Happy Reading โดย มูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน

Ko Un ผู้เป็นบทกวี

 

 
โคอุน – เป็นกวีผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งของโลกและเป็นกวีเกาหลีร่วมสมัยผู้มีชื่อเสียงมากที่สุด
 
 
ผีเสื้อสีขาว
ดูสิ
ผีเสื้อสีขาวตัวหนึ่ง
เจตภูต  โบยบิน
เหนือทะเลแห่งความโง่เขลา
 
หนังสือของโลกนี้ถูกปิดไปหมดแล้ว
(จาก White Butterfly ของ Ko Un)
 
โคอุน – เป็นกวีผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งของโลกและเป็นกวีเกาหลีร่วมสมัยผู้มีชื่อเสียงมากที่สุด  ซึ่งภราดาแอนโธนีแห่งแตเซ & ลีซางหวา  ผู้แปลงานของเขาเป็นภาษาอังกฤษ  กล่าวใน Cirise Press (Fall/ Winter 2011-2012) ว่า
 
“แน่ละ  เหตุผลหนึ่งเกี่ยวเนื่องกับการแปล    งานของเขาเรียกร้องให้มีการแปล    ถึงปัจจุบัน  งานของเขาฉบับแปลตีพิมพ์กว่าสามสิบเล่มในสิบห้าภาษาเป็นอย่างน้อย”
 
เขาเริ่มเขียนบทกวีตั้งแต่เยาว์วัย  และแต่นั้นมาก็ได้รับการกล่าวขวัญว่าเขียนบทกวีทุกลมหายใจ    แอลเลน  กินสเบอร์ก  กวีอเมริกันผู้ล่วงลับ  กล่าวว่า
 
“โคอุน  เป็นกวีคนพิเศษ  ผู้ซึ่งเป็นส่วนผสมของผู้เชี่ยวชาญในพุทธศาสนา  นักเสรีนิยมผู้เคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างเร่าร้อน  และนักประวัติศาสตร์โดยธรรมชาติ"
 
โคอุน เขียนมากกว่ากวีคนใดๆ ในเกาหลี  และผลิตงานหลากหลายเป็นจำนวนมาก  ไม่ว่าบทกวีสั้นๆ สองสามบรรทัด  บทกวีพรรณนาขนาดยาว  บทกวีบรรยายชีวิตในชนบท    ผู้เป็นกวีเคยกล่าวว่า  ถ้างานของตนมีคุณภาพไม่มากพอ ๆ กับปริมาณแล้วก็จะเลิกเขียนทันที
 
มาสเตอร์พีซของโคอุน ได้แก่ มันอินโบ (หมื่นชีวิต)  ซึ่งเป็นบทกวีสั้นๆ เกี่ยวกับปัจเจกบุคคลที่หลากหลาย    “มันเป็นเสมือนฝูงผีเสื้อ”  เขาให้สัมภาษณ์กับเดวิด  แพลตเตอร์  บรรณาธิการ Cordite Poetry Review (1 December 2009)  
 
“บทกวีแต่ละชิ้นแตกต่างกัน  แต่ละบทเกี่ยวกับบุคคลต่างๆ   ดังนั้น  ในแต่ละบทผมต้องหาสไตล์หรือรูปแบบที่เหมาะสมกับสิ่งที่ผมอยากจะพูดถึงบุคคลนั้นๆ  จึงมีสไตล์และรูปแบบหลากหลาย    ผมไม่ได้สนใจในรูปแบบ – เนื้อหาสร้างรูปแบบขึ้นมาเอง”
 
เวลา  ภาพลวง  ความหวัง  ความสงบ  และเซนมักเป็นสารัตถะสำคัญในกวีนิพนธ์ของโคอุน
 
บทเพลงหนึ่ง
ลมพัด
โดยตัวเอง
 
เธอเป็นหญ้า
ฉันเป็นต้นไม้
 
ลมพัดอีกครั้ง
คลื่นกระจาย
เหนือทะเลยามเย็น
 
เราเปลี่ยนแปลงเสมอ
 
(จาก  A Certain Song ของ Ko Un)
 
Ko Un เกิด ค.ศ. 1933  ที่เมืองคุนซัน  จังหวัดชอลลาบุก    ระหว่างสงครามเกาหลี (1950-1953) อันโหดร้าย  เขาเสียสติและพยายามฆ่าตัวตายครั้งแรก  ซึ่งเขาได้พยายามอีกสี่ครั้งในช่วง 20 ปีต่อมา    ก่อนยุติสงคราม  เขาบวชเป็นพระในพุทธศาสนา    ในช่วงสิบปีถัดมา  เขาปฏิบัติเซนอย่างเคร่งครัดและเดินทางไปทั่วประเทศ
 
ในปี 1957  เขาก่อตั้งหนังสือพิมพ์พุทธศาสนา  และเริ่มตีพิมพ์บทกวี  ความเรียง  และนวนิยาย    ครั้นปี 1962  เมื่อเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในฐานะกวีและเป็นเจ้าอาวาสวัดสำคัญ ๆ หลายวัดแล้ว  เขาก็ลาออกจากคณะสงฆ์
 
ระหว่างปี 1963-1966  เขาปลีกตัวไปอยู่บนเกาะเชจู  ก่อตั้งโรงเรียนการกุศล  สอนศิลปะและวรรณกรรมเกาหลี  เขียนบทกวีเชิงสัญลักษณ์อันลึกซึ้งงดงาม  และได้รับความทุกข์ทรมานจากการนอนไม่หลับและติดสุราเรื้อรัง    ในช่วงปี 1967-1973  กลับมาอยู่กรุงโซลและผลิตงานจำนวนมาก    ครั้นปี 1973  เขาก็ตื่นขึ้นมารับรู้ความเป็นจริงของประเทศจากการเผาตัวเองของกรรมกรผู้ไร้การศึกษาคนหนึ่ง  ซึ่งทำให้เขาเข้าร่วมกิจกรรมทางการเมืองและสังคมเพื่อต่อต้านระบอบทหาร  และยังเข้าร่วมในการต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนและคนงาน
 
เมื่อก่อตั้งสมาคมนักเขียนเพื่อเสรีภาพในปี 1974  เขาเป็นเลขานุการคนแรกของสมาคม    ระหว่างปี 1974-1982  เขาถูกบีบคั้นโดยองค์กรสืบราชการลับของเกาหลี (KCIA) หลายครั้งและเป็นเวลานาน  ด้วยการจับกุม  กักบริเวณ  คุมขัง  ทรมาน  และจำคุก    ในปี 1980  เขาถูกตัดสินจำคุก 30 ปี  แต่ต้องโทษอยู่สองปีครึ่ง  ก็ได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสระจากการนิรโทษกรรมทั่วไป
 
ในปี 1983  เมื่ออายุห้าสิบ  เขาแต่งงานกับลี  ซางหวา  อาจารย์วรรณกรรมอังกฤษ  และลงหลักปักฐานที่เมืองอันซอง  ทางใต้ของกรุงโซล    สองปีต่อมาก็ได้ลูกสาวคนหนึ่ง    พร้อมกับชีวิตสมรสนี้  ก็เริ่มช่วงเวลาแห่งการผลิตอันไม่มีใครเสมอเหมือนในประวัติวรรณกรรมเกาหลี – นักวิจารณ์คนหนึ่งเรียกว่า “การปะทุของกวีนิพนธ์”    นักวิจารณ์เรียกขานเขาว่า “Ko Uns”  แทน  “Ko Un”  เพราะพลังอันเหลือเชื่อของกวีผู้นี้  ซึ่งได้ผลิตงานมากมายและหลากหลายราวกับการระเบิดของภูเขาไฟ
 
โคอุน เขียนเกี่ยวกับตัวเองว่า
 
“กวีนิพนธ์เป็นดาวเหนือของฉัน    มีคนพูดว่าฉันถูกลิขิตมาเป็นกวี  แต่ฉันไม่ได้ปรารถนาที่จะจบชีวิตของตนในฐานะกวี    อีกนัยหนึ่ง  ฉันหวังว่าฉันจะได้เป็นบทกวีในวาระสุดท้ายของกวี    บทกวี  มิใช่กวี!”
 
เสียงกระซิบ
…ฝนตก
ฉันนั่งอยู่ที่โต๊ะ
โต๊ะพูดเงียบ ๆ
ครั้งหนึ่งฉันเป็นดอกไม้  เป็นใบ  เป็นต้น
ฉันหยั่งรากใต้ดิน
ที่เหยียดยาวไปไกลถึงโอเอซิส
ในทะเลทรายโพ้น
 
…ฝนหยุด
ฉันออกไปข้างนอก
หญ้าชุ่มโชกบอกฉัน
ครั้งหนึ่งฉันเป็นความรู้สึกแห่งความรื่นรมย์
และความเศร้าโศกของเธอ
ฉันเป็นชีวิตและบทเพลงของเธอ
ฉันเป็นความฝันของเธอ
 
…ตอนนี้ฉันพูด
กับโต๊ะ
กับเหล็ก
กับโลก
ครั้งหนึ่งฉันเป็นเธอ  เป็นเธอ  เป็นเธอ
ตอนนี้ฉันเป็นเธอ  ฉันเป็นเธอ
 
(จาก The Whisper ของ Ko Un)
 
ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ