The Little Prince เจ้าชายน้อย ฉบับแปลงกาย

'Le Petit Prince' หรือ 'The Little Prince' ที่นักอ่านชาวไทยรู้จักในนาม 'เจ้าชายน้อย' วรรณกรรมเยาวชนคลาสสิกของ อองตวน เดอ แซง-เตกซูเปรี
อองตวน เดอ แซง-เตกซูเปรี (Antoine de Saint-Exupery) นักเขียนที่มีชื่อเสียงชาวฝรั่งเศส แม้จะล่วงลับไปแล้ว แต่ผลงานของเขายังตรึงใจคนอ่านทั่วโลกมาจนถึงวันนี้
ผ่านไปกี่ยุคกี่สมัย…ผ่านหลายฝีมือการแปลในหลายภาษาทั่วโลก และผลงานการแปลฉบับภาษาไทยโดย อำพรรณ โอตระกูล
วันนี้อมตะเจ้าชายน้อยถูกแปลงโฉมอีกครั้งโดย อธิชา มัญชุนากร กาบูล็อง นักแปลหนังสือมืออาชีพ ในรูปของการ์ตูน สังกัดสำนักพิมพ์กำมะหยี่ โดยเจ้าของงานแปลชิ้นนี้เล่าว่าเคยสัมผัสเจ้าชายน้อยครั้งแรกเมื่อตอนอายุ 18 ปี
"ตอนนั้นอ่านไม่เข้าใจ แต่รู้สึกทำไมคนชอบจัง เอ๊ะ! มันต้องมีอะไร เวลาผ่านไปหลายปีก็กลับไปอ่านอีกรอบ ก็รู้สึกชอบและรู้สึกว่าตอนนั้นเราพลาดไปได้อย่างไร" ด้วยความที่เป็นเด็กอาจยังไม่เข้าใจสิ่งที่คนเขียนสื่อความหมาย แต่เมื่อผ่านชีวิตผ่านประสบการณ์ได้เข้ามาในโลกการเป็นผู้ใหญ่และกลับไปอ่านข้อความในนั้น จึงได้เข้าใจแล้วว่า คนเขียนแฝงอะไรไว้ แง่คิดที่ได้ในตอนเด็กกับเมื่อโตช่างแตกต่างกันเหลือเกิน
"เราจะมองเห็นสิ่งต่างๆ ชัดเจน เมื่อมองด้วยหัวใจ สิ่งที่สำคัญไม่อาจมองเห็นได้ด้วยตา" ข้อความหนึ่งที่หมาจิ้งจอกบอกกับเจ้าชายน้อยและตรึงอยู่ในจิตใจแฟนๆ เจ้าชายผู้ไร้เดียงสา เช่นเดียวกับ โจอันน์ สฟาร์ (Joann Sfar) 1 ใน 2 นักวาดการ์ตูนมืออาชีพที่มีชื่อเสียงที่สุดในฝรั่งเศส เขาคือนักวาดการ์ตูนมือใหม่เจ้าของจินตนาการโลกแห่งเจ้าชายน้อยที่ทุกคนกำลังสัมผัส
อธิชา เล่าความผูกพันของนักวาดการ์ตูนกับเจ้าชายน้อยว่า… "สฟาร์มีสิ่งหนึ่งที่แอบแฝงอยู่ในวรรณกรรมนี้ แม่ของเขาเสียเมื่อตอนเด็กๆ แล้วผู้ใหญ่บอกเขาว่าแม่ไม่อยู่…ออกไปข้างนอกเดี๋ยวก็กลับมา จนกระทั่งวันหนึ่งคุณตาก็เอาเจ้าชายน้อยมาอ่านให้ฟัง นั่นคือความประทับใจ" ภาพจินตนาการของสฟาร์ที่ปรากฏในวันนี้ จึงหลุดจากภาพเดิมๆ ที่ติดตรึงในความทรงจำแฟนๆ เจ้าชายน้อยเมื่ออดีต
'เจ้าชายน้อย' ฉบับการ์ตูน นอกจากจะคงเรื่องราวความตื่นเต้น จินตนาการที่เกิดขึ้นในดินแดนไกล ยังช่วยเปิดโลกจินตนาการให้กับเด็กๆ ด้วยเนื้อหา ภาษาที่เรียบง่าย ประกอบภาพสีสันสวยงาม "ด้วยคาแรคเตอร์ของตัวละครที่น่าสนใจ เอกลักษณ์ลายเส้นที่เฉพาะตัวของนักวาด ที่ไม่ใช่ภาพเสมือนจริงเกินไป ตัวละครบางตัวรูปร่างเพี้ยนๆ จึงเหมาะจะเป็นแรงบันดาลใจการเป็นนักวาดของเด็กๆ ตรงนี้ก็เป็นเสน่ห์ทำให้เวลาเปิดอ่านไปได้เรื่อยๆ ที่สำคัญยังจุดประกายให้เด็กรักการอ่านอีกด้วย"
พอออกมาเป็นการ์ตูนรูปร่างจึงแตกต่างจากต้นฉบับเดิม บรรดานักรักเจ้าชายน้อยที่เป็นผู้ใหญ่ก็จะได้กลับมาเจอเพื่อนเก่าคนเดิมในรูปแบบใหม่ ที่สวยงาม ขณะเดียวกันเด็กรุ่นใหม่จะมีโอกาสเปิดประตูสู่โลกของเจ้าชายน้อยได้ง่ายขึ้น
สำหรับแฟนตัวจริงของเจ้าชายน้อยตั้งแต่เวอร์ชั่นแรกจนเวอร์ชั่นนี้ จิระนันท์ พิตรปรีชา ยังคงติดตามการเติบโตของเจ้าชายน้อย เธอบอกว่า "อ่านครั้งแรกตอนไหนจำไม่ได้นานมาแล้ว แต่จำได้ว่าครั้งแรกที่ชอบคือภาพประกอบลายเส้นที่อินโนเซนส์มาก ชอบที่สุดคือภาพงูกลืนช้าง ซึ่งเวอร์ชั่นใหม่นี้กล้ามาก ไม่นึกว่าภาพงูกลืนช้างจะเล็กนิดเดียวแทบจะเอากล้องส่องเลยก็ว่าได้ คือเขาวาดได้อย่างไร?"
แม้การอ่านครั้งแรกจะไม่เข้าใจเนื้อหาว่าเขาจะสื่ออะไร แต่นักเขียนซีไรต์ก็อ่านจนวางไม่ลง "วรรณกรรมเรื่องนี้สามารถสร้างจินตนาการของเด็กได้จริงๆ ซึ่งเราก็ได้ความรู้สึกนั้น บางครั้งเหมือนที่เราตั้งปัญหากับโลก โดยใช้วัตถุสิ่งของอย่างตอน 'คนจุดตะเกียง' เราก็ถามว่าทำไมต้องดับตะเกียงทุกวัน ซึ่งนั่นคือปัญหาที่เด็กมองผู้ใหญ่ แต่ผู้ใหญ่กลับบอกว่านั่นคือหน้าที่รับผิดชอบ ไม่ต้องเข้าใจหรอก เราก็อึดอัดกับผู้ใหญ่ แต่มันคือสิ่งที่ถูกต้องอย่างเดียวที่เราต้องเชื่อฟัง"
จิระนันท์ กล่าวอีกว่า เจ้าชายน้อยฉบับ 'Original' เป็นวรรณกรรมอารมณ์บทกวี เหมือนฟังเพลงไปได้เรื่อยๆ เป็นตัวแทนการตั้งคำถามแบบสนใจใคร่รู้ ฉบับนี้เป็นสีสันที่ง่ายต่อเด็กหรือผู้ใหญ่ที่ชอบการ์ตูน คนที่เคยหลงใหลในเจ้าชายน้อยก็จะได้หวนรำลึกถึงความหลังด้วยและเหมาะที่จะเป็นนิยายภาพโดยเนื้อหาของเขาเอง สามารถแปลงโฉมเจ้าชายน้อยจากภาพที่ติดตาติดใจมาคนอ่านมา 10-20 ปี ได้อย่างน่าอัศจรรย์
แม้ผ่านมาแล้วถึง 5 ทศวรรษที่เจ้าชายน้อยครองดวงใจนักอ่านไม่รู้กี่รุ่น แม้จะถูกนำมารีเมคใหม่ไม่ว่าจะเป็นการ์ตูน ภาพยนตร์ ละครเวที และการแสดงรูปแบบอื่นๆ ความที่เรียบง่าย ไร้เดียงสา แต่แฝงแง่คิด มุมมองดีๆ ทั้งคติ ปรัชญาและความจริงของมนุษย์
ใครได้สัมผัสต้องหลงเสน่ห์…ทำให้เป็นเจ้าชายน้อยที่นิรันดร์กาลที่สุด
อัญชัญ แวงชัยภูมิ
หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ