้มีนักเขียนและผลงานผ่านเข้ารอบแรกทั้งหมด 131 คนจาก 16 ประเทศ
 
 
ที่มา
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/life-style/read-write/20090418/34212/Youssef-Ziedanนักเขียนอียิปต์เจ้าของ-Arabic-Booker-Prize2009.html